คิงส์คัพ 2023 นัดชิง ไทยแพ้ลูกโทษ 4-5 ประตู อิรักคว้าแชมป์ไปครอง

ฟุตบอลคิงส์คัพ 2023 นัดชิง ขับเคี่ยวกันอย่างถึงที่สุด จบเกม 90 นาทีด้วยการเสมอ 2-2 ต้องดวลลูกโทษ  แล้วเป็นฝ่ายอิรักที่แม่นกว่าเอาชนะ 5-4 ประตู คว้าแชมป์ไปครอง

วันที่ 10 กันยายน 2566 ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ 2023 (ครั้งที่ 49) รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอิรัก ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับสถิติก่อนเกมที่เจอกัน ทีมชาติไทยค่อนข้างเป็นรอง จากการพบกันทั้งหมด 16 นัด ทัพช้างศึกชนะ 2 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้ไป 9 นัด โดยเฉพาะ 4 นัดหลังสุดที่เจอกัน ยังไม่เคยชนะอิรักได้เลย

ทีมชาติไทยมาในระบบการเล่น 4-3-3 ผู้เล่น 11 ตัวจริงประกอบไปด้วย ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน, พรรษา เหมวิบูลย์, เอเลียส ดอเลาะ, นิโคลัส มิคเคลสัน, วีรเทพ ป้อมพันธุ์, สารัช อยู่เย็น, กฤษดา กาแมน, บดินทร์ ผาลา, ธีรศิลป์ แดงดา, สุภโชค สารชาติ

ทั้งนี้ก่อนเกมการเเข่งขันมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องเลื่อนการเเข่งขันออกไป 30 นาทีจากกำหนดการเดิม และเริ่มเเข่งในเวลา 21.00 น.

ครึ่งแรกได้ทีมละประตู

ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายเริ่มเกมได้อย่างคึกคัก เริ่มหาช่อง ลำเลียงบอลบุกใส่อิรัก โดย วีรเทพ ป้อมพันธุ์ มีโอกาสได้ทักทายจากจังหวะยิงไกลด้วยซ้าย แต่บอลเหินข้ามคาน

แต่อิรักก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วจากการบุกครั้งแรก เป็นจังหวะทุ่มทางด้านขวา แนวรับของทีมชาติไทยโหม่งสกัดบอลกันไม่ขาด จนทำให้ อายเมน กลัดบัน ได้แปบอลหนีมือ ฉัตรชัย บุตรพรม เข้าไปในนาทีที่ 6 เท่านั้น อิรักออกนำ 1-0 ประตู

เกมผ่านช่วง 30 นาทีแรก อิรักเล่นเกมรับกันได้เหนียวแน่น ไล่บีบทีมชาติไทยและไม่เปิดโอกาสให้เล่นตรงกลาฃ ทำให้ทัพช้างศึกต้องใช้เกมด้านกว้าง แต่ก็ยังไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่าไรนัก

นาทีที่ 35 ทีมชาติไทยมีโอกาสทองจากจังหวะเตะมุมกดดันต่อเนื่อง ธีราทร บุญมาทัน เปิดให้ เอเลียส ดอเลาะ ได้โหม่ง บอลไปติดผู้เล่นอิรักที่ยืนอยู่หน้าเส้น ก่อนผู้รักษาประตูจะกระโดดปัดออกหลังไป เกมยังคงสกอร์เดิม

ในที่สุดทีมชาติไทยก็มาได้ประตูตีเสมอ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลโค้งจากด้านซ้ายไปให้ นิโคลัส มิคเคลสัน ทยานขึ้นโหม่งแบบเต็มหัว ส่งบอลซุกก้นตาข่าย พาทัพช้างศึกกลับคืนสู่เกมที่ 1-1 ประตู ในนาทีที่ 37 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง

เริ่มต้นขึ้นเวลาหลังมาไม่นาน อิรักได้ฟรีคิกจากด้านขวา และมีโอกาสได้ขึ้นโหม่ง บอลกำลังจะมุดคาน แต่ ฉัตรชัย บุตรพรม บินมาปัดได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยทีมชาติไทยรอดพ้นการเสียประตู

นาทีที่ 65 อิรักมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาด โดยทำเกมขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนเปิดตัดเข้ากลางให้ อัมเยด คาดฮิม ได้ยิงโล่ง ๆ ใกล้กับบริเวณจุดโทษ บอลผ่านมือ ฉัตรชัย ซุกก้นตาข่าย อิรักออกนำ 2-1 ประตู

ทีมชาติไทยพลาดโอกาสได้ประตูสำคัญ จากลูกจุดโทษ หลังผู้เล่นอิรักทำแฮนด์บอล และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่สังหารพลาดไปในนาทีที่ 77

แต่แล้วทัพช้างศึกก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ สุภโชค สารชาติ ตะลุยไปทางด้านขวา และเปิดให้ บดินทร์ ผาลา โหม่งย้อนทางเข้าไปในนาทีที่ 82 ทีมชาติไทยกลับสู่เกมอีกครั้งที่ 2-2 ประตู

จบเกม 90 นาทีทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้ต้องดวลถึงฎีกาที่จุดโทษ และเป็นอิรักที่แม่นกว่าเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์  5-4 คว้าเเชมป์คิงส์คัพ 2023 ไปครองได้สำเร็จ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ 2023