ซูเปอร์โบว์ล 52 พิเศษของอีเกิลส์ เมืองฟิลาเดลเฟีย

TOPSHOT - Philadelphia Eagles quarterback Nick Foles celebrates after winning Super Bowl LII against the New England Patriots at US Bank Stadium in Minneapolis, Minnesota, on February 4, 2018. The Eagles won 41-33 / AFP PHOTO / TIMOTHY A. CLARY

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 52 เป็นอีกหนึ่งความทรงจำพิเศษในแวดวงอเมริกันเกมส์ เมื่อฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เป็นม้ามืดเค้นฟอร์มยอดเยี่ยมล้มแชมป์เก่าอย่างนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ มาได้แบบเหลือเชื่อ “อินทรีมรกต” สร้างประวัติศาสตร์ชูแชมป์ซูเปอร์โบว์ลครั้งแรกของทีม

ความสำเร็จของอีเกิลส์ครั้งนี้แทบเหมือนกับแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของเลสเตอร์ ซิตี้ หรือแชมป์ลีกสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อหลายปีก่อน อีเกิลส์เป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องตกม้าตายในเกมใหญ่ตลอดมา พวกเขาเล่นซูเปอร์โบว์ลครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 3 ของทีม โดยครั้งก่อนหน้านี้ต้องย้อนไปเมื่อปี 2005 ที่อีเกิลส์แพ้ให้นักรบกู้ชาติเช่นกัน

ครั้งนี้พวกเขากลับมาล้างอาย และกลับบ้านพร้อมถ้วยแชมป์กีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ โดยที่ไม่มีควอร์เตอร์แบ็กตัวจริงด้วยซ้ำ ทีมต้องใช้งาน นิค โฟลส์ ซึ่งฟอร์มไม่ค่อยสม่ำเสมอมาตลอด แต่ครั้งนี้อีเกิลส์เล่นงานคู่ปรับเหมือนกับที่แพทริออตส์ แชมป์ 5 สมัย ทำได้บ่อยครั้ง จนโฟลส์ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของเกม ขว้าง 3 ทัชดาวน์ ผ่านลูก 43 ครั้ง สำเร็จ 28 ครั้ง ทำระยะได้ 373 หลา โดยโฟลส์ยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่ขว้างทัชดาวน์ และรับลูกทัชดาวน์ในเกมซูเปอร์โบว์ล

โฟลส์เหมือนเป็นภาพสะท้อนของตัวตนจากทีมอินทรีมรกต พวกเขาเป็นทีมท้องถิ่นที่มักถูกมองข้ามเสมอ โฟลส์ในวัย 29 ปี เคยถูกปล่อยตัวจากทีมลอสแองเจลิส แรมส์ เมื่อปี 2016 และถึงกับพิจารณาเลิกเล่นอาชีพแล้ว แต่สุดท้ายเขาเลือกไปเล่นให้ทีมที่มีอดีตโค้ชของอีเกิลส์ทำงานอยู่ จนมีโอกาสกลับมาเล่นกับทีมเก่าอีกครั้งในปี 2017

ช่วงเวลาที่เขากลับมาช่างเหมือนเป็นชะตาลิขิต ควบคู่ไปกับการตัดสินใจแบบถูกที่และถูกเวลา เขาเป็นตัวสำรองให้ คาร์สัน เวนต์ซ ซึ่งมาดวงแตกในสัปดาห์ที่ 14 ในเกมกับเดอะแรมส์ โดยเวนต์ซที่เป็นควอร์เตอร์แบ็กเบอร์หนึ่งของอีเกิลส์ บาดเจ็บหนักเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด ปิดฤดูกาลไปก่อนที่ทีมจะเพลย์ออฟด้วยซ้ำ

โอกาสตกมาเป็นของเขาให้พิสูจน์ตัวเอง ซึ่งเขาคว้ามันได้สำเร็จ เป็นควอร์เตอร์แบ็กรายที่ 3 ในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอลที่ลงเล่นไม่เกิน 3 เกมในฤดูกาลปกติ แต่สามารถลงท้ายด้วยการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล

