การแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โททัล บีดับเบิลยูเอฟ โธมัส แอนด์ อูเบอร์ คัพ ไฟนัลส์ 2018” ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมหญิง “อูเบอร์คัพ” โดยนักตบลูกขนไก่สาวไทย พบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
เริ่มต้นที่เดี่ยวมือ 1 “น้องเมย” รัชนก อินทนนท์ มือ 4 ของโลก เจอกับ อากาเนะ ยามากูชิ มือ 2 ของโลก ซึ่งสถิติก่อนหน้านี้เจอกันมา 18 ครั้ง รัชนก ชนะ 8 อากาเนะ ชนะ 10 แต่เกมนี้น้องเมย์แม้จะพยายามงัดทุกอย่างออกมาสู้ แต่ก็ต้านทานความแข็งแกร่งของอากาเนะไม่อยู่ พ่ายไป 2 เกมรวด 15-21, 19-21 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นนำไทยไปก่อน 1-0
หลังจบเกมน้องเมย์ กล่าวว่า ด้วยความที่ได้เล่นในบ้านก็อยากเอาชนะอากาเนะให้ได้ เลยกลายเป็นว่ากดดันตัวเองไป ต้องยอมรับว่าอากาเนะนั้นเล่นได้นิ่งกว่าในวันนี้ ส่วนตัวก็พยายามดึงเกมกลับมาให้เป็นของตัวเอง แต่ไม่สำเร็จ
ต่อมาคู่มือ 1 ไทยปรับแผนด้วยการส่ง “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล จับคู่กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล ลงดวลกับคู่มือ 2 ของโลกอย่างยูกิ ฟูคุชิมะ กับ ซายากะ ฮิโรตะ ก่อนจะออกมาเล่นได้ดีในช่วงแรก แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว พ่ายไป 0-2 เกม 18-21, 12-21 ทำให้ไทยตามหลัง 0-2 คู่
หลังเกมจงกลพรรณ กับพุธิตา กล่าวว่า ที่โค้ชเปลี่ยนคู่วันนี้เพราะต้องการเล่นแผนแบบใหม่ เพื่อทำให้ญี่ปุ่นตั้งตัวไม่ติด ซึ่งได้ผลดีในช่วงแรก แต่พอเขาตั้งเกมได้ก็กลายเป็นว่าเขากลับมาคุมเกมได้จนเอาชนะไป อย่างไรก็ตามทั้งสองคนได้พยายามทำอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ต้องยอมรับว่าคู่ของญี่ปุ่นนั้นแข็งแกร่งไปจริงๆ
จากนั้นเดี่ยวมือ 2 “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มือ 11 ของโลก ซึ่งไม่มีทางเลือกต้องชนะเท่านั้นเพื่อยังอยู่ในเกม พบกับ โนโซมิ โอคุฮาระ มือ 9 ของโลก แต่สุดท้ายก็พ่ายไป 21-12, 21-9 ทำให้ทีมญี่ปุ่น เอาชนะ ทีมชาติไทยไปได้ 3-0 คู่ คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปครอง และเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 หรือรอบ 37 ปี
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะผู้จัดการทีม กล่าวว่า ขอบคุณแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่เข้ามาชมและเชียร์ในสนามคับคั่ง สร้างบรรยากาศที่นักกีฬา, เจ้าหน้าที่ทีม และคนทำงานทุกคนต้องจดจำไปตลอดชีวิตเพราะเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ร่วมกันของคนไทยในวงการแบดมินตันโลกอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไร นักกีฬาทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแล้ว และขอให้าวไทยเป็นกำลังใจให้กับนักแบดมินตันทีมชาติไทยต่อไป
“ยอมรับว่านักกีฬาของเรากรำศึกหนักมาโดยตลอด เพราะต้องเจอกับ จีน ดีกรีแชมป์ 14 สมัย ในรอบรองฯ และรอบ 8 ทีมก็ผ่าน อินโดนีเซีย อดีตแชมป์ 3 สมัย ซึ่งแม้เราไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ ก็เชื่อว่านักกีฬา, ผู้ฝึกสอน รวมถึงชาวไทยทุกคน จะภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ส่วนเรื่องผลงานของทีมแบดมินตันสาวไทยครั้งนี้เราทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้คือเพียงเข้ารอบรองฯ แต่นี่เรามาถึงรอบชิงฯ จึงถือว่าประสบความสำเร็จมาก และเป็นไปตามแผนงานของสมาคมฯ เพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว” คุณหญิงปัทมา
