10 สุดยอดแบรนด์จากดีไซน์เนอร์ไทยชั้นนำ ปล่อยของใน “คอลเลกชั่นออทั่ม-วินเทอร์” เเซ่บสุดจี๊ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดโชว์คอลเลกชั่นจาก 10 แบรนด์ไทยชั้นนำ โดยสมาคมเเฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพฯ Bangkok Fashion Society (BFS) ที่บริเวณโซนคิวเรเตอร์ ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์

สำหรับการจัดโชว์คอลเลกชั่นจาก 10 แบรนด์ไทยชั้นนำ จากความร่วมมือของเหล่าดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์แถวหน้า ได้แก่ พลพัฒน์ อัศวะประภา จากแบรนด์ “อาซาว่า” (ASAVA) และ “เอ เอส วี” (ASV), ภาณุ อิงคะวัต จากแบรนด์ “เกรฮาวด์ ออริจินอล” (GREYHOUND ORIGINAL), ภูภวิศ กฤตพลนารา จากแบรนด์ “อิชชู่” (ISSUE), มลลิกา เรืองกฤตยา จากแบรนด์ “คลอเส็ท” (Kloset), มิลิน ยุวจรัสกุล จากแบรนด์ “มิลิน” (MILIN), นัทธนุช วงศ์พัวพันธ์ จากแบรนด์ “ตุ๊ดตี้ แอนด์ ตุ๊ดตี้ฟรุตตี้” (TUTTI & TUTTI FRUTTI), อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ จากแบรนด์ “วิคธีร์รัฐ” (VICKTEERUT), ปฏิญญา เกี่ยวข้อง จากแบรนด์ “ปฏิญญา” (PATINYA) และ ธนาวุฒิ ธนสารวิมล จากแบรนด์ “ที แอนด์ ที” (T AND T)

นายพลพัฒน์ อัศวะประภา นายกสมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพฯ กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ของได้รับสมาชิกใหม่ที่มีอุดมการณ์การทำงานร่วมกันเข้ามาเพิ่ม ซึ่งยังคงยึดมั่นในความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

“เห็นได้จากมาตรฐานการทำงานของแต่ละแบรนด์ที่มีระบบความเป็นสากล รวมถึงการดีไซน์เสื้อผ้าที่นอกจากแต่ละแบรนด์จะดึงจุดเด่นการทำเสื้อผ้าของตัวเองออกมาแล้วก็จะต้องผสานเทรนด์แฟชั่นระดับโลกที่กำลังเป็นที่นิยมเข้าไปด้วย เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มลูกค้า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความโดดเด่นตามดีเอ็นเอของแบรนด์เอาไว้ เพราะเราเองก็ต้องยอมรับว่าการแข่งขันในวงการแฟชั่นทุกวันนี้ค่อนข้างสูง ทางสมาคมฯ ก็เลยอยากจะทำให้แฟชั่นเป็นเรื่องใกล้ตัวคนมากขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และจับต้องได้ง่าย”

โดยภายในงานยังมีการจัดเซตถ่ายแฟชั่นให้แขกในงานได้มาถ่ายรูปร่วมกัน “พลพัฒน์” เผยว่าเเขกที่มาในงานจะรู้สึกว่าทุกคนคือนางแบบ นายแบบ เพราะทุกวันนี้ต่างก็อยู่ในยุคของ Celebrity Couture ที่ทุกคนสามารถโดดเด่นได้ในแบบของตัวเอง ซึ่งหวังว่าในคอลเลกชั่นนี้จะได้รับแรงสนับสนุนจากคนไทยที่เห็นถึงคุณภาพของเสื้อผ้าแบรนด์ไทย และร่วมกันสร้างกระแสนิยมให้ดีไซน์เนอร์ไทยตลอดจนแบรนด์ไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป

สำหรับในฤดูกาลออทั่ม วินเทอร์ 2017 นี้ ทาง “สมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพ ฯ” ได้นำเสนอคอลเลกชั่นใหม่ที่แต่ละแบรนด์ต่างก็มีผลงานการออกแบบที่ความโดดเด่นเฉพาะตัว หากแต่ยังอยู่ภายใต้ทิศทางที่สอดคล้องกันอยู่ โดยสามารถจัดเป็นหมวดหมู่ แบ่งออกเป็น 3 เทรนด์หลัก ดังนี้

“เฟมินิสโต้” (Feministo) การดึงเอาเสน่ห์และความอ่อนโยนของผู้หญิง มาแต่งแต้มดีเทลและซิลลูเอทที่มีความงดงาม ผ่านลูกเล่นที่มีความประณีตละเอียดอ่อน สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของหญิงสาวที่อ่อนหวานได้อย่างลงตัว

“ออพโพสิท แอทแทรคชั่น” (Opposite Atrrction) ความขัดแย้งที่ลงตัว ได้ถูกนำมาเป็นไอเดียหลักในการเลือกใช้โทนสี การออกแบบลายพิมพ์ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุในการตัดเย็บ เพื่อนำเสนอเสน่ห์ของการมิกซ์แอนด์แมทช์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของแต่ละแบรนด์

” คัลเชอร์ลิซึ่ม” (Culturism) แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่เหล่าบรรดาดีไซน์เนอร์ได้เดินทางไปสัมผัส โดยมุมมองทางวัฒนธรรมตลอดจนความแตกต่างของแต่ละที่ ได้ถูกนำมาเป็นดีเทลในการรังสรรค์เสื้อผ้าประจำซีซั่นนี้ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งยังร่วมสมัย

