เอเลียด คิปโชเก นักวิ่งมาราธอนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตอบตกลงมาร่วมกิจกรรม “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก” ผู้จัดเล่าเบื้องหลังกว่าจะชวนมาได้ นับเป็นข่าวใหญ่ข่าวดีของประเทศไทยที่จะได้อวดความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนออกสู่สายตาชาวโลก
วันที่ 23 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กอบเกียรติ แสงวนิชย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันวิ่ง “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก” (Amazing Thailand Marathon Bangkok) ได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวในวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ประกาศว่า เอเลียด คิปโชเก (Eliud Kipchoge) นักวิ่งมาราธอนชาวเคนยาผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ตอบตกลงมาร่วมกิจกรรมการแข่งขันวิ่งในรายการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก” ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ พร้อมเล่าถึงเบื้องหลังความพยายามเชิญชวน กว่าจะได้รับคำตอบตกลงมาร่วมกิจกรรม
“เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสบินไปโตเกียว เพื่อร่วมวิ่งในงานมาราธอนที่นั่น ซึ่งนอกเหนือจากไปร่วมวิ่งแล้ว ผมได้มีโอกาสพบกับตำนานนักวิ่งมาราธอนของโลก เอเลียด คิปโชเก และผู้จัดการส่วนตัว เพื่อเรียนเชิญ The Goat (The Greatest Of All Time) มา Amazing Thailand Marathon Bangkok ในช่วงปลายปี
“…ผมเรียนเชิญไปเลยตรง ๆ ครับ แล้วก็เป็นไปตามคาดครับ ทั้งคู่ยิ้มรับตามมารยาท แต่ก็ตอบกลับมาตรง ๆ ว่า โอกาสจะมาเมืองไทยค่อนข้างจะยาก เพราะมีรายการอยู่ในลิสต์ที่เชิญคิปโชเกไปวิ่งอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งโดยปกติ คิปโชเกจะไม่ตอบรับใครเลย เขาจะเก็บตัวและฝึกซ้อมอยู่ที่เคนยากับเพื่อน ๆ ทีม NN Running Team เพื่อเตรียมตัวแข่งขันในรายการระดับเมเจอร์ หรือรายการระดับ Top Rank ของโลก ซึ่งจะบินไปไหนก็เพียงปีละ 1-2 ครั้งต่อปีเพียงเท่านั้น
‘สำหรับเมืองไทยอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะนึงนะ’ ผู้จัดการส่วนตัวบอกแบบนี้ และแนะนำกับผมว่า หากคิปโชเกจะทำอะไรสักอย่าง เขาต้องรู้สึก IN กับสิ่งนั้นจริง ๆ และอยากทำจริง ๆ เขาต้องเชื่อมั่น และที่สำคัญต้องแตกต่าง ไม่ใช่แค่เชิญมาวิ่งเพียงเท่านั้น !!!
“ทั้งสองคนถามผมว่า ทำไมต้องมาเมืองไทย ?
“ผมอธิบายว่า หากคิดว่าประเทศไทยจะจัดมาราธอนในระดับโลกได้ ต้องสร้างความเชื่อมั่น และการยอมรับจากนักวิ่งทั่วโลกให้เห็นกันก่อน ถ้าเขามาเมืองไทย จะแสดงให้เห็นว่า ‘ประเทศไทย…มีดีพอ’ เพราะระดับคิปโชเกยังเลือกมาไทย แทนที่จะไปประเทศอื่น อีกทั้งภาพต่าง ๆ ที่ทุกคนจะเห็นไปทั่วโลกจากการเดินทางของเขาจะช่วยทำให้นักวิ่งทั่วโลกให้ความสนใจและในวันหนึ่ง เขาจะตัดสินใจมาเมืองไทยในที่สุด
“ผมบอกเขาว่า ‘You are the only one who can help me…Kipchoge’ เรามาร่วมคิดกันว่าเราจะทำอะไรบางอย่างที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน ผมอยากทำโครงการดี ๆ อยากให้เค้ามาเป็นทูตทางการกีฬาและการท่องเที่ยว อยากให้มาช่วยสร้างกระแสให้วงการวิ่งมาราธอนในบ้านเราคึกคัก และเติบโตไปในทิศทางที่ควรจะเป็น และจะเป็นเกียรติมาก หากเขาจะมาวิ่งกับเรา เอาเท่าที่เขาคิดว่าเหมาะสม ผมโอเคหมด…
“ก่อนกลับ เขาบอกผมว่า ‘We like Thailand. Let’s work out and explore the opportunities together!’
“จากวันนั้น จนถึงวันนี้ 7 เดือนกว่า ๆ ที่ผมทุ่มเททุกอย่าง เพื่อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่น และความเชื่อที่มีให้กับเขา ผมเดินทางไปฝึกงานในงานมาราธอนระดับเมเจอร์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งลอนดอน โตเกียว ชิคาโก รวมถึงงานชิงแชมป์กรีฑาโลกที่ฮังการี และที่สำคัญได้ร่วมเป็นทีม Support คิปโชเกในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีส โดยทุกครั้งจะนัดประชุมเพื่ออัตเดตกับ Team Management ของเขากันตลอด
“ในส่วนของไตรลีก ผมค่อย ๆ เพิ่มดีกรีของคุณภาพในการจัดงานขึ้นไปทีละสเต็ป ไม่รีบร้อน เช่น พัทยามาราธอน หรืองานไตรกีฬาระดับโลกอย่างไอรอนแมนที่บางแสน ทุกรายการจะต้องมีคุณภาพที่ดีมีความเป็นสากล มีจุดขาย มีเอกลักษณ์ ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างทีมงานรวมถึงสะสมประสบการณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม หากเราจะต้อง GO INTER กันจริง ๆ
“ฝันผมจะเป็นจริงแล้วครับ
คิปโช้เกตอบตกลงจะมาเมืองไทย !!!
เขาจะมาช่วยประเทศไทย…
จะทำในสิ่งที่เราฝันร่วมกัน…”