5 ข้อต้องคิดก่อนซื้อเสื้อผ้า เพื่อลดการทำร้ายโลก

ปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อมนุษย์เรามากขึ้นทุกวัน สิ่งหนึ่งที่เป็นสาเหตุของปัญหาโลกร้อนก็คือการผลิตเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่มากเกินความจำเป็น เพราะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางของเสื้อผ้าหนึ่งชิ้นนั้นผ่านหลายกระบวนการซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยิ่งวงการแฟชั่นขยันผลิตมากและถี่มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการทำร้ายโลกมากเท่านั้น

น่าจะดีใช่ไหม หากเราในฐานะผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วสามารถกระตุ้นให้อุตสาหกรรมแฟชั่นลดการผลิตลงได้

ในนิทรรศการ “โฮมโกรว์น” (Homegrown) ซึ่งจัดโดย บริติช เคานซิล และแฟชั่น เรฟโวลูชั่น (Fashion Revolution) ประจำประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้นำเรื่องนี้มาสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านแฟชั่นของผู้บริโภค และยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

กมลนาถ องค์วรรณดี ผู้ประสานงานเครือข่ายแฟชั่น เรฟโวลูชั่น แนะนำเช็กลิสต์ 5 ข้อที่ควรคิดก่อนจะซื้อเสื้อผ้าเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

1.ชั่งใจว่าสิ่งที่กำลังจะซื้อจำเป็นจริงหรือไม่ : แนวทางการลดปัญหาโลกร้อนจากอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ดีที่สุดคือ การไม่เพิ่มเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่สักวันจะกลายเป็นของเสียที่ถูกทิ้ง หรือหากอยากซื้อเสื้อผ้าใหม่จริง ๆ อาจจะต้องคิดให้มากยิ่งขึ้นว่ามันจำเป็นจริง ๆ และเราจะใช้มันอย่างคุ้มค่าจริงหรือไม่

2.กำหนดลิมิตการซื้อเสื้อผ้าในหนึ่งซีซั่น : ใครที่ไม่สามารถเลิกซื้อเสื้อผ้าได้จริง ๆ การกำหนดลิมิตการซื้อเสื้อผ้าในแต่ละซีซั่น โดยการทำสัญญากับตัวเองว่าในซีซั่นหนึ่งจะซื้อเสื้อผ้าไม่เกินกี่ชิ้น จะช่วยจำกัดปริมาณการซื้อเสื้อผ้าได้

3.สร้างทางเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสอง หรือแลกเสื้อผ้ากันใส่ : นอกเหนือจากเป็นการสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว การผลักดันให้เกิดการบริโภคอย่างสร้างสรรค์ (creative consumption) ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเสื้อผ้ามือสอง หรือการแลกเสื้อผ้ากันใส่ ไปจนถึงการชวนกันมามิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าเก่า ๆ ให้ออกมาเป็นชุดใหม่ได้โดยที่ไม่ต้องซื้อใหม่ ก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เราสนุกกับแฟชั่นได้อย่างไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

4.มองคุณภาพการใช้งานที่ยาวนานก่อนความทันสมัย : เพราะฟาสต์แฟชั่นหรืออุตสาหกรรมแฟชั่นที่มาไวไปไว เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และด้วยความไวของกระแสทำให้การผลิต การขนส่ง และจำหน่าย ต้องทำอย่างรวดเร็ว ในปริมาณมาก ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคนและสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้น การตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าโดยคำนึงถึงคุณภาพมาก่อนราคาและความทันสมัย จะช่วยยืดอายุการใช้งานเสื้อผ้า และลดผลกระทบที่ฟาสต์แฟชั่นทำต่อโลกเราได้

5.สนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่น สร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน : การสนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่น นอกจากจะทำให้เม็ดเงินกลับมาสู่ชุมชน เกิดการกระจายรายได้อย่างแท้จริง ยังเป็นการสนับสนุนกระบวนการผลิตขนาดเล็กที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่ากระบวนการผลิตของแบรนด์ใหญ่ ๆ นอกจากนี้ การซื้อเสื้อผ้าในท้องถิ่นยังเป็นอีกวิธีการสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมใกล้ตัวในฐานะเครื่องมือที่จะช่วยฟื้นฟูความมั่นคงและความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นและสังคมโดยรวม