จับตา Cannes Yachting Festival อีเวนต์ระดับโลกงานแรกในห้วงโควิด

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในระดับโลกยังอยู่ในช่วงขาขึ้น สถานการณ์ในหลายประเทศยังน่าเป็นห่วง การจัดอีเวนต์ใหญ่ ๆ ที่ดึงคนจากนานาชาติมาร่วมงานยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะมาตรการของรัฐ หรือเพราะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยังไม่มีความมั่นใจที่จะเข้าร่วมงาน จึงทำให้งานเกิดขึ้นไม่ได้ อย่างในบ้านเราที่จังหวัดบุรีรัมย์ต้องงดจัดการแข่งขัน MOTO GP ทำให้พลาดรายได้กว่า 2 พันล้าน

แต่ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์การระบาดคลี่คลายแล้ว กำลังจะจัดงาน Cannes Yachting Festival 2020 ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งนี่เป็นงานแสดงเรืองานใหญ่ระดับโลกงานแรก และอาจจะนับเป็นอีเวนต์ใหญ่งานแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่จัดขึ้นในห้วงที่โควิดยังระบาดอยู่

ก่อนหน้านี้ Monaco Yacht Show 2020 งานลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่งกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 23-26 กันยายนได้ประกาศยกเลิกการจัดงานไปแล้ว แต่ Cannes Yachting Festival 2020 ที่ผู้จัดบอกว่า “มีความพร้อมมากกว่า” ยังเดินหน้าจัดงานตามกำหนดการเดิมในวันที่ 8-13 กันยายนนี้

Cannes Yachting Festival เป็นงานจัดแสดงเรือยอชต์ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก จัดงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1977 ยังไม่เคยเว้นสักปี ถึงปีนี้ก็นับเป็นครั้งที่ 43 แล้ว ชาวไทยผู้ชื่นชอบเรือยอชต์อาจจะเคยไปร่วมงานนี้กันบ้างแล้ว

ในงานปีนี้จะมีเจ้าของเรือยอชต์ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ นำเรือเข้ามาร่วมจัดแสดงกว่า 420 ลำ รวมถึงเรือใหม่ที่จะเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ด้วย ผู้ผลิต-จำหน่ายสินค้า ซึ่งรวมถึงผู้เล่นรายใหญ่เกือบทั้งหมดในอุตสาหกรรมการเดินเรือฝรั่งเศสและนานาชาติ จะนำโปรดักต์ที่พัฒนาใหม่ ๆ มาประชันกันในงานนี้

งานจะจัดขึ้นในบริเวณท่าเรือ 2 แห่งในเมืองคานส์ สำหรับเรือยนต์ 340 ลำจะจัดแสดงที่ท่าเรือ Vieux Port ส่วนเรือใบ 80 ลำ จัดแสดงที่ท่าเรือ Port Canto ซึ่งจะมีรถและเรือรับ-ส่งระหว่างสองท่าเรือตลอดช่วงเวลาที่จัดงาน

ผู้จัดงานบอกว่า การจัดงานในบริบทปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะอยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุข เรือและบูทจัดแสดงจะถูกติดตั้งจัดวางตามแผนมาตรการสุขภาพและความปลอดภัยทั่วไป ซึ่งทางผู้จัดเทศกาลได้ร่างขึ้นมาแล้วนำเสนอต่อผู้บริหารเมืองคานส์และซัพพลายเออร์แล้ว

จากสถิติปีก่อน ๆ งาน Cannes Yachting Festival มีเหล่าผู้ชื่นชอบเรือสำราญเข้าร่วมงานมากกว่า 50,000 คน สำหรับปีนี้ที่สถานการณ์ยังไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ก็ต้องรอดูกันว่าจะมีคนเข้าร่วมงานมากน้อยแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จตามเป้าหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่า การที่ผู้จัดงานเดินหน้าจัดงานในเวลาแบบนี้ ถือว่าเป็นผู้กล้าที่อาสาเป็นหนูทดลองให้ผู้จัดงานอื่น ๆ ได้เห็นว่าการจัดงานในเวลาแบบนี้จะได้ผลเป็นอย่างไร แล้วเก็บข้อมูลไปวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจว่าควรจะจัดงานของตัวเองหรือไม่

ไม่แน่ว่าถ้างานนี้ประสบความสำเร็จ และไม่ได้เป็นจุดที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาด เราอาจได้เห็นอีเวนต์ใหญ่อื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา มีทางเลือกให้ผู้คนได้ออกไปผ่อนคลาย ทำกิจกรรมนอกบ้านได้มากกว่านี้