นอกจาก 3 เทรนด์หลักในซีซั่นนี้แล้วทางสมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพ ฯ ยังเผยถึงเทรนด์สีมาแรง ซิลลูเอทที่เหมาะกับฤดูกาลนี้ รวมถึงดีเทลและเทคนิคการตัดเย็บที่แปลกใหม่ สำหรับโทนสีที่โดดเด่นสำหรับออทั่ม วินเทอร์นี้ แบ่งออกเป็น 3 เทรนด์ ดังนี้

” เนเชอร์รัล” (Neutral) โทนสีเบสิคอย่างสีเบจ, สีเทา และเฉดสีเอิร์ธโทนได้ถูกนำมาใช้สำหรับการทำเสื้อผ้าในซีซั่น เพื่อมอบความสบายตาสำหรับการสวมใส่ที่เข้ากับฤดูกาล

“คอนทราสต์” (Contrast) การผสมผสานระหว่างเฉดสีร้อนแรง อาทิ สีแดง และสีชมพู เข้ากับโทนสีคลาสสิคอย่างสีดำ สีน้ำเงิน และสีขาว สร้างความแตกต่างที่ลงตัวให้กับสร้างสรรค์ลุคสุดเก๋ประจำซีซั่นนี้

“เชอร์เบท คัลเลอร์” (Sorbet color) การนำเอาเฉดสีของไอศกรีมรสชาติต่างๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับการแต่งตัว

ในส่วนโครงร่างของเสื้อผ้าที่เหมาะกับฤดูกาลนี้ แบ่งออกเป็น 3 เทรนด์ด้วยกัน ดังนี้

“อีลองเกท” (Elongate) ความยาวของเสื้อผ้าไม่ว่าจะปรากฏอยู่บนเดรส เสื้อตัวบน หรือกระโปรงท่อนล่าง ยังคงสร้างความงดงามอย่างคลาสสิคได้ดีเสมอ

“โอเวอร์ไซส์” (Oversize) โครงร่างของชุดหรือดีเทลการจับเดรปของแขนเสื้อให้มีขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอความโดดเด่นของเสื้อผ้า เพิ่มความสนุกให้การแต่งตัวได้อย่างไม่รู้จบ

“แฟล์” (Flared) ความบานของเสื้อ, กระโปรง และขากางเกง ถูกนำมาใช้ในซีซั่นนี้เพื่อสร้างลุคแปลกใหม่ที่พลิ้วไหลที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

ส่วนดีเทลการออกแบบที่ถูกนำมาใช้ในซีซั่นนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกัน

“ออล อะเบาท์ เท็กซ์เจอร์” (All about textures) เพิ่มเอกลักษณ์โดดเด่นให้กับงานดีไซน์ด้วยการติดประดับลูกเล่นต่างๆ ลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งขนนก รวมถึงเนื้อผ้าอย่างผ้าทูลหรือเนื้อผ้าลูกไม้ที่ถูกนำมาประดับบนชุด

“สปอร์ทตี้ มีท แฟชั่น” (Sporty meets fashion) การนำจุดเด่นของชุดกีฬามาเป็นหนึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบออกแบบเสื้อผ้า ที่ผสานเข้ากับเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ได้อย่างลงตัว

“มัลติ โทน” (Multi tones) การผสมผสานระหว่างความหลากหลายของลวดลาย และสีสัน ที่สามารถสร้างเสน่ห์และเพิ่มความสนุกให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

“รัฟเฟิล” (Ruffles) ดีเทลการจับจีบระบายยังคงสามารถเพิ่มลูกเล่นและนำเสนอความเป็นเฟมินีนให้หญิงสาวผู้สวมใส่ได้ในทุกฤดูกาล

นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ยังได้นำเสนอลายพิมพ์เด่นประจำซีซั่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ลวดลาย ดังนี้

“ไทด์โพ ที-เชิร์ต” (Typo t-shirt) ลายพิมพ์ตัวอักษร และโลโก้ของแบรนด์ ตลอดจนถ้อยคำอินเทรนด์ที่ทางแบรนด์ต้องการนำเสนอ ได้ถูกถ่ายทอดลงบนเสื้อยืดตัวเท่

“แฟนตาซี บลูมส์” (Fantasies blooms) บรรดาดอกไม้นานาพรรณได้ถูกนำมาร้อยเรียงกันให้กลายเป็นลายพิมพ์เอกลักษณ์ ที่สามารถสร้างความน่าหลงใหลให้กับเสื้อผ้าตัวโปรดได้เป็นอย่างดี

“สปอร์ท สไตรท์” (Sport stripes) ลายทางคลาสสิคอย่างลายทางและลายขวาง ได้ถูกนำมาใช้ในการดีไซน์คอลเลกชั่นนี้ เพื่อตอกย้ำถึงความเรียบโก้ที่แฝงความสนุกของการมิกซ์แอนด์แมทช์เอาไว้

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมผลงานการดีไซน์ที่น่าสนใจประจำฤดูกาลออทั่ม วินเทอร์ 2017 ของ “สมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพ ฯ” ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งมิติของการทำเสื้อผ้าที่จะสามารถช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย แต่ที่สำคัญคนไทยทุกคนต้องร่วมมือกันสนับสนุน เพื่อสร้างกระแสนิยมให้ดีไซเนอร์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล