แม็กเกรเกอร์ ห้าวป่วนวงการ แต่เหตุใดไม่ตกต่ำ

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ขณะที่โลกกีฬาต่อสู้ยังรอไฟต์ยักษ์ใหญ่อีกครั้ง คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ ดาวดังแห่งวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือเอ็มเอ็มเอ ในรายการอัลติเมต ไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพ หรือยูเอฟซี มีชื่อขึ้นพาดหัวแย่งซีนไฟต์การชกในสหรัฐอเมริกาจนปั่นป่วนไปทั้งวงการ เมื่อนักชกไอร์แลนด์เดินทางไปถึงนิวยอร์ก และก่อเรื่องวุ่นพร้อมกับทีมงานจำนวนหนึ่งด้วยการโยนรถเข็นใส่รถบัสที่มีนัก ชกคู่อริซึ่งเตรียมขึ้นชกยูเอฟซีนั่งอยู่จนมีผู้โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ

แม็กเกรเกอร์ หายหน้าไปจากสังเวียนหลังจากแพ้ ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ในการชกมวยสากลอาชีพเมื่อปี 2017 ไม่ได้ปรากฏตัวบนหน้าสื่อแบบยิ่งใหญ่เท่าไฟต์นั้นอีกเลย แต่กลับมีชื่อในข่าวฉาวที่เขาก่อเรื่องบุกเข้าไปหลังเวทีกิจกรรมโปรโมต รายการมวยผสมศึก “ยูเอฟซี 223” ในนิวยอร์ก เข้าไปขว้างรถเข็นเหล็ก และพยายามคว้าสิ่งของอื่นโยนใส่รถบัสที่เชื่อว่ามีคาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ นักชกรัสเซียไร้พ่าย และคู่อริที่มีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพรรคพวกของแม็กเกรเกอร์มานานอยู่ในนั้น ด้วย

รายงานข่าวเผยว่า แค่รถเข็นเหล็กก็เป็นผลให้นักชกจำนวนหนึ่งที่อยู่ในรถบัสด้วย อย่างไมเคิล เคียซ่า และ เรย์ บอร์ก ถูกกระจกบาดจนได้รับบาดเจ็บก่อนหน้ากำหนดขึ้นชกไม่กี่วัน สุดท้ายแล้วทั้งคู่ถูกถอดจากรายการไป เนื่องจากบาดแผลในเหตุการณ์ฉาวนี้

แม็กเกรเกอร์หายตัวไปหลังเกิดเหตุ และมามอบตัวในภายหลัง พร้อมถูกตำรวจนิวยอร์กตั้งข้อหาหลายข้อหา ทั้งทำร้ายร่างกาย และก่ออาชญากรรม โทษสูงสุดรวมแล้วอาจติดคุกถึง 7 ปี แต่ทนายความชื่อดังในนิวยอร์กให้ความคิดเห็นว่า โอกาสที่แม็กเกรเกอร์จะเข้าไปลงเอยในห้องขังแทบมีน้อยมาก และเชื่อว่านักชกเลือดร้อนจะรับสารภาพ

ดาน่า ไวท์ ประธานยูเอฟซี ให้สัมภาษณ์กับสื่อดังในสหรัฐ ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่การจัดฉากจากรายการเพื่อหวังเรียกกระแสอย่าง แน่นอน ประธานยูเอฟซีเล่าว่า เขาแชตกับแม็กเกรเกอร์ก่อนหน้าที่กำปั้นไอริชจะมอบตัว โดยแม็กเกรเกอร์ขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ แต่มีข้อความที่น่าสนใจคือ แม็กเกรเกอร์พิมพ์ว่า “นี่คือสิ่งที่ต้องทำ”

เสียงก่นด่าต่อพฤติกรรมของแม็กเกรเกอร์ดังกระหึ่มตามมาตลอดช่วงที่ทุกคนรอ แม็กเกรเกอร์เข้ามอบตัว ก่อนที่จะได้รับประกันตัวไปด้วยเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเตรียมมารายงานตัวอีกครั้งในเดือนมิถุนายน

เบื้องหลังของพฤติกรรมฉาวครั้งนี้ ถูกจับไปเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่คาบิบ และพวกเผชิญหน้ารุมล้อมอาร์เต็ม โลบอฟ นักชกและคู่ซ้อมที่เป็นเพื่อนสนิทของแม็กเกรเกอร์ ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้ากำหนดยูเอฟซี 223 จะเริ่มขึ้น ซึ่งโลบอฟ เองก็อยู่ในเหตุการณ์โจมตีรถบัสด้วย แน่นอนว่าโลบอฟถูกถอดจากรายการเป็นรายแรกเนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับความ วุ่นวาย

