ไลฟ์สไตล์ชาวปารีเซียงในช่วงโควิด อาจเป็นโอกาสของธุรกิจไทย

หอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งเมืองปารีส
Photo by THOMAS SAMSON / AFP

ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่โดนผลกระทบหนักจากโควิด-19 ตั้งแต่การระบาดทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้การใช้ชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของชาวปารีเซียงที่อยู่ในปารีส เมืองแห่งแฟชั่นและสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกแห่งหนึ่งของโลกเปลี่ยนไป ส่งผลให้เกิดวิถีชีวิตใหม่ ๆ ขึ้นมากมายหลายด้าน และนี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจไทย

ลิปสติกถูกเมิน

จากเดิมที่คนส่วนใหญ่ต้องตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน กลายเป็นการนั่งทำงานจากที่พักอาศัย รวมทั้งถุงมือยางและหน้ากากอนามัยก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน

นับตั้งแต่ช่วงวิกฤตสูงสุดของการระบาดที่รัฐบาลฝรั่งเศสมีมาตรการกักตัวประชาชนเป็นระยะเวลานานกว่า 2 เดือน จนถึงปัจจุบันที่มีข้อบังคับให้ทุกคนต้องสวมหน้ากาก สาวชาวปารีสที่ธรรมดาขึ้นชื่อว่ารักสวยรักงามเป็นอันดับต้น ๆ ลดระดับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงและเสริมความงามลง ขั้นตอนการบำรุงผิวและเสริมความงามของหญิงสาวบางคนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

จากการสำรวจของบริษัท NPD Group พบว่า สินค้าลิปสติกมียอดจำหน่ายลดลงมาก แต่สินค้ากลุ่มสกินแคร์หรือครีมบำรุงผิวตกลงไม่มากนัก เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ผิวพรรณยังต้องได้รับการดูแลเหมือนเดิม ส่วนกลุ่มเครื่องสำอางแบบติดทนนาน กันน้ำ กันเหงื่อ หรือกันเลอะเลือน กลับมาได้รับความนิยมสูงขึ้นมากเช่นกัน ในช่วงเวลาที่สาว ๆ จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยในชีวิตประจำวัน

จักรยานกลับมาเป็นพาหนะยอดนิยม

นโยบายการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร เป็นไปค่อนข้างลำบากสำหรับระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่ต่าง ๆ ที่มักมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จึงได้เกิดแนวคิดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหันมาเดิน หรือใช้จักรยาน เป็นพาหนะทางเลือก

ในกรุงปารีสมีการปิดถนนรวมประมาณ 50 กิโลเมตร โดยเฉพาะในเส้นทางที่ซ้อนทับทางรถไฟใต้ดินสายสำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้จักรยานหรือเดินได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งช่วยลดมลพิษ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้โรคกลับมาระบาดได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้เปิดให้บริการจุดจอดรถสำคัญ ณ บริเวณชานเมือง เพื่อให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ไกลจากตัวเมือง ขับรถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อนำมาจอดโดยไม่เสียค่าบริการ และสามารถใช้บริการจักรยานสาธารณะ หรือเดินต่อไปยังจุดหมาย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะทางเลือกมากขึ้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงปารีส ให้ข้อมูลต่อผู้ประกอบการไทยว่า จากปัจจัยทั้งหมดรวมกันนี้อาจส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานมากยิ่งขึ้น ทั้งในกรุงปารีสตลอดจนถึงเมืองใหญ่อื่น ๆ และนี่เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย เพราะฝรั่งเศสนำเข้ายางนอกจักรยานจากทั่วโลกในปี 2562 เป็นมูลค่า 41.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการนำเข้าจากไทยถึง 13.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือนับเป็นร้อยละ 31 ของการนำเข้ารวม

ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสนี้ในการเตรียมความพร้อมทางด้านสินค้าที่เกี่ยวข้องกับจักรยาน โดยปัจจุบันสินค้าเกี่ยวกับจักรยานที่ไทยส่งออกไปยังฝรั่งเศสเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ ยางนอก และยางในของจักรยาน

Photo by Thomas SAMSON / AFP

ช่องทางช็อปปิ้งที่เปลี่ยนไป

มาตรการยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รัฐประกาศใช้บังคับให้ผู้บริโภคต้องลดการเดินทางลงไปโดยปริยาย ทั้งยังต้องเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายหรือการสัมผัสต่อเชื้อโรคได้ ส่งผลให้ลักษณะพฤติกรรมการบริโภคของผู้ซื้อเปลี่ยนไป โดยหันมาจับจ่ายสินค้าจากช่องทางอื่น เช่น ห้างค้าปลีกที่อยู่ใกล้ที่พักอาศัยมากที่สุด ซึ่งโดยมากจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต หรือห้างค้าปลีกขนาดกลางและเล็ก แม้กระทั่งในพื้นที่ชนบทที่มีจำนวนร้านค้าปลีกไม่มากนัก แต่ผู้บริโภคเลือกที่จะจับจ่ายสินค้าจากร้านค้าปลีกสะดวกซื้อขนาดเล็กมากกว่าร้านค้าปลีกขนาดใหญ่

ส่วนการสั่งซื้อออนไลน์จากเว็บไซต์ของห้างค้าปลีกและไปรับสินค้าด้วยตนเองนั้น จากเดิมที่มีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 13 ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ กลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 74 ในช่วงกักตัว

การบริโภคสบู่เพิ่มสูงขึ้น

ประชาชนเพิ่มการรักษาสุขอนามัยเป็นพิเศษโดยทำความสะอาดมือและร่างกายบ่อยกว่าปกติ หลังจากกลับบ้าน หรือสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคในที่สาธารณะ จึงจำเป็นต้องหันมาใช้สบู่ในการทำความสะอาดมือ และทำให้ความต้องการของสบู่ในตลาดฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ขณะเดียวกันกระแสการบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 ทำให้การบริโภคสบู่ทั่วไปที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งด้วยเช่นกัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงปารีส ยังแนะนำว่าเป็นโอกาสในการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเสนอสบู่ชนิดใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด ซึ่งอาจเป็นสบู่ที่ใช้ส่วนผสมตามธรรมชาติที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิต เช่น น้ำมันมะพร้าว และพืชสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีเอกลักษณ์หรือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทย อย่างไรก็ดี สบู่เป็นสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอาง ซึ่งการส่งออกมายังประเทศในสหภาพยุโรปจะต้องเป็นไปตามกฎระเบียบว่าด้วยการนำเข้าเครื่องสำอางอย่างเคร่งครัด