
เปิดโปรแกรมอาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก วันนี้ (13 ม.ค.) ทีมชาติไทยบุกไปเยือนเวียดนามก่อน ที่สนามมี ดินห์ ประเทศเวียดนาม 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง MCOT HD 30 และ T-Sports 7 ก่อนกลับมาเตะในบ้านนัด 2 วันที่ 16 ม.ค.
วันที่ 13 มกราคม 2566 “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมลงทำศึกนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค 2022” นัดแรกช่วงค่ำวันนี้ที่ประเทศเวียดนาม โดยเพจฟุตบอลทีมชาติไทยระบุว่า ทีมชาติไทยจะสวมเสื้อชุดเกราะสีน้ำเงินลงทำการแข่งขัน ซึ่งเป็นสีเสื้อที่ทีมชาติไทยเอาชนะมาเลเซียในรอบรองชนะเลิศมาได้ 3-0 ประตู
- หมอธีระวัฒน์ ชี้ งานวิจัยระบุ ชอบกินเนื้อสัตว์เสี่ยงตาย ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกาย ไม่ช่วย
- พระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
- พระราชทานอภัยโทษ คดีทักษิณ ที่มาวาระอันเป็นมงคล วโรกาสสำคัญ
โดยทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย เมื่อค่ำวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีสื่อท้องถิ่นของเวียดนามให้ความสนใจเข้ามาทำข่าวเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา นักเตะตัวเก่งของทีมชาติไทย ที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมล่าสุด ยังคงแยกฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอยู่ โดยการฝึกซ้อมเน้นทบทวนคอนเซ็ปต์การเล่น และรูปแบบการเข้าทำ รวมถึงการจบสกอร์ ใช้เวลาฝึกซ้อม 1 ชั่วโมง
สำหรับทีมชาติไทย จะพบกับเวียดนาม ในศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค 2022” รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ที่มี ดินห์ สเตเดียม ในวันที่ 13 มกราคม เวลา 19.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT HD 30 และช่อง T-Sports 7 และจะกลับมาเตะนัดที่สองที่ประเทศไทย ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จ.ปทุมธานี ในวันที่ 16 มกราคม 2566 เวลา 19.30 น.
ซึ่งความเคลื่อนไหวเรื่องตั๋วล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดจองตั๋วนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าแฟนบอลจองตั๋วเต็มกันภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที ท่ามกลางกระแสแฟนบอลที่ยังต้องการตั๋วอีกจำนวนมาก และราคาตั๋วผีพุ่งขึ้นไปสูงกว่าราคาหน้าบัตร 2-3 เท่าแล้ว
ส่วนเรื่องของการอัดฉีดนักเตะ มาดามแป้งกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับนักเตะเอาไว้แล้ว และยังมีเงินรางวัลจากทางเอเอฟเอฟราว ๆ 10 ล้านบาทอีก แต่ส่วนนั้นคงจะให้ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นผู้จัดการเอง แต่ในส่วนตัวแล้วจะมีเพิ่มให้อีกแน่นอนถ้าได้แชมป์
ผู้จัดการทีมช้างศึก กล่าวต่อว่า สำหรับสภาพสนามดูจากในรูปนั้นเล่นยากแน่นอน แต่นักเตะหลายคนเคยผ่านการเล่นที่สนามแห่งนี้มาแล้ว แฟนบอลของเวียดนามมีอารมณ์ร่วมค่อนข้างสูง ได้เห็นแฟนบอลเยอะตั้งแต่ตอนซีเกมส์ แม้ว่าจะไปเล่นที่สนามนามดิงห์ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ไทยกับเวียดนามเป็นเพื่อนบ้านกัน ยังไงก็ต้องเจอกันตลอดอยู่แล้ว สิ่งที่อยากเห็นคือมิตรภาพหลังเกมมากกว่า แน่นอนว่าใน 90 นาทีเราต้องการชัยชนะ แต่มิตรภาพก็สำคัญ เราผ่านการเจอกับอินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่มีแฟนบอลเยอะมาแล้ว ดังนั้นนัดนี้ก็จะผ่านไปได้เช่นกัน
ส่วนนัดที่จะกลับมาเล่นที่ไทยวันที่ 16 ม.ค.นั้น นางนวลพรรณกล่าวว่า ดีใจมากที่ตั๋วการแข่งขันนัดในบ้านหมดลงแล้ว ได้มีการพูดคุยกับทาง “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ว่าอยากให้มีการจัดตั้งจอยักษ์ทั่วกรุงเทพฯให้ได้มากที่สุด เพราะอยากให้แฟนบอลที่ไม่ได้เข้าชมในสนามได้มารวมตัวกัน เพราะการได้ดูร่วมกันหลาย ๆ คน มันได้อารมณ์มากกว่า และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มันส่งไปถึงผู้เล่นไทยได้แม้ว่าจะไม่อยู่ในสนามก็ตาม
“อยากให้เพิ่มจอยักษ์ให้กับแฟนบอลที่ไม่มีตั๋วได้ไปรวมตัวกันเยอะ ๆ ให้ช่วยกันเชียร์ทีมชาติไทย” นางนวลพรรณกล่าว