เหตุภูเขาไฟในเมืองปอมเปอีระเบิด พ่นลาวาและเถ้าร้อนไหลทับทั้งเมืองเมื่อ 2,000 ปีก่อน ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่นักโบราณคดีพยายามศึกษา กระทั่งล่าสุดพบซากแม่เต่าวางไข่ในช่วงเวลาสำคัญดังกล่าว
วันที่ 25 มิถุนายน 2565 บีบีซี รายงานการค้นพบ ซากเต่าวางไข่ในเมืองโบราณปอมเปอี สร้างความประหลาดใจให้นักโบราณคดีอย่างยิ่ง เพราะไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ หลังจากภูเขาไฟวิสุเวียสปะทุขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน จนชาวเมืองปอมเปอีถูกเถ้าภูเขาไฟกลบทั้งเมือง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นักโบราณคดีพบซากเต่าใต้เถ้าถ่านและหินที่คาดว่าถูกฝังมาตั้งแต่ปี ค.ศ.79 ซึ่งในตอนนั้น เต่ากำลังวางไข่และตายเวลาเดียวกับชาวเมือง จากผลกระทบของภูเขาไฟระเบิด
นักโบราณคดีพบซากเต่าและไข่อย่างน่าประหลาดใจ ขณะขุดค้นบริเวณที่ชาวเมืองโบราณสร้างเมืองขึ้นใหม่ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวปอมเปอี ปี ค.ศ.62 (พ.ศ.605)
เมื่อ 2,000 ปีก่อน เต่าขนาดความยาว 14 เซนติเมตรถูกฝังอยู่ในดิน ใต้ร้านค้าที่พังทลายเพราะแผ่นดินไหวครั้งก่อน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าพบเต่าและไข่ซึ่งสันนิษฐานว่าคงจะตายขณะกำลังหาที่สงบๆ วางไข่
มาร์ก โรบินสัน นักโบราณคดี มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและผู้ค้นพบเต่าอีกตัวหนึ่งใกล้ๆ กับหลุมขุดค้นปอมเปอี เมื่อปี ค.ศ.2002 (พ.ศ.2545) กล่าวว่ามีข้อสันนิษฐาน 2 ประการว่าทำไมเต่าจึงไปวางไข่ตรงนั้น
เต่าตัวนี้อาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่หนีไปวางไข่และตาย ระหว่างทางที่เคยเป็นซากปรักหักพังเพราะแผ่นดินไหวหรืออาจเป็นไปได้ว่าเต่ามาจากชานเมืองและเดินมาจนถึงเมืองโบราณ
หลังเกิดแผ่นดินไหว ปอมเปอีพังพินาศเกินกว่าที่จะปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนได้ใหม่ทุกที่ พืชและสัตว์จากชานเมืองรอบๆ จึงขยับขยายเข้ามาในเมือง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางธรรมชาติของปอมเปอีช่วงหลังแผ่นดินไหว
กาเบรียล ซุคทรีเกล ผู้อำนวยการทั่วไปของปอมเปอี กล่าวว่าทั้งเมืองมีแต่สถานที่ก่อสร้าง แต่ยังเหลือบางสถานที่ที่ไม่ได้ใช้และสัตว์ป่าเดินไปมาและวางไข่ได้
โจนาส วานฮาลา นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาเอกชาวฟินแลนด์ เดินผ่านมาระหว่างที่พบซากเต่า พร้อมกับกล่าวว่า “น่าตื่นเต้น” นักโบราณคดีเพิ่งยกกระดองเต่าและเห็นกระดูกกับไข่สีน้ำตาลอ่อนเหมือนสีทราย ตนคงไม่รู้ว่ามันคือไข่ ถ้านักโบราณคดีไม่บอก