
แม้น่านน้ำกว่างซีจ้วงอยู่ห่างไทยนับ 1,000 กิโลเมคร แต่นักวิจัยของสองประเทศต่างเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนวิธีสำรวจวาฬบรูด้าด้วยกัน
วันที่ 8 มิถุนายน 2565 สำนักข่าว ซินหัวไทย รายงานผลงานวิจัยวาฬบรูด้า จากความร่วมมือของคณะผู้ศึกษาของไทยและจีนในสองพื้นที่บริเวณอ่าวเป่ยปู้ น่านน้ำเกาะเหวยโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน และอีกบริเวณคืออ่าวไทย
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- เช็กเงื่อนไขกู้ “ออมสิน” ปลดหนี้นอกระบบ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอะไรบ้าง ?
- 10 อันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ปี 2023
ทีมวิจัยสองประเทศแลกเปลี่ยนและร่วมมือด้านเทคนิคและวิธีการสำรวจวาฬบรูด้า รวมถึงวิธีการวิจัยและประมวลผลข้อมูลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลชนิดอื่นๆ
ทั้งสองฝ่ายยังจำแนกลักษณะว่าฝูงวาฬบรูด้าในอ่าวเป่ยปู้ และอ่าวไทย ซึ่งมีระยะห่างไกลกัน 1,000 กิโลเมตร พบว่าไม่ใช่วาฬกลุ่มเดียวกัน แต่พื้นที่ของสองฝ่ายมีลักษณ์คล้ายกัน คือพรั่งพร้อมด้วยระบบนิเวศสภาพดีและแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์
วาฬ10ตัวเพิ่มเป็น50ตัว
การสำรวจและวิจัย “วาฬบรูด้า” นำทีมโดย เฉิน โม่ นักวิจัยผู้ช่วย และผู้นำทีมวิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์กว่างซี ตั้งแต่ปี 2016 (พ.ศ.2559) เป็นต้นมา
แต่ละปีเฉินจะใช้เวลาเกือบ 100 วัน อยู่บนเกาะเหวยโจว ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของอ่าวเป่ยปู้ ครอบคลุมพื้นที่ราว 25 ตารางกิโลเมตร และถือเป็นเกาะภูเขาไฟอายุน้อยที่สุดของจีน รวมถึงออกทะเลอีกกว่า 200 ครั้ง เพื่อบันทึกภาพและคลิปวิดีโอจำนวนมากของวาฬชนิดนี้

กลุ่มหน่วยงานวิทยาศาตร์ของจีน ได้แก่ สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์กว่างซี มหาวิทยาลัยอ่าวเป่ยปู้ และสถาบันชลชีววิทยา สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน เริ่มต้นการวิจัยเกี่ยวกับฝูงวาฬบรูด้าในน่านน้ำเกาะเหวยโจวเมื่อปี 2016 โดยเฉินและทีมงานได้จัดตั้งฐานการวิจัยบนเกาะแห่งนี้ด้วย
“ช่วงปี 2016-2018 เราพบวาฬบรูด้าฝูงนี้มีสมาชิกอยู่ราว 10 ตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้จำนวนวาฬในฝูงดังกล่าวใกล้แตะ 50 ตัวแล้ว และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง” เฉินกล่าว พร้อมเสริมว่ามีการสำรวจพบแม่และลูกวาฬบรูด้า รวมถึงพฤติกรรมผสมพันธุ์ของวาฬบรูด้าโตเต็มวัยในน่านน้ำเกาะเหวยโจวด้วย

แนวทางจีนเป็นประโยชน์กับไทย
สำหรับทีมวิจัยวาฬบรูด้าในอ่าวไทย สังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทย เดินทางมากว่างซี เมื่อเดือนเมษายน 2019 (พ.ศ.2562) เพื่อร่วมสำรวจน่านน้ำเกาะเหวยโจวนาน 7 วัน จากนั้นทีมวิจัยของจีนก็เดินทางสู่อ่าวไทยในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เพื่อสำรวจแบบเดียวกัน จนนำไปสู่การกำหนดข้อตกลงสำรวจวาฬบรูด้าร่วมกันทุก 2 ปี

พัชราภรณ์ เยาวสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยประมงประจำกรมทรัพยากรทางทะเล กล่าวว่าการสร้างความร่วมมือระหว่างจีนและไทยเป็นสิ่งสำคัญมาก การแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝ่ายจะช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ศึกษาวิจัยได้อย่างคุ้มค่า เช่น วิธีสร้างพื้นที่คุ้มครองหรือแนวทางการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
“ทีมผู้เชี่ยวชาญของจีนแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยให้กระบวนการสังเกตการณ์สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น วิธีการและแนวทางจากทีมวิจัยของจีนนั้นควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้ รวมถึงนำมาประยุกต์ใช้ในไทยอย่างมาก” พัชราภรณ์กล่าว
กุญแจสำคัญต่อความอยู่รอด
ทั้งนี้ วาฬบรูด้าจัดเป็นสัตว์คุ้มครองระดับสูงสุดของจีน ส่วนที่ไทยห้ามค้าวาฬบรูด้าทุกรูปแบบ การอนุรักษ์วาฬชนิดนี้กลายเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือสำคัญระหว่างนักวิจัยของจีนและไทย
เฉินกล่าวว่าวาฬเป็นสัตว์ทะเลที่อพยพย้ายถิ่นตามแหล่งอาหาร การปกป้องแหล่งอาหารของพวกมันจึงเป็นกุญแจสำคัญต่อความอยู่รอด

แม้การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การสำรวจและสังเกตการณ์ภาคสนามของทีมนักวิจัยจีน-ไทยต้องหยุดชะงักชั่วคราว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงเดินหน้าติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ โดยมีการแลกเปลี่ยนเอกสารและข้อมูลรูปแบบต่างๆ เช่น วิธีช่วยชีวิตวาฬเกยตื้นหรือวิธีรักษาบาดแผลบนตัววาฬ เป็นต้น
“วาฬบรูด้าถือเป็นสิ่งมีชีวิตล้ำค่าของโลก มิใช่เฉพาะไทย จีน หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง” พัชราภรณ์กล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่าการคุ้มครองวาฬบรูด้าต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สวยงามและยั่งยืนยิ่งขึ้น