เสน่ห์ “น่านนคร” ความหวังยกระดับ SME ปลุกท่องเที่ยว “วิถีธุรกิจชุมชน”

การท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจหลักสำคัญ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ “จังหวัดน่าน หรือ น่านนคร” เป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่หลายปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับ จากนักท่องเที่ยวทั้งไทยเเละต่างประเทศในเรื่องการท่องเที่ยว เพราะ “น่านนคร” มีความเงียบสงบ ทั้งยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรม วิถีชุมชน ที่อ้าเเขนต้อนรับผู้มาเยือน

“วิถีธุรกิจชุมชน” ของน่านนั้นน่าสนใจไม่น้อย “ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” ขอพาไปฟังทัศนะจากผู้เกี่ยวข้องที่มีประสบการณ์ในพื้นที่มาบอกเล่ามุมมอง ผ่านงานเสวนา “การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” หัวข้อ “ทิศทางการท่องเที่ยววิถีน่านยุค 4.0” ที่โรงแรม น่าน บูติค โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน จัดโดย SME Development Bank เพื่อพัฒนาและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน

เริ่มจากธุรกิจขนาดกลางและเล็กของ “น่าน” จะไปในทิศทางไหน “สำเริง สวัสดีนฤนาท” อุตสาหกรรม จ.น่าน ปูพื้นเล่าถึงสิ่งที่ต้องพัฒนา SME ใน จ.น่าน ว่า มีอยู่ 3 ด้าน คือ 1. ต้องพัฒนาคน คือ การพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความพร้อม ความเข้มแข็ง เพื่อไปแข่งขันกับตลาดภายนอก 2.พัฒนาเทคโนโลยี ขบวนการผลิตต่างๆ เเละ 3.การพัฒนาพื้นที่ชุมชน ในส่วนนี้ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ SME พื้นที่ในจังหวัดน่าน มีศักยภาพมากขึ้น

“เเนวนโยบายหลักเพื่อผู้ประกอบการ SME ของ จ.น่าน คือการเชื่อมสินค้าชุมชนให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยวของจังหวัดในปัจจุบัน และต้องมีตัวช่วยในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของจ.น่าน”

ขณะที่ “สมบัติ ชินสุขเสริม” ประธานหอการค้า เล่าว่า หอการค้ามีนโยบายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “หนึ่งหอการค้า หนึ่งสหกรณ์ หนึ่งการค้า หนึ่งชุมชน” หรือทิศทางในด้านการท่องเที่ยว อาทิ “หนึ่งหอการค้า หนึ่งท่องเที่ยวชุมชน” ซึ่งนโยบายนี้เป็นนโยบายหลักของหอการค้าที่จะมาเป็นเเรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดน่าน

สำหรับโครงการ “หนึ่งหอการค้า หนึ่งท่องเที่ยวชุมชน” ทางหอการค้าได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่บ้านนาบง โดยการเข้าไปต่อยอด สนับสนุนช่วยเหลือชาวบ้าน ในการทำผ้าทอที่ไม่เหมือนที่อื่น ชูเอกลักษณ์ของตนเอง หรืออีกในหลายเรื่อง ที่จะต้องสนับสนุน เพื่อสร้างอาชีพและส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้

นอกจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเเล้ว การเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ด้าน ชูศิลป์ สารรัตนะ รองประธานวิสาหกิจชุมชนชีววิถี เล่าถึงวีถีชุมชน ต.น้ำเกี๋ยน จ.น่าน ชีววิถี เฮิร์บ จำกัด ว่า แต่เดิมทางชุมชนมีปัญหาในเรื่องของการตัดไม้ทำลายป่า จนกระทั่งเกิดภัยแล้ง ทำนาไม่ได้ ใช้ยาเสพติดจำนวนมาก มีการเล่นการพนัน ส่งผลให้ชาวบ้านเริ่มอยู่ไม่ไหว จึงได้รวมตัวกันเมื่อประมาณปี 2534 เพื่อลุกขึ้นมาดูแลรักษาป่า

นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเเก้ไข จนกระทั่งปี 2549 ริเริ่มโครงการ “ลดรายจ่ายในครัวเรือน” เป็นที่มาของการตั้งวิสาหกิจชุมชนชีววิถี

