
ศึกฟุตบอลยูโร 2024 ฝรั่งเศสประเดิมสนาม เอาชนะ ออสเตรีย ไป 1-0 แบบสะบักสะบอม จากการทำเข้าประตูตัวเองของ แม็กซิมิเลียน โวเบอร์ พร้อมต้องลุ้นอาการบาดเจ็บ คีลิยัน เอ็มบัปเป้
วันที่ 18 มิถุนายน 2567 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2024” รอบแรก กลุ่ม D นัดแรก คู่ระหว่าง “ออสเตรีย” พบ “ฝรั่งเศส” ณ สนามเมอร์คูร์ สเปล อารีนา, เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี
รายชื่อ 11 ตัวจริง

ออสเตรีย : แพทริค เพนท์ซ (GK), สเตฟาน พอช, เควิน ดันโซ, แม็กซิมิเลียน โวเบอร์, ฟิลิปป์ เอ็มเวเน่, นิโคลัส ไซวัลด์, คอนราด ไลเมอร์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, คริสตอฟ เบาม์การ์ทเนอร์, ฟลอเรียน กริลลิตช์, มิคาเอล เกรกอริตช์

ฝรั่งเศส : ไมค์ เมญอง (GK), ฌูลส์ คุนเด้, วิลเลียม ซาลิบา, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, อุสมาน เดมเบเล่, อ็องตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, มาร์คัส ตูราม
ครึ่งแรกฝรั่งเศสนำ
เกมเข้าสู่นาทีที่ 10 ฝรั่งเศสเหนือกว่าอย่างชัดเจน ครองบอลบุกตามระเบียบ โดยมีโอกาสได้ยิงหลายครั้ง และป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูออสเตรียอยู่เป็นระยะ
เกมผ่านช่วง 20 นาที ยังคงเป็นฝรั่งเศสที่เหนือกว่าก็จริง แต่ออสเตรียก็ยังไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ ยังคงต้านทานฝรั่งเศสไว้ได้ และบรรดาสตาร์ดังของฝรั่งเศสยังไม่ได้เล่นแบบถนัดมากนัก นับว่าแผนที่ราล์ฟ รังนิค วางมายังเอาอยู่
เกมเข้าสู่นาทีที่ 30 ออสเตรียค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างเป็นลำดับ เน้นเข้าบอลเร็ว และเล่นจังหวะสวนกลับ ทำเอากองหน้าฝรั่งเศสเงียบไปเหมือนกัน

นาทีที่ 36 ออสเตรียมาได้โอกาสทอง จากจังหวะสวนกลับและเปิดเข้ามาจากทางซ้าย ก่อนที่ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้แปะให้ คริสตอฟ เบาม์การ์ทเนอร์ ได้ยิง แต่ต้องชม ไมค์ เมญอง ที่ออกมาปิดมุมได้เร็วและเซฟไว้ได้
แต่แล้วออสเตรียที่ช่วยกันเล่นมาดีตั้งแต่ต้นเกมก็มาพลาดเสียบอลในแดนตัวเอง ก่อนที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จะได้กระชากไปสุดเส้นทางขวาและเปิดเข้ามา และกลายเป็น แม็กซิมิเลียน โวเบอร์ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยม ทำบอลเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 38 ทำให้ฝรั่งเศสออกนำ 1-0

จบครึ่งเวลาแรกทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ออสเตรียถือว่ามาดี ทำเอาฝรั่งเศสต้องเล่นเกมที่อึดอัด แต่พลาดลูกเดียวถึงขั้นเสียประตู ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่ฝรั่งเศสนำ 1-0
ครึ่งหลัง
นาทีที่ 55 ฝรั่งเศสมีโอกาสบวกประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ราบิโอต์ เปิดให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้ใช้ความเร็วกระชากหนีกองหลังออสเตรีย ก่อนจะได้หลุดไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่ลูกนี้ เอ็มบัปเป้ ยิงหลุดเสาไกลไปอย่างเหลือเชื่อ

เข้าสู่นาทีที่ 60 กลายเป็นว่าออสเตรียสามารถครองบอลบุกกดดันใส่ฝรั่งเศสได้ ทำให้ฝรั่งเศสต้องเล่นเกมสวนกลับไปโดยปริยาย ซึ่งอัตราครองบอลมาเท่ากันที่ 50% ต่อ 50%
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย รูปเกมเปิดอย่างชัดเจน เนื่องจากออสเตรียก็ต้องการประตูตีเสมอเช่นเดียวกันกับฝรั่งเศสที่ต้องการประตูที่สอง แต่ก็ยังมีแค่จังหวะหวาดเสียว และไม่ได้ลุ้นแบบถนัดถนี่กันเท่าไรนัก
จบเกมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ฝรั่งเศส สามารถเอาชนะ ออสเตรีย ไปได้ 1-0 ประตู ประเดิมเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ อยู่ในอันดับสองของกลุ่มรองจากเนเธอร์แลนด์ ส่วนออสเตรียรั้งบ๊วยกลุ่ม ทั้งนี้ ฝรั่งเศสต้องติดตามอาการบาดเจ็บจมูกของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ต่อไปจากจังหวะเข้าปะทะจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปในที่สุด
