รวม 10 ประตูยอดเยี่ยมในความทรงจำตลอดกาล ที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย ความสวยงาม และเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของ “เปเล่” ราชันแห่งวงการลูกหนังผู้ล่วงลับ
“เปเล่” นักฟุตบอลชาวบราซิลระดับตำนานของโลก เจ้าของฉายา “ไข่มุกดำ” ที่เป็น King of Football ราชันวงการลูกหนัง และ the greatest footballer of all time (GOAT) เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ขณะอายุ 82 ปี
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
เปเล่ทำให้การเล่นฟุตบอลเป็นดุจการสร้างสรรค์งานศิลปะ และทำให้การทำประตูดูเป็นเรื่องง่าย ด้วยการส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายจากวิธีที่หลากหลายและสวยงาม ไม่ว่าจะเลี้ยงบอลผ่านแนวรับ การยิงที่ทรงพลัง การบรรจงปั่นลูกฟรีคิก หรือการทะยานขึ้นโหม่งเหนือคู่แข่ง
เปเล่ทำไป 1,281 ประตู จากการลงเล่น 1,363 นัด เกือบ 1,090 ประตูของเขามาจากสโมสรซานโตส และ 95 ประตูมาจากทีมชาติบราซิล
ไม่เพียงแต่ประตูของเปเล่เท่านั้นที่มีการบันทึกไว้ในเทปการแข่งขัน แต่ยังมีฟุตเทจอีกมากมายที่แสดงถึงการเล่นอันโดดเด่น และจังหวะน่าทึ่งอีกนับไม่ถ้วนแม้จะไม่เป็นประตูก็ตาม
สำนักข่าว AP รวบรวม 10 ประตู ที่น่าจดจำที่สุดตลอดการค้าแข้งของเปเล่ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ราชาลูกหนังผู้นี้ได้สรรค์สร้างไว้ในโลกฟุตบอล
ประเดิมประตูแรก
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 1956 ในเกมพบกับโครินเธียนส์ เด ซานโต อังเดร ที่เมืองซานโต อันเดร ประเทศบราซิล ขณะนั้นเปเล่ยังเป็นดาวรุ่งวัยเพียง 15 ปี และเพิ่งเริ่มเล่นให้กับสโมสรซานโตส เขาใช้เวลาถลุงตาข่ายไม่นานหลังจากลงสนามในช่วงครึ่งเวลาหลัง ช่วยให้ซานโตสชนะโครินเธียนส์ในนัดกระชับมิตรไปได้ 7-1 ประตู
ซาลูอาร์ ผู้รักษาประตูของโครินเธียนส์ในเวลานั้น ถึงกับสร้างนามบัตรซึ่งระบุตัวเองว่าเป็น “ผู้รักษาประตูคนแรกที่เสียประตูให้กับเปเล่”
ประตูที่อาจดีที่สุดตลอดกาลแต่ไม่มีเทปบันทึกไว้
วันที่ 2 สิงหาคม 1959 ในเกมพบกับสโมสรยูเวนตุสของเซาเปาโล ประตูนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเปเล่แต่ไม่ได้มีคนบันทึกเทปไว้ มีแต่สร้างขึ้นมาใหม่ในรูปแบบดิจิทัลสำหรับภาพยนตร์เกี่ยวกับเปเล่ ซึ่งอิงจากเรื่องราวของผู้เล่น แฟนบอล และนักข่าวที่ชมการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์นี้
เปเล่รับบอลจากเพื่อนที่เปิดเข้ามาจากทางด้านขวา เขาตวัดบอลผ่านหน้ากองหลังคนแรกที่พยายามเข้าสกัด หลังจากนั้นก็กระดกบอลข้ามหัวกองหลังอีก 2 คน เดาะด้วยเข่าหนึ่งที จากนั้นกระดกข้ามผู้รักษาประตูที่พยายามออกมาคว้า และก็โหม่งบอลเข้าประตูไป ต่อมาสโมสรยูเวนตุสเซาเปาโลได้ให้เกียรติประตูสุดคลาสสิกนี้ด้วยโล่ที่ระลึกและรูปปั้นที่สนามกีฬา
