ไลฟ์สไตล์

ยลโฉมความหรูหรา โบอิ้ง 777 ของสายการบินเอมิเรตส์ การดีไซน์ไฮคลาสแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ต

หลังเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สายการบินเอมิเรตส์ได้เผยโฉมการตกแต่งภายในอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งรวมไปถึงห้องสวีทแบบไพรเวทที่ออกแบบได้สุดหรูหรา

โดยการออกแบบตั้งแต่พื้น ประตู ไปจนถึงเพดาน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส ที่ห้องสวีทใหม่ของเอมิเรตส์นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของความหรูหราและความเป็นส่วนตัว มอบความกว้างขวางด้วยให้พื้นที่สำหรับแต่ละคนถึง 40 ตารางนิ้ว

และจากเฟิร์สต์คลาสไปจนถึงห้องโดยสารชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ตลอดทางเดินรวมถึงห้องน้ำและห้องครัวในเครื่องบิน 777 ล่าสุดของเอมิเรตส์ มีการอัพเกรดการตกแต่งใหม่คิดเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ การอัพเกรดการตกแต่งนี้รวมไปถึงการออกแบบเบาะที่นั่งใหม่ รวมไปถึงระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสารด้วย

คราวนี้ลองมาดูความหรูหราของห้องโดยสารกัน!

สำหรับห้องสวีทที่เป็นส่วนตัวสุดๆ นั้น มาพร้อมกับประตูบานเลื่อนที่สูงตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน เหมือนกับห้องโดยสารบางห้องของรถไฟที่แพงที่สุดในโลก อย่างเช่น รถไฟขบวน Venice Simplon-Orient-Express

และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าห้องสวีทมาพร้อมกับพื้นที่กว่า 40 ตารางนิ้ว ทำให้สายการบินยืนยันว่าผู้โดยสารจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แม้แต่ตอนปรับเบาะให้ราบที่สุดแล้วก็ตาม

โทนสีของห้องสวีทใช้สีครีม, เทา และทอง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถหรู เบาะของห้องโดยสารเป็นเบาะหนังให้มู้ดสว่าง ขณะที่บริการอื่นๆ สำหรับเฟิร์สต์คลาสที่รวมไปถึงมินิบาร์ส่วนตัว ก็ยังคงให้บริการเหมือนเดิม

นอกจากนี้ ผู้โดยสารห้องสวีทที่อยู่ตรงกลางยังจะได้รับ “เวอร์ชวล วินโดว์” หรือหน้าต่างเสมือนจริง ที่จะมีหน้าจอแสดงผลวิวจากด้านนอก ส่วนคนที่นั่งติดหน้าต่างก็โชคดีเข้าไปอีก เพราะจะได้รับกล้องส่องทางไกลด้วย

นอกจากนี้ ภายในห้องสวีทยังมีหน้าจอบริการ ที่ผู้โดยสารสามารถสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องเปิดประตูออกจากห้อง

เอมิเรตส์ยังเปิดตัวชั้นธุรกิจใหม่ที่มาพร้อมกับเบาะหนังลายเย็บรูปข้าวหลามตัด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเบาะของรถสปอร์ต นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนที่ใช้ควบคุมเบาะและระบบเอนเตอร์เทนเมนต์, ไฟส่องสว่างส่วนตัวหลายดวง, แผ่นไม้กั้นระหว่างที่นั่งเพิ่มความเป็นส่วนตัว, พื้นที่เก็บรองเท้า, พักเท้า และถาดวางอาหารแบบส่วนตัว

ขณะที่ในชั้นประหยัดตกแต่งด้วยสีเทาอ่อนและสีฟ้า มาพร้อมกับเบาะหนังปรับเอนได้ที่ออกแบบตามสรีระศาสตร์ แถวละ 10 ที่นั่ง มอบความบันเทิงให้ผู้โดยสารด้วยหน้าจอทัชสกรีนที่มีการปรับปรุงคุณภาพของภาพให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ เครื่องบินพร้อมห้องโดยสารสุดหรูนี้จะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ จากดูไบไปเจนีวาและบรัสเซลส์

ซึ่งแน่นอนว่าความหรูหราคงไม่ได้มาพร้อมราคาโลว์คอสต์ โดยราคาตั๋วไปกลับ เจนีวา-ดูไบ ในต้นเดือนมกราคม ชั้นเฟิร์สต์คลาสมีราคาอยู่ที่ราว 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 297,000 บาท