แชมป์อยู่ไม่ไกล

Britain Soccer Premier League
Liverpool fans cheer their team ahead of the English Premier League soccer match between Liverpool and Southampton at Anfield in Liverpool, Saturday, March 8, 2025. (AP Photo/Jon Super)
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ลิเวอร์พูล ตั้งตนบนความไม่ประมาท ใกล้เส้นชัยเข้าไปทุกที… หรือแม้แต่บางคนบอกว่า ปีนี้ ถ้วยลีกสูงสุดของอังกฤษ ตกเป็นของ “ลิเวอร์พูล” ไปแล้ว จากการแข่งขันนัดล่าสุด เกมกับเซาแธมป์ตัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

บวกกับเกมนัดล่าสุด ระหว่าง อาร์เซนอล-แมนฯ ยูฯ ที่ทำได้แค่เสมอ จะส่งผลให้ระยะห่างระหว่างทีมหัวตาราง ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซนอล ทิ้งห่างกันออกไปถึง 15 คะแนน แม้ว่าอาร์เซนอล แข่งน้อยกว่า 1 นัด ลิเวอร์พูลแข่งไป 29 นัด มี 70 แต้ม

ขณะที่อาร์เซนอล แข่ง 28 นัด มี 55 แต้ม ระยะห่างของประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ นับตั้งแต่ฤดูกาล 1888-1889 ยังไม่เคยมีทีมไหนทิ้งห่าง “คู่แข่ง” ได้ขนาดนี้ ลิเวอร์พูล เหลือการแข่งขันในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อีก 9 นัด มี 27 คะแนน “ให้ไล่ล่า”

ส่วนอาร์เซนอล เหลือการแข่งขันอีก 10 นัด มี 30 คะแนน “ให้ไขว้คว้า” หากลิเวอร์พูลไม่พลาดเก็บได้ 97 แต้ม จบฤดูกาลจะคว้าแชมป์ เช่นเดียวกับอาร์เซนอล หากคว้า 30 แต้ม จาก 10 นัดที่เหลือ จะมี 85 แต้ม นั่นยังไม่เพียงพอที่จะคว้าแชมป์

และเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล จะต้องเปิดบ้านแอนฟิลด์ เพื่อต้อนรับการมาเยือนของปืนใหญ่ อาร์เซนอล ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ อาจจะเป็นนัดแห่งการชี้ชัยชนะ และแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2024-2025 อย่างแท้จริง หากไม่มีทีมใดสะดุด ระหว่างทาง

ถึงตรงนี้ ในฐานะผู้ติดตาม (เชียร์) ลิเวอร์พูล คนหนึ่ง… ยังเชื่อว่า ใครที่บอกว่า ตอนนี้ ลิเวอร์พูลได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก แน่นอนแล้ว

ADVERTISMENT

ยังค่ะ ! ยังปักใจไม่ได้ นักแข่ง ทีม สตาฟโค้ช จะยังประมาทไม่ได้เด็ดขาด ตราบใดที่คะแนนแข่งขันยังขาด สถานการณ์ตอนนี้ พูดได้เพียงแค่ว่า (เรา) ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานะ “ว่าที่” แชมป์ เท่านั้น

เพราะลูกกลม ๆ ในโลกฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตัวอย่างง่าย ๆ เกมที่เจอกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อสัปดาห์ก่อน ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทุกอย่างสามารถพลิกผันได้

ADVERTISMENT

แต่จากการวางตัวผู้เล่นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เราได้เห็นว่า “อาร์เนอ สลอต” ตั้งตนอยู่บนพื้นฐานของความไม่ “ประมาท” นักเตะในทีมเล่นด้วยความมุ่งมั่น กระหายในชัยชนะ มีสติกับเกม

แม้ว่าจะมี 2 เกมสำคัญ ที่มีผลต่อการ “ลุ้นแชมป์” รออยู่อีก 2 รายการ ทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม เลก 2 เปิดบ้านพบปารีส แซงต์ แชร์กแมง 11 มีนาคมนี้

และเกมนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถึงนาทีนี้ หาก “ลิเวอร์พูล” ตั้งตนบนความไม่ประมาท ค่อย ๆ ล่า ค่อย ๆ สะสม ไปทีละนัด จุดหมายคงไม่ไกลเกินเอื้อม กับทริปเปิ้ลแชมป์ ทั้งพรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ภาพคงจะสวยงาม หากเป็นสมัยแรกของการมาคุมทีม ของ “อาร์เนอ สลอต” ที่จะบรูฟทันทีว่า นอกจากมรดกชั้นดี ที่เขาได้รับช่วงต่อจาก “เยอร์เก้น คลอปป์” ที่ควบคุมเพลงแข้งลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น “เฮฟวี่ เมทัล” ได้อย่างถึงใจแล้ว

“อาร์เนอ สลอต” และลูกทีม จะปั้นแต่งสร้างความคลาสสิกอีกบท ให้กับวงการลูกหนังอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม

หรืออย่างน้อย เอาแค่ถ้วยพรีเมียร์ลีก สะสมไปทีละนัด รักษาระยะห่างอย่างสม่ำเสมอ แต้มขาดเมื่อไร นั่นหมายความว่า (เรา) ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ปีนี้ แน่นอน