10 อันดับ หอคอยสูงที่สุดในโลก เทียบ “หอชมเมืองกรุงเทพ”

10 อันดับ หอคอยสูงที่สุดในโลก เทียบ

หลังคณะรัฐมนตรีประกาศไฟเขียวให้ก่อสร้าง”หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร” มูลค่า 4,621 ล้านบาท ใช้งบที่มาจากกลุ่มเอกชนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุหมายเลข กท.3257 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ที่มีขนาด 4 ไร่, 2 งาน, 34 ตาราวา  ราคาประเมินที่ 198 ล้านบาท  เดิมเป็นที่ราชพัสดุของตำรวจน้ำแต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว

โดยกำลังจะเป็นหอคอยที่สุดที่สุดในเมืองไทย ด้วยความสูงถึง 459 เมตรมีพื้นที่ใช้สอยรวม 22,281 ตร.ม. เมื่อเทียบกับหอคอยแห่งอื่นๆ ในไทย ได้แก่ หอสูงพัทยาปาร์คทาวเวอร์ สูง240 เมตร , หอชมเมืองสมุทรปราการสูง 179.5 เมตร , หอคอยเทอร์มินอล 21 โคราช สูง 110 เมตร

ประชาชาติธุรกิจ ลองนำโปรเจ็กต์หอชมเมืองกรุงเทพฯ เทียบกับตึกสูงแห่งอื่นๆ ทั่วโลก พบว่า หอชมเมืองเเห่งนี้ หากสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีความสูงติดอันดับ 6 จาก 10 ของโลก (แบบการก่อสร้างยังไม่เป็นทางการ)
เปรียบเทียบกับตึกสูงต่างๆ ในต่างประเทศดังนี้

1. Tokyo Skytree จุดสูงสุด 634 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 450 เมตร

2. Canton Tower (Guangzhou) จุดสูงสุด 595.70 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 449 เมตร

3. CN Tower โตรอนโต เเคนาดา  จุดสูงสุด 553.33 เมตร

4. Ostankino Tower กรุงมอสโก รัสเซีย จุดสูงสุด 540 เมตร

5. Oriental Pearl Tower เซี่ยงไฮ้  จุดสูงสุด 468 เมตร

6. Bangkok Observation Tower หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร จุดสูงสุด 459 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 357.50 เมตร (กำลังจะดำเนินการก่อสร้าง)

7. Kuala Lumpur Tower กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย จุดสูงสุด 421 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 276 เมตร

8. Tianjin Radio and Television Tower เมืองเทียนจิน ปรเทศจีน จุดสูงสุด 415 เมตร

9. Central Radio & TV Tower กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จุดสูงสุด 410 เมตร

10. Zhongyuan Tower เมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน จุดสูงสุด 388 เมตร

ภาพจาก Thailand Skyline

“มูลนิธิหอชมเมือง” 
เป็นการรวมตัวของ กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่กำลังสร้างโครงการ “ไอคอนสยาม” (Icon
Siam) ที่มีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกัน อันประกอบด้วย 1.เครือเจริญโภคภัณฑ์ 2.บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ
3.บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น
จำกัด

เปิดเผยถึงการสร้างหอชมเมืองเเห่งนี้ว่าเป็น “โครงการแสงแห่งความภาคภูมิ ” จะจัดแสดงในภูมิสถานแห่งความดีที่ทุกภาคส่วนร่วมแสดงพลังสร้างสรรค์ในรูปแบบสถาปัตยกรรมหอชมเมืองที่มีความสูง459เมตรซึ่งรวมกันเป็นเลข”9″หมายถึงความเจริญก้าวหน้าผ่านการอนุมัติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559

“แรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากการจุดเทียนชัยถวายพระพรเป็นภาพลักษณ์ประดุจเทียนชัยแห่งสยามอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน” 

โดยบนจุดชมวิวของหอชมเมืองกรุงเทพฯจะสามารถชมเห็นวิวทิวทัศน์รอบโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาเเบบ360องศามองเห็นวิวฝั่งตึกแคตเทเลคอมไปรษณีย์บางรักและตึกสูงอื่นๆ อีกมากมาย เนื่องจากตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจ อีกทั้งเป็นชุมสายการเดินทางทั้งทางรถยนต์รถไฟ และการสัญจรทางเรือ มีนักท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก

ทั้งนี้มีการประเมินรายได้จากการจำหน่วยบัตรเข้าชม 1,054 ล้านบาท ต่อปีประมาณการราคาตั๋วที่เข้าชมคนละ 750 บาทต่อคน ส่วนคนไทยลด 50% หรือคนละ 375 บาท โดยจะมีค่าใช้จ่ายต่อปี 892 ล้านบาท

อีกทั้งช่วงนี้ยังมีภาคเอกชนแห่มาลงทุนสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่คอนโดมิเนียมและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในบริเวณนี้เเละคาดว่าจะมีสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ตัดผ่านย่านดังกล่าวด้วย


อย่างไรก็ตามนอกจากคำถามเรื่องงบประมาณการสร้าง ขั้นตอนต่างๆเเละผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเเล้ว
ประชาชนบางส่วนก็มีการตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าสถาปัตยกรรมขนาดมหึมานี้
จะตั้งอยู่ริมเเม่น้ำเจ้าพระยาที่มีปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้งได้อย่างไร

“หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร”จะเริ่มก่อสร้างในเร็ววันนี้…ต้องติดตาม