ทัวร์วันเดย์ทริปที่ “Grand de Cafe” ชิมพิซซ่าโฮมเมดสไตล์อิตาเลี่ยน เสพไอเดียแต่งบ้านชิคๆ

เวลาพาผู้อ่านไปชิมอาหารร้านไหน หมัดเด็ดมัดใจจะเป็นรสชาติอาหาร และบรรยากาศเด่นๆ ของร้านนั้น แต่รอบนี้พิเศษกว่าเดิม เพราะ “แกรนด์ เดอ คาเฟ่” ร้านอาหารแนวฟิวส์ชั่นสุดชิค ที่ตั้งอยู่ในแฟล็กชิปสโตร์ของ “แกรนด์โฮม” นอกจากบรรยากาศและอาหารจะเหมาะสำหรับการมาพักผ่อน ทานอาหารแล้ว การทำการตลาดแบบ See Now Buy Now ยังถูกหยิบมาใช้อย่างลงตัว และน่าดึงดูด แอบกระซิบเลยว่า ใครชอบแต่งบ้าน ทำครัว มาร้านนี้ต้องเข่าอ่อนแน่ เพราะเขาวางรูทให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้เป็นวันสบายๆ

“ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” ขอพาทัวร์ในแบบ One Day Trip กิน ช็อป ชิล เปิดประตูเข้าตอนเที่ยง ก้าวขาออกมาอีกทีอาจจะพลบค่ำโดยไม่รู้ตัว

สำหรับพิกัดร้าน “แกรนด์ เดอ คาเฟ่” ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.10 จ.สมุทรปราการ เป็นแฟล็กชิปสโตร์ ใหญ่ที่สุดของ “แกรนด์โฮม” บนเนื้อที่ทั้งหมด 20,000 ตารางเมตร

แต่เข้ามาในแกรนด์โฮมปุ๊บ ใช่ว่าจะเจอกับร้านอาหารที่เป็นปลายทางของเราทันที จะต้องผ่านโชว์รูม “เครื่องครัว” เฟอร์นิเจอร์ จาน ชาม โต๊ะ เก้าอี้ ที่บิ้วต่อมจินตนาการ ว่า ภาชนะน่ารักๆ แบบนี้ เหมาะจะไปวางตรงไหนของบ้าน หรือจะเอาไปใส่เมนูไหนให้แมตช์กันอย่างลงตัวกับสีสัน ตอนนั้นไอเดียฟุ้งไปหมด ซึ่งก็มีหลากสไตล์หลายแนวให้เลือก ทั้งงานกระเบื้อง งานไม้ และหินอ่อน ที่เป็นเอกลักษณ์ของแกรนด์โฮม

ผ่านโซน “ชั่วโมงต้องมนต์” มาแล้ว ทางแกรนด์โฮมก็ไม่ให้เราได้พักหายใจหายคอ ให้เราเจอกับร้าน “แกรนด์ เดอ คาเฟ่” ทันที ไหนๆ ก็บิ๊วด้วยเครื่องครัวมาแล้ว พาเข้าร้านอาหารต่อซะเลย First Impression แรก บรรยากาศร้านมีความชิค ตกแต่งน่ารัก สไตล์เฟรนช์-วินเทจ ผสมผสานเฟอร์นิเจอร์แนว Old Fashion แต่ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายเหมือนมุมหนึ่งในบ้าน เป็นดีไซน์ที่จับต้องได้ ไม่เกินเอื้อม จึงสร้างไอเดียต่อยอดการแต่งบ้านให้กับคนที่มาทานได้ดีมากๆ และที่สำคัญ เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องครัว กระเบื้องทุกชิ้นที่อยู่ในร้าน แม้กระทั่ง “ที่รองแก้ว” เราชอบชิ้นไหน สามารถออกไปซื้อข้างนอกได้เลย นี่แหละ See Now Buy Now ที่ทางร้าน So Proud มาก