ก่อนหน้าซูเปอร์โบว์ล ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เป็นเหมือนโฟลส์ พวกเขารั้งท้ายสายเอ็นเอฟซี ด้วยสถิติชนะ 7 แพ้ 9 แต่ปีต่อมา อีเกิลส์พลิกโฉมกลับมาทำสถิติชนะ 13 แพ้ 3 ได้ไปเพลย์ออฟจนขึ้นสู่ซูเปอร์โบว์ล

ถ้าจะให้สรุปแบบรวบรัดถึงความพิเศษของแชมป์ซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้ ลองดูการตัดสินใจช่วงท้ายควอร์เตอร์ 4 ซึ่งฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ตามหลัง 32-33 ขณะที่เวลาเหลือไม่ถึง 6 นาที ดั๊ก พีเดอร์สัน โค้ชใหญ่ของทีมเลือกเสี่ยงนอกตำรา ไม่ได้ให้ทีมเตะทิ้งตามสูตรเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้รุกแล้วไปหาโอกาสอื่นเอา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าลูกไปอยู่กับ ทอม เบรดี้ ควอร์เตอร์แบ็กตัวเก่งของแพทริออตส์ โอกาสที่จะได้ลูกกลับมาเล่นแทบน้อยมาก

พีเดอร์สันเสี่ยงให้โฟลส์ ขว้างลูกให้ แซค เอิร์ตซ ตัวรับที่ไว้ใจได้รับบอลกลางอากาศเรียกความมั่นใจกลับมาจนนำมาสู่ทัชดาวน์ท้ายเกม ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญนำพวกเขาขึ้นแท่นคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

พีเดอร์สันอาจไม่ได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่พีเดอร์สันพิสูจน์กึ๋น และการกระตุ้นลูกทีมให้กลับมา หลังเสียควอร์เตอร์แบ็กเบอร์หนึ่งของทีมไป ขณะเดียวกันก็ต้องปรับปรุงเกมรุกของตัวเองให้ทำระยะได้มากขึ้น ด้วยการปรับแผงรันนิ่งแบ็กออกยกแผง นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องผู้เล่นเดิมบาดเจ็บแล้ว เหตุผลอื่นที่จะทำแบบนี้ น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ได้ประสิทธิผลตามที่ต้องการ ค่าเฉลี่ยระยะที่ทำได้ต่อการได้บอลแต่ละครั้งเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่เกมรุกของอีเกิลส์จัดจ้าน ดวลกับแพทริออตส์ เป็นซูเปอร์โบว์ลที่ทั้งสองฝ่ายทำระยะได้เป็นสถิติใหม่ที่ 1,151 หลา อีเกิลส์ยังยกระดับเกมรับที่ไว้ใจได้แล้วให้เป็นเกมรับที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ขยับจากทีมที่มีเกมรับในอันดับ 12 มาสู่ทีมอันดับ 4

ผู้เล่นทั้งแนวรับและแนวรุกของอีเกิลส์ ไม่ว่าจะถูกเข็นมาเล่นเพราะตัวหลักบาดเจ็บ หรือถูกดึงมาร่วมทีมแบบฟรีเอเย่นต์แบบมีเจตนาตามแผน ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาในทีมอีเกิลส์ มีไม่ต่ำกว่า 25 คน จากค่าเฉลี่ยทั่วไปที่ทีมในเอ็นเอฟแอลมักมีผู้เล่นใหม่ 20 ราย และผู้เล่นฟรีเอเย่นต์ที่เข้ามาร่วมทีมก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะโฟลส์

ทุกอย่างที่เกิดกับอีเกิลส์ คือ สิ่งที่อยู่นอกเหนือสูตรสำเร็จในตำรา มาสู่การพลิกโฉมจากทีมรองบ่อน กลายเป็นม้ามืดที่ฉีกรูปแบบที่คุ้นเคย พร้อมพิสูจน์ว่า คนที่กล้าเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่เหมาะสมมากกว่า คือ ผู้ชนะ และครั้งนี้ อีเกิลส์ชนะครั้งใหญ่ด้วย ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่จารึกประวัติศาสตร์ทีมสำเร็จ แต่ยังเปลี่ยนแปลงเมืองฟิลาเดลเฟีย จากทีมท้องถิ่นที่มักถูกเมิน ให้กลายเป็นเมืองแห่งแชมเปี้ยนที่อาจฉลองหนักเกินไปบ้างก็ตาม