เทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปในสมาร์ทโฟนปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าให้ภาพที่สวยงามไม่แพ้กล้องมืออาชีพ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสามารถของกล้องสมาร์ทโฟนก้าวไกลไม่ใช่เพียงเลนส์คุณภาพสูงอย่างเดียว แต่เป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดวางองค์ประกอบของภาพได้สวยงามอย่างง่ายดาย และหนึ่งในบริษัทที่สร้างสรรค์เอไอให้กับสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังหลายค่าย คือ “อาร์คซอฟท์” (ArcSoft)
อาร์คซอฟท์มีลูกค้ารายใหญ่ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง, หัวเว่ย, วีโว่, และเสี่ยวมี่ เทคโนโลยีของอาร์คซอฟท์เป็นที่นิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศจีนที่ผู้ใช้งานนิยมใช้งานฟีเจอร์วิดีโอสตรีมมิ่งและแต่งภาพอัตโนมัติในแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“ไมเคิล เติ้ง ฮุย” (Michael Deng Hui) ผู้ก่อตั้งและซีอีโออาร์คซอฟท์ เริ่มระดมเงินทุนจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ก่อตั้งบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ในปี 1994 อาร์คซอฟท์ขยายกิจการจากสหรัฐอเมริกาสู่จีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2017 พร้อมกับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และอยู่ใน 25 อันดับแรกของ “สตาร์มาร์เก็ต”
และในระยะเวลา 25 ปี “เติ้ง” ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีของจีน ที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เติ้งเริ่มต้นจากความหลงใหลในการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ประกอบกับที่เขาสำเร็จการศึกษาด้านฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ก่อนที่จะทำวิจัยหลังจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ทำให้เขามีความสนใจในเทคโนโลยีเอไอเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
ในระยะแรก อาร์คซอฟท์ให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เพิ่มความคมชัดให้กับกล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปี 2004 จึงนับเป็นบริษัทแรก ๆ ที่กล้าเสี่ยงลงทุนในยุคเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนที่ยังมีผู้ใช้งานไม่แพร่หลายนัก ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังเคยชินกับภาพถ่ายจากกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อสมาร์ทโฟนเป็นที่แพร่หลาย และก้าวข้ามข้อจำกัดด้วยการนำกล้องคุณภาพสูงมาเป็นฟังก์ชั่นหลักไว้ในสมาร์ทโฟน ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างพัฒนาเทคโนโลยีเอไอเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการปรับภาพให้ชัดเจนขึ้นในบรรยากาศแสงน้อย การถ่ายภาพในที่มืด การป้องกันภาพสั่นสะเทือน การถ่ายภาพพาโนรามา 360 องศา และล่าสุดคือ คุณสมบัติการโฟกัสภาพไปที่บุคคล (personal object) แยกออกจากพื้นหลัง เพื่อสร้างภาพ “หน้าชัด หลังเบลอ”
ขณะที่ปัจจุบันการใช้งานกล้องสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่กล้องถ่ายรูปไปแล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะรูปถ่ายและวิดีโอที่ได้จากกล้องสมาร์ทโฟนที่คุณภาพสูงขึ้นเท่านั้น แต่พฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปจากการล้างรูปเก็บไว้แบบเดิมเป็นการโพสต์ภาพลงในโซเชียลมีเดียทันทีหลังถ่ายภาพ คาดว่าจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจะสูงกว่า 5,000 ล้านคนภายในปีนี้
สำหรับอาร์คซอฟท์ ปัจจุบันมีพนักงานราว 500 คน โดยมีสำนักงานทั้งในสหรัฐ จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป โดยเป็นผู้สร้างอัลกอริธึมเอไอเกี่ยวกับภาพถ่ายและซอฟต์แวร์สำหรับระบบกล้องถ่ายภาพขั้นสูงที่ใช้ในสมาร์ทโฟน แท็บเลต คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สมาร์ททีวี รถยนต์ และหุ่นยนต์
นอกจากนี้ อาร์คซอฟท์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่หลากหลายขึ้นโดยเฉพาะเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ซึ่งใช้กับรถยนต์เพื่อยืนยันตัวบุคคล ป้องกันการโจรกรรม และสามารถตรวจจับความอ่อนล้าจากใบหน้าของผู้ขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้
เติ้งระบุว่า เทคโนโลยีการจดจำใบหน้ากำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ “การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้ามีเป้าหมายสำคัญในการป้องปรามอาชญากรรม แต่ผมคิดว่าในอนาคตเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความสวยงามในชีวิตของพวกเรา”
แม้ว่าอาร์คซอฟท์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้กับรถยนต์และการครัวเรือน แต่จะยังคงยึดแนวทางการพัฒนาเอไอที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพเป็นหลัก เพราะเติ้งมีจุดยืนว่า
“กลยุทธ์ที่ดีที่สุดของบริษัท คือ ความเชี่ยวชาญ แทนที่จะเป็นอันดับสอง หรืออันดับสามในด้านอื่น”
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!