ส่วนใครที่ยังหาแบบตกแต่งที่ใช่ไม่เจอ มาหาเรฟเฟอร์เรนท์ที่ร้านได้เลย มุมสวยๆ เพียบ จากที่เคยมาแชะแล้วแชร์ลงโซเชียล คราวนี้จะได้เอาไอเดียไปแต่งบ้านตัวเองบ้าง ให้เห็นไปเลยว่า ใช้จริงแล้วออกมาเป็นอย่างไร ไม่ต้องมโนแล้วซื้อไปแล้วไม่เข้าจะมาเฟลทีหลัง

ภายในร้านแบ่งออกเป็นสามโซนหลัก ในพื้นที่ 400 ตารางเมตร เริ่มจาก Cafe Zone มุมของหวานทานเล่น ในบรรยากาศแสนชิล เหมาะที่จะชวนกันมานั่งจิบกาแฟ พบปะคุยงาน แต่ก็สามารถสั่งอาหารจานหนัก เครื่องดื่ม มาทานที่นี่ได้เหมือนกัน

ตัดฟีลชิลๆ มาในแสงไฟส้มนวลสลัว จากหลอดไฟเอดิสัน บริเวณ Bar Zone ตรงกลางร้าน ให้อารมณ์วินเทจอบอุ่นเบาๆ และการจัดวางที่สวยงามสบายตา เน้นเครื่องดื่ม ชา กาแฟ สมูทตี้ ใครสายชิลก็สามารถสั่งไวน์เพื่อเสพบรรยากาศให้เติมเต็มยิ่งขึ้นได้อีก

มาถึงโซนหลักที่ Dining Zone ก็ยังคงบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน อาหารของ แกรนด์ เดอ คาเฟ่ จะเน้นไทย-อิตาเลี่ยน ครัวลักษณะเปิดที่ให้เราเห็นกระบวนการของเชฟทุกขั้นตอน โดยเฉพาะเมนูไฮไลต์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน “พิซซ่าโฮมเมดสไตล์อิตาเลียน” ที่เราจะเห็นตั้งแต่การนวดแป้ง ตกแต่งหน้า เข้าอบในเตาถ่านอันสวยงาม ที่ยังไว้ลายยี่ห้อ “แกรนด์โฮม” ด้วยการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีทอง ตัวแป้งเป็นสูตรเฉพาะ บางกรอบ มีกลิ่นหอมจากเตาถ่าน และฟืนที่นำเข้าจากต่างประเทศ จึงมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

ที่สำคัญ สายชีสต้องฟินกับชีสที่หนัก แน่น เยิ้มแบบสะใจ กับวัตถุดิบคุณภาพ ทำให้พิซซ่าเป็นเมนูขายดีทั้งในร้านและเดลิเวอรี่ หน้าแนะนำเป็น สโมคแซลมอน ท็อปด้วยใบร็อกเก็ต แซลมอนที่รมควันมาจนหอมกำลังดี ทานกับชีสและใบร็อกเก็ตรสขมนิดๆ เป็นการผสานรสชาติที่ลงตัวแบบไม่เลี่ยน และอีกหน้าที่เรคคอมเมนคือ พาร์มาแฮม คาร์โบนาร่า ที่อร่อยไม่แพ้กัน

จานต่อมา “กุ้งลายเสือย่าง” อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของร้าน “กุ้งลายเสือ” เสิร์ฟ 2 ตัว ชิ้นขนาดพอดีๆ ที่โดดเด่นอยู่กลางจาน ย่างบนเตาถ่านหินลาวาส่งหอม เนื้อแน่นเต็มคำ รสหวาน เสิร์ฟพร้อมฐาน 2 เลเยอร์ที่เป็นผักโขมและมันบดซ้อนกันอยู่ จานนี้แอบสารภาพว่าฟินกับ “มันบด” มาก เนื้อเนียน นุ่ม รสสัมผัสมันๆ ละลายในปาก และหอมเนยมว๊ากก จนแทบอยากจะรีเควสมันบดมาทานเล่นเปล่าๆ ราดด้วยซอสเลมอนสูตรพิเศษของทางร้าน เพิ่มรสชาติไปอีกระดับ จานนี้เสิร์ฟพร้อมผักเคียงบล็อคโคลี่ กะหล่ำ มะเขือเทศ เป็นอีกจานที่ควรค่าแก่การมาโดนมาก