ฟุตบอลโลกครั้งแรก
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 1958 ในเกมพบกับทีมชาติเวลส์ ที่โกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน เปเล่ประเดิมประตูแรกในศึกฟุตบอลโลกได้อย่างสวยงาม มันเกิดขึ้นในนาทีที่ 66 ของเกมที่ยากกับเวลส์ในรอบก่อนรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ เมื่อหันหลังให้ประตู เปเล่วัย 17 ปีที่รับบอลต่อจากเพื่อน เขาพักอก แตะบอลอ้อมตัวกองหลัง และพลิกตัวยิงวอลเลย์ด้วยเท้าขวา ส่งบอลเสียบมุมตาข่ายอย่างสวยงาม
นัดชิงฟุตบอลโลกครั้งแรก
ต่อจากประตูก่อนหน้า วันที่ 29 มิถุนายน 1958 เป็นนัดชิงชนะเลิศระหว่างบราซิลและเจ้าภาพสวีเดน นัดนี้เปเล่ เด็กหนุ่มวัย 17 ปีในขณะนั้นทำไปถึง 2 ประตู จากประตูขึ้นนำ 3-1 ในนาทีที่ 55 และลูกปิดกล่องก่อนหมดเวลา ประตูแรกของเจ้าตัวในเกมนี้ถือว่าน่าประทับใจที่สุด เขาโฉบตัดหน้ากองหลังสวีเดน และวอลเลย์เข้าไปจากบริเวณใกล้ ๆ จุดโทษ ตลอดทัวร์นาเมนต์เปเล่ทำไปทั้งสิ้น 6 ประตูในฟุตบอลโลกหนนี้
นัดชิงฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย
ในศึกฟุตบอลโลก 1970 ที่ประเทศเม็กซิโก นัดชิงชนะเลิศระหว่างบราซิลและอิตาลี ประตูสุดท้ายในฟุตบอลของเปเล่เป็นลูกโหม่งที่น่าทึ่งที่ผ่านมือของผู้รักษาประตูอิตาลี เอ็นริโก อัลเบร์โตซี เข้าไป ท่ามกลางผู้ชมกว่า 107,000 คนที่อัซเตก้า สเตเดี้ยม หลังจากที่ริเวลิโนครอสบอลจากทางซ้ายเข้ามา เปเล่ก็ทะยานขึ้นไปในอากาศด้านหลังแนวรับชาวอิตาลีและโหม่งบอลเข้ามุมประตูไป เปิดทางให้บราซิลได้รับชัยชนะ 4-1 และคว้าแชมป์โลกสมัยที่สามไปครอง
ประตูที่ 1,000
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 1969 ในเกมพบกับวาสโก ดา กามา สนามกีฬา Maracana ที่ริโอเดจาเนโร ประตูชัยในเกมนี้มาจากลูกจุดโทษ เปเล่กดจ่อ ๆ เข้าที่มุมขวาอย่างเยือกเย็นในนาทีที่ 78 ทำให้ซานโตสเอาชนะไปได้ 2-1 อันดราดา ผู้รักษาประตูวาสโก ดา กามา แม้เดาฝั่งได้ถูกต้องแต่ก็ไม่สามารถหยุดลูกยิงนี้ได้
เปเล่วิ่งไปเอาบอลในประตูเพื่อเฉลิมฉลอง ขณะที่นักข่าว ช่างภาพ และผู้คนมากมายบุกเข้าไปในสนามเพื่อบันทึกช่วงเวลาดังกล่าว โดยการแข่งขันต้องหยุดไปหลายนาที แม้ว่าจะเป็นเกมในรังเหย้าของวาสโก ดา กามา แต่ผู้คนกว่า 65,000 ต่างส่งเสียงเชียร์เปเล่ ดาวเตะผู้อุทิศประตูให้กับเด็ก ๆ ของบราซิล
คุ้มค่าสำหรับการจารึก
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1961 ในเกมพบกับฟลูมิเนนเซ่ ที่ริโอเดจาเนโร ประตูนี้ไม่ได้ถูกบันทึกเทปการแข่งขันไว้เช่นกัน แต่มีรายงานจากช่วงเวลาดังกล่าวว่าเปเล่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งไปเกือบตลอดระยะของสนามก่อนจะยิงประตูให้ซานโตสเอาชนะฟลูมิเนนเซ่ 3-1 ประตู
