เป็นที่หน้าจับตาสำหรับยักษ์ใหญ่แดนมังกรอาณาจักร”อาลีบาบา” ของแจ็ค หม่า ที่ล่าสุดในวันพรุ่งนี้ (19 เม.ย.) ประธานกรรมการบริหาร Alibaba Group จะเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อลงนามความร่วมมือด้าน Smart Digital Hub and Digital Transformation Strategic Partnership ซึ่งประกอบไปด้วย MOU 4 ฉบับ กับรัฐบาลไทย ทุ่มลงทุนระยะแรก 11,000 ล้าน ผุด Smart Digital Hub ใน EEC พร้อมขนข้าว-ทุเรียนไทยขึ้นเว็บขายทั่วจีน (อ่านข่าว >> “แจ็ค หม่า”มาไทย 19 เมษายนนี้ เอ็มโอยูลงทุนอีอีซี 1.1 หมื่นล้าน)
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ขอพาย้อนรอย กับจุดเริ่มต้นของอาณาจักร”อาลีบาบา” กับสิ่งที่เรียกว่า “อินเทอร์เน็ต” (***เรียบเรียงจากหนังสือ “ที่หนึ่งของโลก แจ็ค หม่า กับอาณาจักรอาลีบาบา”)
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
“แจ๊ค หม่า” คือราชาอินเตอร์เน็ตจีน
เขาเป็นเจ้าของอาลีบาบากรุ๊ป
เขาพาอาณาจักรของเขาก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมทำสถิติการขายหุ้นให้กับนักลงทุนเป็นครั้งแรก (IPO) ด้วยมูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นนิวยอร์ก มากกว่า 25,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 800,000 ล้านบาท
เขาซื้อลิขสิทธิ์ไก่ทอดของผู้พันแซนเดอร์สอย่าง “เคเอฟซี” ในประเทศจีนมาครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว
นั่น..อาจเรียกได้ว่า “แก้เผ็ด” หลังจากเคยปฏิเสธไม่รับเขาเข้าเป็นพนักงานเมื่อตอนเขายังเป็นหนุ่ม
แต่กว่าจะถึงวันนี้… วันที่ “แจ๊ค หม่า” ประสบความสำเร็จ
ได้สวมชุดไมเคิล แจ็คสัน ขึ้นโชว์บนเวทีให้กับพนักงานอาลีบาบากรุ๊ปนับพันชีวิตได้ฮือฮา แถมยังวาดลวดลายเป็นพระเอกหนังกังฟู ปะทะ “เจ็ท ลี – จา พนม” ในเรื่อง Gong Shou Dao ( GSD )
เป็นมหาเศรษฐีหน้าเหลี่ยมผู้ปลุกตลาด อีคอมเมิร์ซ พลิกโฉมโลกอินเตอร์เน็ตฝั่งเอเชียขึ้นมาต่อกรกับยักษ์ตะวันตก
เชื่อหรือไม่นาทีแรกที่เขา “พบรัก” กับสิ่งที่เรียกว่า “อินเตอร์เน็ต” เขาประหม่าอย่างยิ่ง…เรื่องมีอยู่ว่า
ปี 1995 ที่ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา หลังจาก “แจ็ค หม่า” ครูสอนภาษาอังกฤษจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งในหังโจว ประเทศจีน และเจ้าของสำนักแปลภาษาไห่โป๋ที่อยู่ในเมือง ได้รับภารกิจพิเศษให้ไปปฏิบัติหน้าที่ “ล่าม” ให้กับทางการที่กำลังเผชิญปัญหาพิพาทเรื่องการสร้างซุปเปอร์ไฮเวย์ระหว่างมณฑลเจ้อเจียงกับนักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน
หลังจากงานจบในตัวเขาเหลือตังค์แค่ 25 เซนต์ ไม่พอแม้แต่จะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาตุภูมิ
แจ็ค หม่า วัดดวงด้วยควัก 25 เซ็นต์สุดท้ายในกระเป๋าหยอดลงตู้สล็อตแมชชีน
จาก 25 เซ็นต์ ก็เปลี่ยนเป็น 600 เหรียญ ในพริบตา!
แต่แจ็ค หม่า ไม่กลับบ้าน..
เขากำเงิน 600 เหรียญ เปลี่ยนเป็นตั๋วเครื่องบิน แวะหาเพื่อนชื่อ “แซม” อยู่ที่ซีแอตเทิล ซึ่งชวนให้เขาไปดู “อินเตอร์เน็ต”
นาทีแรกที่เห็น “อินเตอร์เน็ต” ปรากฏอยู่ในคอมพิวเตอร์มีโลโก้ Yahoo ในหน้าเว็บ เขาไม่กล้าแม้แต่จะแตะเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวนั้น
แซมบอกให้เขาลองกดดู แต่เขากลับตอบว่า…….
“เจ้าสิ่งนี้ (คอมพิวเตอร์) คงแพงน่าดู ผมไม่กล้าแตะเดี๋ยวเสียขึ้นมาคงจ่ายไม่ไหว”
แซมจึงกล่าวว่า “วางใจเถอะ ไม่เป็นไรหรอก คอมพิวเตอร์นะไม่ใช่ลูกระเบิด”
แล้วเขาก็กด…
Beer คือคำ คำแรกของ “แจ๊ค หม่า” ที่เขาค้นหาจาก Yahoo
คำว่า Beer ปรากฏขึ้นมากมายบนจอคอมพิวเตอร์ แต่พอค้นคำว่า China
ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ “No data”
เขาทั้งตกใจ ทั้งผิดหวัง และไม่เชื่อสายตาว่าในอินเตอร์เน็ตจะไม่มีคำว่า China
แล้ว “แจ็ค หม่า” จึงถามแซมว่าถ้าจะยกสำนักแปลภาษาของเขามาไว้ในอินเตอร์เน็ตได้หรือไม่… แซมไม่ปฏิเสธและทำให้ทันที
ก่อนบินกลับจีน แซมได้ยกสำนักแปลภาษาของเขามาไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตเรียบร้อย แถมยังสมัครอีเมล์ให้ “แจ็ค หม่า” เป็นของแถม
เมื่อถึงเมืองจีน “แจ็ค หม่า” ลองเปิดอีเมล์ดูแล้วพบว่า มีจดหมายส่งมาถึงเขา
“นี่เป็นครั้งแรกที่พบเว็บไซต์บริษัทจีน พวกคุณอยู่ที่ไหน เราอยากทำธุรกิจกับพวกคุณ”
แล้วอีเมล์ฉบับนั้นก็ก่อกำเนิด “แจ็ค หม่า” และพลิกโฉมโลกค้าขายบนอินเตอร์เน็ตไปอย่างไม่มีวันหวนคืน….