เอาใจคนรักชีสกันต่อด้วยเมนูเส้น “พาสต้าซอสเห็ดทรัฟเฟิล” จานนี้หอมชีสมาก ให้อารมณ์น้องๆ คาร์โบนาร่า เห็ดทรัฟเฟิลสด ผัดกับครีมซอสจนเข้มข้น ลักษณะเฉพาะของที่นี่คือจะไม่ผัดจนแฉะเกินไป ซอสครีมมาแบบขลุกขลิก น่ารักๆ เพื่อไม่ให้เลี่ยนจากครีมจนตัดกำลังกินต่อไม่ไหว จึงลดปริมาณลง แต่คงไว้ด้วยรสชาติความเข้มข้น ตัวเส้นเหนียวนุ่ม ท็อปด้วยแผ่นชีสอบกรอบ ใครที่ไม่ชอบชีสอาจจะเลี่ยน แต่หากเป็นสาวกชีส บอกเลยว่า ไม่สั่งคือพลาด!

หากยังอ้วนไม่หนำใจ จัดหนักต่อด้วยเมนูเพิ่มไขมันกับ “ขาหมูเยอรมัน” เมนูทั่วไปที่ไม่ธรรมดา เพราะที่นี่ใช้วิธีทอดแบบ Double Fried หรือทอดซ้ำ โดยครั้งแรกจะทอดเอาไว้ประมาณ 70% แล้วค่อยทอดซ้ำ ทำให้กรอบเป็นพิเศษและเนื้อข้างในนุ่ม มีความหวานในตัว เสิร์ฟพร้อมผักดอง เฟรนส์ฟราย ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด รสจัดจ้าน เป็นความพอดีที่ลงตัว จนไม่เกรงกลัวน้ำหนักที่จะขึ้นมาแม้แต่น้อย

ตามเมนูจานหนักจนเหนื่อยแล้ว … มาล้างปากด้วยของหวานกันเถอะ 2 เมนูไฮไลต์ที่ร้านนำเสนอคือ Mango Pudding ที่หยิบเอาผลไม้ยอดนิยมอย่างมะม่วง มาทำเป็นพุดดิ้งสีสันสวยงาม หอมมะม่วง เนื้อสัมผัสละมุนลิ้น รสชาติหวานอมเปรี้ยว ราดด้วยซอสเสาวรส ทานเพลินๆ คู่กับเนื้อมะม่วงหั่นเต๋า และครัมเบิ้ล อบกรอบที่เข้ากันอย่างลงตัว คุณผู้หญิงจะต้องรักเมนูนี้แน่นอน

ปิดท้ายด้วย พานาคอตต้า เมนูนี้เก๋ด้วยภาชนะที่ทำให้เราต้องถามว่า “ใบนี้ขายตรงไหน?” น่ารักและทำให้เจ้าพานาคอตต้าน่ากินขึ้น 50% รสชาติหวานกำลังดี มีสตรอเบอร์รี่และครัมเบิ้ลอบกรอบเคียงไว้แก้เลี่ยน ยิ่งทานพร้อมกันทุกส่วนผสม ยิ่งฟิน

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย แค่โชว์รูมและคาเฟ่ ก็น่าจะกินเวลาไปร่วม 2-3 ชั่วโมงได้ และหากใครได้ไอเดียแต่งบ้าน สามารถเดินเลือกซื้อของได้ต่อทันที อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่า เหมาะที่จะทำให้การออกมาทานอาหารวันนี้ เป็นแบบ วันเดย์ทริป ครบทั้งชิมและช็อป แถมได้อินสไปเรชั่นในการแต่งบ้านกลับไปอีก เป็นประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ลงตัวทีเดียว