“สามก๊ก ไลฟ์ทอล์ก” ถอดแง่คิดจากอดีตสองพันปีสู่โลกอนาคต

“ใครอ่านสามก๊กสามจบคบไม่ได้” เป็นคำกล่าวอมตะที่ได้ยินมาตั้งแต่เล็กจนโต จะคบไม่ได้จริงหรือไม่นั้น คงต้องดูเป็นคน ๆ ไป แต่เท่าที่ทราบ ใครที่อ่านจบแม้เพียงแค่หนึ่งรอบก็น่าทึ่งแล้ว เพราะวรรณกรรมเรื่องสามก๊กนั้นยาวมาก ๆ และแฝงไปด้วยแง่มุมความคิด กลยุทธ์มากมายที่หยิบมาใช้ได้ สามารถเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ หรือกระทั่งเปลี่ยนชีวิตคนอ่านได้เลย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เครือมติชน จับมือกับบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) และบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด จัดกิจกรรมไลฟ์ทอล์ก “สามก๊ก ปลูกชีวิต คิดการใหญ่” โดยมีผู้นำความคิด 7 คน หยิบยกเรื่องราวเหตุการณ์ในสามก๊ก ซึ่งเกิดขึ้นราว 1,700 ปีก่อนมาเชื่อมโยงกับสถานการณ์ปัจจุบัน อนาคต และกระตุ้นความคิดผู้ชมได้อย่างน่าสนใจ

อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ BLOGNONE.com เปรียบเทียบผู้นำของสามก๊กกับอุตสาหกรรมไอทีได้อย่างน่าสนใจ โดยเขาบอกว่า

“เล่าปี่เทียบกับกูเกิล เพราะไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตมาก่อน แต่เป็นผู้ที่คิดการใหญ่ ต้องการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น รวบรวมคนเก่ง ๆ สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ อย่างกูเกิลก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเพียงแค่ปลายนิ้วคลิก

โจโฉเป็นลักษณะซีอีโอบริษัทมหาชน ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ โจโฉมีรากฐานทางครอบครัวที่ดี เป็นขุนนาง กระทั่งอาศัยภาวะที่วุ่นวายในสมัยนั้นจนเติบใหญ่ ขอเปรียบเทียบเป็น นายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ ที่เริ่มต้นตั้งแต่เป็นพนักงานเล็ก ๆ จนเติบโตขึ้นเป็นผู้บริหารจนถึงทุกวันนี้

ส่วนซุนกวนเหมือนกิจการกงสีสานต่อภายในครอบครัว เปรียบเสมือน ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล ที่ไม่ได้ดันให้ตัวเองเก่งคนเดียวอย่างสตีฟ จ็อบส์ แต่ดันคนรอบตัวให้เก่งเพื่อสานต่อให้กิจการประสบความสำเร็จ”

สุดท้าย อิสริยะสรุปว่า แต่สุดท้ายแล้วในบั้นปลาย ทั้งสามก๊กไม่มีใครชนะ ผู้ชนะกลับเป็นสุมาอี้ที่ครองแผ่นดินจีน จึงอยากฝากคำถามว่า ใครคือสุมาอี้

ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปรียบเทียบสไตล์ของแต่ละก๊กกับการบริหารองค์กรว่า ก๊กเล่าปี่ คือ ก๊กที่คนร่วมอุดมการณ์มาอยู่ด้วยกัน สู้ด้วยกัน ตลอดชีวิตเล่าปี่ไม่เคยฆ่าลูกน้อง และลูกน้องก็ถวายชีวิต เช่น ขงเบ้งทำงานจนตาย ลูกและหลานของขงเบ้งก็สู้ศึกจนตัวตาย เล่าปี่ ขงเบ้ง กวนอู เตียวหุย ล้วนแต่ร่วมอุดมการณ์และรักษาคำมั่นสัญญา เป็นวิธีการบริหารแบบหนึ่งที่เริ่มด้วยดีและจบกันด้วยดี ไม่มีเรื่องเศร้า น่าเคือง

ก๊กโจโฉ บริหารแบบรับคนเก่งเข้ามา ไม่สนใจว่าคนเก่งนั้นมีคุณธรรมหรือไม่ ต้องการผลประโยชน์และเป้าหมาย สิ่งที่ดีในก๊กโจโฉ คือ มีคนเก่งที่มีลูกเล่น มีวิชั่น ทำให้โจโฉยิ่งใหญ่อย่างรวดเร็ว ด้วยความที่โจโฉไม่รังเกียจคนไร้คุณธรรม ดังนั้นรอบตัวโจโฉจึงมีคนที่ทำงานให้โจโฉ และปัดแข้งปัดขากัน ต้องคอยระแวงกัน คอยระวังตัวว่าอาจจะเป็นอันตราย และในที่สุดผ่านไป 3-4 ชั่วคน ตระกูลสุมาอี้ก็ล้มตระกูลของโจโฉขึ้นมาเป็นกษัตริย์เสียเอง

ส่วนก๊กของซุนกวน เป็นอาเสี่ย พ่อกับพี่ชายวางรากฐานไว้ให้มากมาย ตอนศึกเซ็กเพ็ก ซุนกวนอ่อนน้อมถ่อมตัว ขอให้จิวยี่และเตียวเจียวช่วย ทำให้ทุกคนร่วมใจสู้เซ็กเพ็ก ซุนกวนขึ้นเป็นกษัตริย์ในเวลาที่มั่นใจว่ารากฐานทีมงานแข็งแกร่งแล้ว แต่หลังจากนั้นอารมณ์อาเสี่ยก็ออก ใครขัดใจไม่ได้ ตลอดชีวิตช่วงหลังเขาทำลายคนมากมาย รวมทั้งคนเก่งที่มีบุญคุณกับตัวเขา บางคนหนีไป หลายคนโดนฆ่า ตระกูลนี้บริหารกันแบบครอบครัว ปู่ พ่อ ลูก หลาน เหลน สุดท้ายคนในก๊กทนอารมณ์ไม่ได้ ก๊กจึงอ่อนแอลง

“สามก๊กมีสามแบบ ผมเลือกที่จะใช้แนวทางของเล่าปี่ คือคนในทีมจะต้องรักกัน หัวหน้าจะต้องไม่รังแกลูกน้อง หัวหน้าต้องรักษาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของลูกน้อง ทำให้คนร่วมใจทำการใหญ่ได้”
บอสใหญ่ ซีพี ออลล์กล่าว

ด้าน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้ชื่นชอบแนวทางของโจโฉ บอกว่า โดยส่วนตัวเรียกโจโฉว่า “อริยะปีศาจ” โจโฉมีสิ่งที่ผู้นำทั้งหลายจะต้องศึกษา คือความเป็นคนใจกว้างในเรื่องการเลือกใช้คน ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ประกาศแรกที่ผู้นำจะต้องมี คำคมของโจโฉที่ตกทอดมาถึงทุกวันนี้ คือ “ไม่ต้องสนใจว่าแมวสีดำหรือสีขาว ขอให้จับหนูได้เป็นพอ”

พล.อ.นิพัทธ์สรุปว่า วรรณกรรมสามก๊กบอกกับเราว่า สิ่งที่ผู้นำที่ดีต้องมี ได้แก่ 1.ให้ลาภ ยศ สรรเสริญ แก่ผู้ตาม 2.น้ำใสใจจริง 3.นำดี ตามดี 4.ทำดีต้องได้ดี 5.ความยุติธรรม

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

ติดตามอ่านข่าวสารจากประชาชาติออนไลน์
ดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่น >> Prachachat << ได้แล้ววันนี้