เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงาน ชายสูงอายุชาวฮ่องกง “Chan Fung-yuen” ในวัย 70 ปี คือหนึ่งใน 210,000 ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ที่ได้รับใบอนุญาติขับขี่รถโดยสารสาธารณะถูกบังคับให้ออกจากงานพนักงานขับรถ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หลังจากทำหน้าที่นี้มาถึง 40 ปี
“ฉันยังอยากที่จะทำงานนี้ต่อไป แต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยเสียแล้ว แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองและคนอื่น ฉันว่าฉันก็ควรที่จะหยุดขับรถ” Chan กล่าว และต่อว่าการเป็นพนักงานขับรถโดยสาร “green minibus” คือสิ่งที่ท้าทายและยากลำบาก ไม่อาจดึงดูดใจคนหนุ่มสาวให้มาทำได้
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
Chan กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนเวลาทำธุระส่วนตัวว่าเป็นเหตุผลให้ปัญหาสุขภาพของเขารุนแรงทบทวี ไม่ว่าจะเป็นต่อมลูกหมาก หรือ นิ่ว
“ผมเจอรถติดกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งผมเจออย่างนี้ตลอด” Chan กล่าวและบอกว่าเขาทำงานเป็นระยะเวลา 9-10 ชั่วโมงต่อวัน และบางครั้งถึงกับไม่มีเวลาทานข้าวหรือพักผ่อนสั้นๆ ระหว่างวัน
ด้าน “Low Shih-cheng” พนักงานขับรถวัย 65 ปี ซึ่งทำงานมากว่า 45 ปี กล่าวถึงความท้าทายในอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุมาก
“ยิ่งเมื่อเราแก่ เราก็ยิ่งต้องเข้าห้องน้ำบ่อยมากยิ่งขึ้น แต่กลับไม่ได้รับอนุญาตให้จอดรถหน้าห้องน้ำ” Low กล่าวและเล่าประสบการณ์ขับรถหาห้องน้ำสาธารณะที่มีที่จอดรถพร้อมจากย่านเซ็นทรัลไปถึงมิดเลเวล แต่กลับเจอแต่ตำรวจยืนรอจับกุมหากมีคนทำผิดกฎจราจร
อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ Low บอกเล่าคือ เมื่อผู้โดยสารต้องการให้เขาจอดส่งบริเวณห้ามจอด แม้เขาปฏิเสธแล้ว แต่กลับถูกผู้โดยสารร้องเรียนไปยังสำนักงาน เป็นเหตุให้เขาได้รับจดหมายเตือนที่เป็นความงุนงงระหว่างการทำตามกฎจราจรกับการทำตามความต้องการของลูกค้า “รัฐบาลเตือนเรื่องการปฏิเสธที่จะแหกกฎจราจร”
หรือเพียงเมื่อ Low เตือนผู้โดยสารถึงค่าโดยสาร การล้อกลับและคำด่าทอกกลับถูกสาดกลับมายังเขา “ฮ่องกงเป็นสังคมประหลาด ผู้คนโวยวายตลอดเวลา”
ยิ่งไปกว่านั้น Chan ยังพูดถึงปัญหาการขาดการสนับสนุนที่ดีจากนายจ้าง พร้อมยกตัวอย่างให้ฟังว่า “บอสขอดูแลกล่องเงิน แต่ไม่เคยยืนหยัดเคียงข้างเมื่อถูกผู้โดยสารร้องเรียน”
พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะชาวฮ่องกงที่เป็นผู้สูงอายุมักได้รับเงินเพียงวันละ 450-470 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 57 ดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนหนุ่มสาวจึงหันหน้าไปหาบริษัทรถบัสที่ยินดีจ่ายค่าตอบแทนมากกว่าหลังจากทำงาน 2-3 ปี
Low กล่าวว่าพนักงานขับรถแท็กซี่เผชิญอุปสรรคไม่ต่างกัน รายได้จากวันละประมาณ 700 เหรียญฮ่องกง กลับลดเหลือวันละประมาณ 450 เหรียญฮ่องกง ภายหลังค่าเช่ารถและค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังต้องมัดจำค่าเช่ารถอีกประมาณ 12,000 เหรียญฮ่องกง ซึ่งอาจจะถูกริบได้หากเกิดอุบัติเหตุรถชน
“ในอดีต อาชีพขับรถแท็กซี่ไม่ต่างอะไรจากลูกหลานของพระเจ้า แต่ปัจจุบันเราได้ค่าเงินเพียงค่าแรงขั้นต่ำ ปราศจากสวัสดิการ ปราศจากเงินบำนาญ เหล่านี้คือสิ่งผลักดันให้คนหนุ่มสาวไม่เข้าร่วมกับอุตสาหกรรมนี้” Low กล่าว
“ตอนนี้อายุ 65 ปี ฉันมีเงินบำนาญให้ตัวเองแค่ 1 แสนเหรียญฮ่องกง จะได้สักกี่ปีกันที่ฉันจะยังเลี้ยงตัวเองได้ แล้วถ้าฉันเลิกขับรถอีกล่ะ”
อย่างไรก็ดี Low บอกว่าจะยังคงขับรถต่อไป โดยเชื่อว่าปัญหาสุขภาพของคนขับสูงวัยไม่ใช่เรื่องน่ากังวลต่อความปลอดภัย “เมื่อคุณแก่ตัว คุณก็ขับรถช้าลง และเมื่อคนขับสูงวัยต่อคิวแท็กซี่ นั่นคือช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อนสั้นๆ”