สำหรับแม็กเกรเกอร์ ตัวตนสุดห่ามแบบนี้ไม่เคยหายไปจากหนุ่มไอริชวัยเฉียด 30 แม้ความสัมพันธ์กับรายการยูเอฟซี ก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งแม็กเกรเกอร์ปฏิเสธร่วมงานประชาสัมพันธ์จนโดนถอดจากรายการมาแล้ว แต่ด้วยความดุเดือดทั้งในและนอกสังเวียน นอกจากจะทำให้แม็กเกรเกอร์เจอปัญหาบ่อยครั้ง แต่อีกด้านก็ทำให้เขาเป็นแม่เหล็ก (ทั้งเชิงบวกและลบ)

สถานการณ์ล่าสุด ยูเอฟซียอมรับว่าพยายามเจรจาสัญญากับแม็กเกรเกอร์ก่อนหน้าเหตุฉาวจะเกิดขึ้น โดยไวท์เคยเอ่ยว่า แม็กเกรเกอร์จะกลับมาขึ้นชกในยูเอฟซีในปี 2018

แต่ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวในนิวยอร์กครั้งนี้จะทำให้แม็กเกรเกอร์ไม่น่าจะขึ้นสังเวียนภายในปีนี้ตามที่หลายคนคาดหวังไว้ แม้ทนายความส่วนตัวของแม็กเกรเกอร์จะทวีตข้อความในสื่อออนไลน์ว่า เป้าหมายของลูกความคือกลับมาขึ้นชกให้เร็วที่สุด

ประธานยูเอฟซีตราหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นภาพที่ย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เคยเห็น แต่หลังเกิดเหตุ 2-3 วันก็ยังไม่มีมาตรการต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน แต่ไม่ว่าใครจะเคลียร์กับใครด้วยวิธีไหนก็ตาม นักการตลาดย่อมมองว่า ถ้า “แม็กเกรเกอร์” รับมือกับ “ดราม่า” เหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม โอกาสที่เขาจะกลับมาได้รับความสนใจมากกว่าเดิมอีกเท่าตัวยังมีอยู่

“แม็กเกรเกอร์” อาจไม่ต่างจากนักร้องสาวที่เต้นท่ายั่วยวนระหว่างร้องเพลงที่มีเนื้อร้องสอง แง่สองง่ามจนถูกก่นด่ากันทั่วเมือง แต่สุดท้ายนักร้องที่ว่าก็ต่อยอดเส้นทางอาชีพจากจุดเริ่มต้นของกระแสเชิงลบ เช่นกัน ถึงแม็กเกรเกอร์ จะปากจัดหรือมีนิสัยห่ามแค่ไหน ก่อวีรกรรมน่าปวดหัวมานักต่อนัก แต่ปี 2016 และ 2017 ยังคงมีไฟต์ให้แม็กเกรเกอร์ได้โกยเงินจากทั้งฝีปากและฝีมือ

ช่วงแรก คนอาจอยากเห็นแม็กเกรเกอร์ถูกลงโทษจากพฤติกรรมท้าทายกฎหมายแบบนี้ แต่เมื่อไหร่ที่นักชกไอริชผ่านมันมาแล้ว จะไม่มีใครที่อยากเห็นแม็กเกรเกอร์ดวลกับนักชกคู่อริ หรือกำปั้นที่ยังฟาดปากค้างเติ่งกันอยู่เลยหรือไร คำถามนี้อาจมีคำตอบที่หลายคนอาจไม่ชอบใจอยู่บ้าง แต่ในโลกความเป็นจริงแล้ว โดยเฉพาะในแวดวงกำปั้นที่ต้องการจุดเดือดแบบนี้มาเติมเต็ม

สัญชาตญาณ บางอย่างของผู้ชมวงกว้าง “แม็กเกรเกอร์” คือคนคนนั้นที่โดนหมั่นไส้ แต่คนที่เกลียดก็ยังอยากดู (ผล) ที่เขาแข่งนั่นแหละ แค่การเข้าถึงผลแข่งก็เป็นพื้นที่ทำเงินมหาศาลแล้ว