ความเคลื่อนไหวก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 ที่จะเป็นการเจอกันของ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด แชมป์ 2 สมัยซ้อน และแชมป์รวม 12 สมัย จากลาลีก้า สเปน จะพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจ้าของแชมป์ 5 สมัย ที่โอลิมปิก สเตเดียม ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน คืนนี้ เวลา 01.45 น. ช่องพีพีทีวี เอชดี 36 และบีอิน1 ถ่ายทอดสด
ด้านความพร้อมของทั้งสองทีม เกมนี้ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของราชันชุดขาว ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ สามารถใช้ผู้เล่นทุกคนลงสนามได้ทั้งหมด แต่อาจจะต้องปวดหัวเล็กน้อยว่าจะเลือกใครลงสนามระหว่าง แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และอิสโก้ ที่จะต้องลงมาประสานงานร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ขณะที่ฝั่งของ “หงส์แดง” นั้น จะได้ทางด้านของ เจมส์ มิลเนอร์ กับ เอ็มเร่ ชาน 2 กองกลางที่มีอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ เป็นตัวเลือกให้กับทีมได้ ส่วนบรรดาผู้เล่นที่เจ็บหนัก พักยาวอยู่ก่อนหน้านี้อย่าง อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอเลน, โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ก็จะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้
นอกนั้นในส่วนของแนวรุก ไม่ว่าจะเป็น โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ 3 ประสานของทีม พร้อมลงสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด
ในส่วนของสถิติก่อนเกมการแข่งขันนั้น รีล มาดริด เข้าชิงถ้วยยุโรปเป็นครั้งที่ 16 ซึ่งก่อนหน้านี้ 15 ครั้ง พวกเขาได้แชมป์ไป 12 โดยพลาดเพียง 3 ครั้งเท่านั้นคือปี 1962 (เบนฟิก้า) 1964 (อินเตอร์ มิลาน) และ 1981 (ลิเวอร์พูล)
ส่วนลิเวอร์พูลนั้น เข้าชิง 8 ครั้ง มากที่สุดในอังกฤษ และพลาดเพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือปี 1985 กับยูเวนตุส และปี 2007 กับเอซี มิลาน
นอกจากนี้เกมนี้จะเป็นการย้อนรอยเมื่อปี 1981 ซึ่งปีนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ 4 ทีมจากลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรป เข้ามาตัดเชือกด้วยกันเหมือนปีนี้ และนัดชิงเป็นการพบกันระหว่างมาดริด กับ ลิเวอร์พูล อีกด้วย ซึ่งปีนั้น ลิเวอร์พูลชนะไป 1-0 แต่หลังจากนั้นอีก 6 ครั้ง มาดริดไม่เคยแพ้ในนัดชิงอีกเลย
สถิติสุดท้าย นัดชิงถ้วยยุโรป 6 ครั้งหลังสุดที่เป็นการเจอกันของทีมจากสเปนกับอังกฤษนั้น เป็นทีมจากสเปนชนะไปได้ทั้งหมด ครั้งสุดท้ายคือยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่ลิเวอร์พูล แพ้ เซบีญ่า 1-3 ส่วนครั้งสุดท้ายที่ทีมจากอังกฤษ ชนะ ก็เป็นลิเวอร์พูล ชนะ อลาเบส ในยูฟ่า คัพ ปี 2001
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
รีล มาดริด : เคย์เลอร์ นาบาส, ดานี่ คาร์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน, มาร์เซโล่, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, คาเซมิโร่, อิสโก้, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์กิล ฟาน ไดค์, เดยัน ลอฟเรน, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์