“การเริ่มต้นของวิสาหกิจชุมชนอาศัยว่า มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเข้ามาช่วยฝึกสอนกระบวนการทำ เเละเภสัชกรเข้ามาช่วยเหลือ คิดค้นสูตรของสินค้า นำมาสู่ผลิตภัณฑ์ “น้ำยาสระผมใบหมี่” ซึ่ง ต้นใบหมี่ใน จ.น่าน เป็นต้นไม้ที่เกิดขึ้นทุกฤดูกาลและมีสม่ำเสมอ สามารถนำใบหมี่มาตำผสมกับน้ำซาวข้าว นำมาหมักผมได้ ทำให้เส้นผมแข็งแรงไม่ร่วงง่าย เป็นผลิตภัณฑ์ขายดีที่สุด เพราะเห็นผลภายใน 3 วัน ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆ ที่คิดค้นสูตรจากสมุนไพรโดยไม่พึ่งสารเคมี เเละรับซื้อสมุนไพรจากชาวบ้าน ต.น้ำเกี๋ยน ก่อนเท่านั้น ทำให้ปลอดภัยจากสารเคมีอย่างแท้จริง”ชูศิลป์ กล่าว

เมื่อมีสินค้า รายได้ก็ตามมา พร้อมสร้างรายได้ให้กับชุมชน และแน่นอนสิ่งสำคัญที่จะทำให้ยั่งยืนคือ การเพิ่มช่องทางขายให้กว้างขึ้น ซึ่ง “ชูศิลป์” เล่าว่า ได้จัดตั้ง บริษัท “ชีววิถี เฮิร์บ” เพื่อนำสินค้าเข้าสู่ตลาด กระจายสินค้าได้ทั่วถึงทำให้มีรายได้เข้าชุมชนมาอีกทาง ซึ่งได้เข้าวางจำหน่ายใน “Top Supermaket” ทางภาคเหนือ ที่มีกลุ่มลูกค้าที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์แล้วชื่นชอบ เเละในเร็วๆนี้จะเริ่มผลิตเพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศ เพราะขณะนี้มีหลายประเทศติดต่อเข้ามารับซื้อเพื่อไปจำหน่ายเเล้ว

ทั้งหมดเป็นตัวอย่างให้เห็นการขับเคลื่อนของน่านที่หวังประสานทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความเป็นชุมชนให้สอดคล้องกันเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดในอนาคต

เเม้ “น่าน” จะไม่ได้เป็นจังหวัดใหญ่ แต่เสน่ห์อันเหลือล้นของน่านก็ดึงดูดผู้คนเข้าไปท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จังหวัดเล็กๆที่มีความงามซุกซ่อนอยู่ในทุกอณูนี้ พร้อมที่จะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวที่นอกจากพักผ่อนหย่อนใจแล้ว กิจกรรมทางเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ จ.น่านขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสอดคล้องไปกับเสน่ห์ของวิถีชุมชนน่านนค


พูดคุยกับตัวอย่างธุรกิจเอสเอ็มอีน่าน เส้นทางทำธุรกิจรับเทรนด์ท่องเที่ยว

“จันจิรา ชินสุขเสริม” เจ้าของกิจการ โรงแรม น่าน บูติค แอนด์ รีสอร์ท โรงแรม 3 ดาว บนพื้นที่ 9 ไร่ เล่าถึงที่มาที่ไปว่า ก่อนจะทำธุรกิจโรงแรม แต่เดิมครอบครัวประกอบอาชีพจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่สืบทอดมาจากครอบครัว อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีพื้นที่เปล่าในตัวเมือง จ.น่าน และปล่อยให้รกร้างจนทำให้มีชาวบ้านมาทิ้งขยะ ทำให้เริ่มแนวคิดว่าควรทำอย่างไรกับที่ดิน ประกอบกลับส่วนตัวชอบไปเที่ยวและได้พักในหลายโรงแรม จึงได้เริ่มสร้างโรงแรมแห่งแรกขึ้นมาในพื้นที่ เพราะคิดว่า เมืองน่านนคร เป็นจังหวัดท่องเที่ยวรองจาก อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และน่านนคร เป็นจังหวัดที่สงบ มีสนามบิน วัด และวัฒนธรรมที่สวยงาม สะดวกกับการมาท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

“เมื่อสร้างโรงแรมเสร็จแล้ว ได้รับผลตอบรับที่ดี และสามารถคืนทุนได้ภายใน 6-7 ปี จึงดำเนินกิจการมาเรื่อยๆ กระทั่งซื้อที่ดิน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ไม่ห่างจากตัวเมือง และมีความสงบ และทำการก่อสร้างโรงแรม น่าน บูติคแอนด์รีสอร์ท เเล้วเสร็จในปี 2560 ใช้เงินลงทุน 45 ล้านบาท” นางจันจิรากล่าว