สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน ผ่านหนังสือแนะนำรีสอร์ตหรู “คลับ เมด” (Club Med)

หากพูดถึงรีสอร์ตหรูท่ามกลางธรรมชาติของสถานที่ท่องเที่ยวในฝันอย่าง มัลดีฟส์, บาหลี, เกาะฮอกไกโด หรือแม้แต่บนเทือกเขาแอลป์ พร้อมมีกิจกรรมในรีสอร์ตให้ทำมากมายชนิดที่ไม่มีเบื่อ รวมไปถึงอาหารเลิศรสครบทุกมื้อ ในราคาที่จ่ายครั้งเดียวก็ได้ครบทุกอย่าง เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง “คลับ เมด” (Club Med) แน่นอน ด้วยการเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 พร้อมสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าพักผ่านรีสอร์ตกว่า 65 แห่ง ใน 26 ประเทศทั่วโลก ทั้งโซนเอเชีย, ยุโรป และอเมริกา จนกลายเป็นรีสอร์ตที่ครองใจใครหลายคน

ล่าสุด กับการจัดงานเปิดตัวหนังสือ “7 Styles of Holidays at Club Med” ที่ร่วมกับนิตยสารเพื่อนเดินทาง รวบรวมเรื่องราวที่พักของคลับ เมด พร้อมภาพถ่ายบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวและรายละเอียดคอนเซ็ปต์ของรีสอร์ตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส โดยงานจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. ที่ร้านอาหารวิวาเรี่ยม บาย เชฟ มินิสทรี ท่ามกลางการจำลองบรรยากาศของคลับ เมด

“วินเซนต์ ออง” รองประธานฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียแปซิฟิก จากรีสอร์ตคลับ เมด เปิดเผยว่า รีสอร์ตของคลับ เมด จะออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละภูมิประเทศ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ สโนว์ รีสอร์ต ที่จะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขา เมื่อถึงฤดูกาลหิมะ กิจกรรมยอดนิยมก็คือการเล่นสกี และแบบซัน รีสอร์ต ซึ่งออกแบบให้ตั้งอยู่ริมทะเล และเต็มไปด้วยกิจกรรมทางน้ำมากมาย ซึ่งหนังสือท่องเที่ยวเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำจุดเด่นของคลับ เมด แต่ละที่ ที่ได้คัดสรรให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันสำหรับนักเดินทาง

“สำหรับหนังสือเล่มนี้จะวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม ที่ร้านนายอินทร์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวหนังสือแล้ว เราก็กำลังจะเปิดรีสอร์ตใหม่ที่ฝรั่งเศส ที่จะเป็นแฟล็กชิป สโตร์ ของเรา นอกจากนี้ เราจะเน้นการสื่อสารทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพื่อให้นักเดินทางได้รู้จักเรามากขึ้น” วินเซนต์กล่าว

ภายใน “7 Styles of Holidays at Club Med” เอาใจคนไทยด้วยการเริ่มแนะนำรีสอร์ตใหม่ในมัลดีฟส์ของคลับ เมด อย่าง “คลับ เมด เดอะ ฟิโนลู วิลลาส์” จากเรื่องราวของคู่รักที่ไปฮันนีมูนที่มัลดีฟส์ และต้องการที่พักพร้อมอาหารและกิจกรรมในตัว

เปิดภาพของเดอะ ฟิโนลู วิลลาส์ ด้วยวิลลาแบบลากูนกลางน้ำทะเลสีฟ้าใส ก่อนจะเปิดมาอีกหน้าแล้วพบกับวิลลาแบบติดชายหาด แต่ละหลังมุงหลังคาที่สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ พร้อมสระว่ายน้ำเงียบสงบ

ส่วนของห้องอาหารกว้างขวาง ตกแต่งด้วยหมอนและโคมไฟสีสันสดใส ให้ความรู้สึกสดชื่น พร้อมผ่อนคลายด้วยสปาสัญชาติอังกฤษชื่อ อิลา สปา (Ila Spa) ที่ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง และใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติล้วนๆ

เอาใจสาวกมัลดีฟส์ด้วยอีกที่พักหนึ่งที่หลายคนอาจจะพอคุ้นหูกันบ้าง กับเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่มาเยือน คลับ เมด คานิ (Club Med Kani) ที่ถือเป็นรีสอร์ตรุ่นบุกเบิกของมัลดีฟส์ แต่ก็มีการปรับปรุงให้ดูทันสมัยตลอดเวลา

ที่พักมีให้เลือก 2 แบบ คือ ห้องที่ตั้งอยู่บนหาด และห้องที่อยู่ติดกับทะเล ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสเข้ากับความเป็นทะเล พร้อมด้วยห้องอาหารหลัก เวลิ (Velhi) ที่บริการอาหารแบบบุฟเฟต์นานาชาติในมื้อเช้า กลางวัน และเย็น

นอกจากจะมีกิจกรรมให้เลือกเล่นสารพัด ทั้งพายเรือคายัค เรือใบ ดำน้ำตื้น พาราเซลลิ่ง เจ็ตสกี ตกปลา ยังมีกิจกรรมสำหรับครอบครัวและเด็กๆ อายุราว 4-10 ขวบ ได้เพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานศิลปะ งานฝีมือ ทำอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆ อีกเพียบ

ถัดมาที่ในเมืองไทยกันบ้างกับ “คลับ เมด ภูเก็ต” (Club Med Phuket) โดยตัวรีสอร์ตตั้งอยู่บนหาดกะตะ ท่ามกลางร่มไม้น้อยใหญ่เขียวขจี สถาปัตกรรมมีความเป็กเอกลักษณ์ของไทยอยู่หลายจุด แต่ละห้องใช้สีสันสดใส มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ด้วยความที่ทำเลอยู่ในประเทศไทย กิจกรรมของที่นี่จึงเป็นกิจกรรมไทยๆ หลายอย่าง ทั้งมวยไทย นวดแผนไทย สอนทำอาหารไทย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น กอล์ฟ เทนนิส ยิงธนู และกิจกรรมทางทะเลด้วย

คลับ เมด ภูเก็ต ยังโดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำที่มีให้บริการถึง 4 สระ อาหารการกินเพียบพร้อมเพราะมีห้องอาหารให้บริการถึง 2 ห้อง ช่วงค่ำมีการแสดงบนเวที ทั้งร้อง เต้นรำ และกายกรรมผาดโผน เรียกได้ว่าสร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืม

หนังสือ “7 Styles of Holidays at Club Med” ยังนำเสนอเรื่องราวพร้อมภาพถ่ายสวยๆ จากรีสอร์ตอื่นๆ ของคลับ เมด ไม่ว่าจะเป็น คลับ เมด บาหลี (Club Med Bali) ที่ตั้งอยู่บนริมหาดนูซา ดัว, คลับ เมด บินตัน (Club Med Binton) บนชายหาดที่สวยงามของเกาะบินตัน ประเทศอินโดนีเซีย และเอาใจคนชอบหิมะด้วย คลับ เมด ซาโฮโร ฮอกไกโด (Club Med Sahoro Hokkaido) ที่ประเทศญี่ปุ่น


นับเป็นอีกหนังสือดีๆ ที่นักเดินทางตัวยงพลาดไม่ได้!