
เปิดสถิติก่อนเกมและเรื่องน่ารู้ ดอร์ทมุนด์ พบ เรอัล มาดริด นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ณ สนามเวมบลีย์ คืนนี้เวลา 02.00 น.
วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ คือนี้เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
โดยทั้งคู่เคยพบกันในรายการนี้มาแล้ว 14 นัด เป็น เรอัล มาดริด ชนะไปได้ 6 ครั้ง เสมอ 5 ครั้ง และดอร์ทมุนด์ ชนะ 3 ครั้ง อย่างไรก็ดีเกมคืนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่โคจรมาพบกันในนัดชิงชนะเลิศ
ดอร์ทมุนด์ เข้าชิงรอบ 11 ปี
ต้องยอมรับว่า ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 5 แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ได้สร้างความประหลาดใจไม่น้อยเมื่อพวกเขาสามารถผ่านเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยส์ลีก ได้สำเร็จ
เส้นทางของดอร์ทมุนด์ในแชมเปี้ยส์ลีกฤดูกาลนี้ไม่ง่ายนัก ในรอบแบ่งกลุ่มอยู่ร่วมกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เอซี มิลาน และนิวคาสเซิล ก่อนจะสามารถจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม
ส่วนรอบน็อกเอาต์ต้องฝ่าด่านทั้ง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, แอตมาดริด และ เปแอสเช จนกระทั่งทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศ
หนล่าสุดที่ดอร์ทมุนด์สามารถผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกได้ ต้องย้อนกลับไปในปี 2013 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว โดยพวกเขาแพ้ให้กับบาเยิร์นไป 2-1 ประตู ซึ่งสังเวียนฟาดแข้งก็คือสนามเวมบลีย์เช่นเดียวกัน โดยนักเตะชุดนั้นที่ยังคงอยู่กับทีม ได้แก่ มัตส์ ฮุมเมลส์ และมาร์โก รอยส์
ที่สำคัญเกมนี้ จะเป็นการลงเล่นนัดสุดท้ายของมาร์โก รอยส์ ตำนานที่อยู่กับทีมมายาวนานกว่า 12 ปี โดยเจ้าตัวลงเล่นไป 427 นัด ทำไปทั้งหมด 170 ประตู ต้องมาลุ้นกันว่าการเดินทางครั้งนี้จะปิดฉากลงอย่างไร
เรอัล มาดริด ลุ้นแชมป์สมัยที่ 15
“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ “คาร์โล อันเชล็อตติ” ที่เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปนไป เส้นทางในศึกแชมเปี้ยส์ลีกฤดูกาลนี้ก็ไม่ง่ายเช่นเดียวกัน
โดยรอบแบ่งกลุ่มอยู่ร่วมกับ นาโปลี, บรากา และอูนิโอน เบอร์ลิน ก่อนที่จะจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ส่วนในรอบน็อกเอาต์ต้องฝ่าด่านทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ บาเยิร์น มิวนิค ชนิดที่ว่าหินสุด ๆ โดยมาดริดยังไม่แพ้ใครเลยใน 12 นัดของแชมเปี้ยส์ลีกฤดูกาลนี้
เรอัล มาดริด เป็นเจ้าของสถิติแชมป์รายการนี้มากที่สุดถึง 14 สมัย หนล่าสุดคือการเป็นแชมป์ในปี 2022 ด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูลไป 1-0 ประตู นอกจากนี้คาร์โล อันเชล็อตติ ยังมีสถิติเป็นกุนซือคนแรกที่คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกได้ 4 สมัย โดยแบ่งเป็น 2 สมัยกับเอซี มิลาน และอีก 2 สมัยกับเรอัล มาดริด
นอกจากนี้ เกมนัดชิงที่เวมบลีย์ จะเป็นการล่งเล่นนัดสุดท้ายของ โทนี่ โครส กองกลางชาวเยอรมนี กับ เรอัล มาดริด ที่ประกาศเลิกเล่นหลังจบศึก ยูโร 2024 ที่กำลังจะถึง โดยเจ้าตัวลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ทั้งสิ้น 464 นัด ทำได้ 28 ประตู
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ : โคเบล (GK), ยูเลียน ไรเออร์สัน, มัตส์ ฮุมเมลส์, นิโก ชลอตเตอร์เบ็ค, เอียน มัตเซ่น, ชาน, เอ็มเร่ ชาน, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, คาริม อเดเยมี่, ยูเลี่ยน บรันด์ท์, เจดอน ซานโช่, นิคลาส ฟูลล์ครูก
เรอัล มาดริด : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (GK), ดานี่ การ์บาฆาล, นาโช เฟร์นานเดซ, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, แฟร์กล็อง เมนดี้, เฟเดริโก้ บัลเบร์เต้, โทนี่ โครส, เอดูอาร์โด คามาวิงก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม, โรดรีโก้, วินิซิอุส จูเนียร์
การพบกัน 5 นัดหลังสุด
7 ธันวาคม 2017 เรอัล มาดริด 3-2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
27 กันยายน 2017 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-3 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
28 กันยายน 2016 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-2 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
8 สิงหาคม 2016 เรอัล มาดริด 2-2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
09 เมษายน 2014 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)