ประตูนี้ของเปเล่กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “Gol de Placa” ซึ่งเป็นคำพ้องความหมายสำหรับประตูที่โดดเด่นนี้ เนื่องจากได้รับโล่ทองแดงประกาศเกียรติคุณไว้ที่สนามกีฬา Maracana โดยมีการจารึกไว้ว่า “ณ สนามแห่งนี้ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1961 เปเล่ ได้ทำประตูที่สวยงามที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Maracana”
จักรยานอากาศที่นิวยอร์ก คอสมอส
เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 3 ปี ที่เปเล่ได้ไปโลดแล่นในลีกสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1976 เกมพบกับไมอามี่ ทอรอส หนึ่งในประตูในอาชีพค้าเเข้งของเปเล่ที่นิวยอร์ก คอสมอส วันนั้นที่สนามแยงกี้ สเตเดี้ยม ซึ่งโดนไมอามี โทรอส ถล่มยับ 8-2 ประตู
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้คนจดจำกลับไม่ใช่ผลสกอร์ แต่เป็นลูกยิงของเปเล่ หลังจากเพื่อนเปิดบอลทางด้านขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ เปเล่ก็ทะยานขึ้นฟาด “ลูกจักรยานอากาศ” ด้วยเท้าขวาและการจัดระเบียบร่างกายอันยอดเยี่ยม ส่งบอลพุ่งเร็วแรงทะลุเข้าตาข่ายไปอย่างสวยงาม
ประตูสู่ความรุ่งโรจน์ของสโมสร
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1962 ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกในเกมพบกับเบนฟิก้า ที่ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เปเล่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมชี้ชะตาของถ้วยอินเตอร์คอนติเนนตัล โดยทำ 3 ประตูให้ซานโตสชนะ 5-2 และคว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ประตูที่สองของเขานั้นน่าประทับใจที่สุด เปเล่ใช้ร่างกายของเขาเพื่อหลบกองหลังคนแรก แล้วบุกเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย ผ่านคู่แข่งอีกสองคนก่อนที่จะยิงด้วยเท้าซ้าย ส่งบอลเสียบมุมเข้าประตูไป
#OnThisDay in 1962 Pelé scored a hat-trick, Eusébio looked on in admiration and Santos thrashed Benfica in their own backyard. pic.twitter.com/Iv7SPDdtn5
— The Blizzard (@blzzrd) October 11, 2019
ประตูสุดท้าย
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1977 ในเกมกระชับมิตรระหว่าง นิวยอร์ก คอสมอส และ ซานโตส ที่นิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา นัดนี้เป็นนัดอำลาสนามของเปเล่ เขาลงเล่นให้ทั้ง 2 สโมสร อย่างละครึ่งเวลา
ประตูที่น่าจดจำและเป็นประตูสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งของไข่มุกดำเกิดขึ้นตอนที่เขาเล่นให้นิวยอร์ก คอสมอส ในช่วงครึ่งเวลาแรก ก่อนหมดเวลา เปเล่ซัดฟรีคิกจากระยะไกลหน้ากรอบเขตโทษ อันทรงพลังส่งบอลพุ่งเสียบมุมเข้าตาข่ายไปอย่างสวยงาม นับเป็นหนึ่งใน 60 กว่าประตูของเขาจาก 100 กว่าเกมกับนิวยอร์ก คอสมอส
