Immersive Art of Thawan Duchanee นิทรรศการที่ต่อยอดให้ผลงาน อ.ถวัลย์ มีชีวิต

ก่อนหน้านี้ถ้าอยากชมผลงานของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อย่างเต็มอิ่มก็ต้องเดินทางไปดูที่บ้านดำ จังหวัดเชียงราย แต่ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่เราสามารถไปชมผลงานของอาจารย์ถวัลย์ได้ในกรุงเทพฯ พอดิบพอดีกับห้วงเวลาปลายปีที่มีวันหยุดให้ใช้เวลาผ่อนคลายอย่างเต็มที่

ผลงานมาสเตอร์พีซกว่า 40 ชิ้นของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ถูกนำมาจัดแสดง ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม หนึ่งแลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในชื่อนิทรรศการ “Immersive Art of Thawan Duchanee” โดย ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี ลูกชายของอาจารย์ถวัลย์เป็นผู้จัดงาน

“Immersive Art of Thawan Duchanee” ไม่ใช่เพียงการนำผลงานบนผืนผ้าใบมาจัดแสดง แต่ยังเป็นการยกระดับการจัดแสดงผลงานด้วยการผสานเทคโนโลยี AR และ VR เข้าไป ทำให้ผู้ชมได้สนุกและตื่นตาตื่นใจกับผลงานที่นำมาจัดแสดง

นิทรรศการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ นิทรรศการทั่วไปที่จัดแสดง ณ ธารา ฮอลล์ หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ โถงชั้น M ส่วนนี้เข้าชมได้เลยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และอีกส่วนหนึ่งเป็น Immersive Art จัดแสดงที่ไอคอนสยามพาร์ค ชั้น 2 ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งส่วนนี้มีค่าเข้าชม 350 บาท แต่พิเศษสำหรับน้อง ๆ นักเรียนเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าเข้าชม

ไฮไลต์ของนิทรรศการนี้อยู่ในส่วน Immersive Art คือการจัดแสดงชุด “Lightning of the Soul” เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นความยาว 20 นาที ที่นำผลงานของอาจารย์ถวัลย์มาผสานเทคโนโลยี VR เข้าไป แล้วนำเสนอโดยฉายบนเพดานของโดมจัดแสดงที่เรียกว่า Immersive 360 fulldome หรือโรงภาพยนตร์ 360 องศา ซึ่งงานนี้บริษัท ฟูลโดม โปร จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีโรงภาพยนตร์แบบโดมระดับโลกได้ระดมคนทำงานจากทั่วโลก ทั้งด้านแสง สี เสียง และแอนิเมเตอร์ฝีมือระดับฮอลลีวูดมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นพิเศษเพื่อจัดแสดงในงานนี้เป็นครั้งแรก

ภายในโดมที่จัดวางเก้าอี้บีนแบ็กไว้ให้นั่งสบาย ๆ ผู้ชมจะได้เพลิดเพลินไปกับการชม “Lightning of the Soul” ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เดินทางเข้าไปในโลกของอาจารย์ถวัลย์ แล้วมีผลงานของอาจารย์จัดแสดงอยู่รายทาง

ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายของอาจารย์ถวัลย์บอกว่า นิทรรศการนี้เป็นนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่มากของตัวเขาในฐานะผู้จัดนิทรรศการที่มีความตั้งใจอยากยกระดับวงการศิลปะในเมืองไทย และอยากทำให้ผลงานของอาจารย์ถวัลย์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

“การเห็นรูปที่พ่อวาดมีชีวิตขึ้นมา เป็นความสุขที่ได้มีโอกาสต่อลมหายใจของพ่อด้วยลมหายใจของผม และพร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้สัมผัสความพิเศษนั้น”

ทายาทของอาจารย์ถวัลย์บอกอีกว่า กว่าจะสร้างสรรค์งานนี้ได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องอาศัยเงินลงทุนจำนวนมหาศาล ต้องใช้คนทำงานจำนวนมาก ฉะนั้น นิทรรศการนี้จะไม่จบแค่การแสดงในไทย แต่จะนำไปจัดแสดงในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต่อไป โดยประเทศแรกที่คาดว่าจะไปคือประเทศจีน ซึ่งพันธมิตรทางจีนพร้อมสำหรับการจัดงานนี้แล้ว รอเพียงแค่ตัวเขาเองพร้อมที่จะไปเมื่อไหร่เท่านั้น

นอกจากนั้น ยังมีความพิเศษเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบผลงานของอาจารย์ถวัลย์ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ จึงมีการนำเสนอโปรแกรม “Art Exclusive Dining Show” มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ พร้อมชมการแสดงเต็มรูปแบบ

คอร์สอาหารมื้อพิเศษนี้จะมีเชฟจากโรงแรมหรู 4 แห่ง คือ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมสยามเคมปินสกี้ โรงแรมสุโขทัย และโรงแรมเดอะเพนนินซูลา กรุงเทพฯ หมุนเวียนกันมาครีเอตเมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของอาจารย์ถวัลย์ ซึ่งโปรแกรมพิเศษนี้มีเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น

นิทรรศการ “Immersive Art of Thawan Duchanee” จะจัดแสดงถึงวันที่ 11 มกราคม 2564 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถวอล์กอินไปชมและซื้อบัตรหน้างานได้เลย ตามพิกัดที่บอกไว้ข้างต้น ส่วนใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการจองที่สำหรับดินเนอร์ สอบถามได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thawan Duchanee