มาดามแป้ง ชำแหละงบสมาคมบอล ตามหาเงินเดือนอดีตนายก พบพิรุธค่าทนาย 30 ล้าน

นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ชำแหละงบสมาคมกีฬาฟุตบอล ยุคก่อนกู้ฟีฟ่า 155 ล้าน ขาย Data Analytics ตามหาเงินบริจาค 32 ล้าน จากเงินเดือนอดีตนายก พบพิรุธอื้อค่าทนาย 30 ล้าน

“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงสรุปผลงาน 1 ปีในการดำรงตำแหน่ง รวมถึงแนวทางดำเนินการ หลังศาลฎีกาตัดสินสิ้นสุดคดีความ กับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

มาดามแป้ง กล่าวว่า ในขณะที่แป้งเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สภากรรมการฯ ได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หนี้สิน และพันธสัญญา เป็นวาระแรกที่เข้ามาเริ่มทำงาน โดยมีประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ได้แก่ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล

จากการตรวจสอบพบว่า งบการเงินของสมาคมฯ มีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 27,706,866.97 บาท ซึ่งเป็นเงินที่แป้งและสภากรรมการฯ ชุดนี้ได้รับ ในขณะเดียวกันมีหนี้สินจากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นที่ต้องชำระ 132,476,476.65 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกตรวจสอบโดยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน และสภากรรมการฯ ชุดปัจจุบันทุกคนรับรู้เรื่องดังกล่าว

กู้เงิน FIFA ตัดจากเงินช่วยเหลือ

มาดามแป้ง กล่าวอีกว่า สมาคมชุดก่อนได้มีการกู้ยืมเงินจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) โดยปกติแล้ว FIFA จะให้เงินสนับสนุนประเทศสมาชิกเป็นจำนวน 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 42 ล้านบาท

โดยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 อดีตนายกสมาคมฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการกู้ยืมเงินจาก FIFA มาพยุงฟุตบอลไทย จากการเผชิญปัญหาโควิด-19

ADVERTISMENT

เรื่องดังกล่าวระบุอยู่ในเอกสารของ FIFA ว่า อดีตนายกสมาคมฯ ได้กู้ยืมเงินระยะยาวเพื่อนำมาใช้ในกิจการของสมาคมฯ โดยเป็นเงินกู้และเบิกรับครั้งเดียว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 155 ล้านบาท โดยสมาคมต้องแบ่งจ่ายเป็น 10 งวด เป็นจำนวน 10 ปี เท่ากับว่าการกู้ตั้งแต่ปี 2563 สมาคมฯ ต้องเป็นหนี้จนถึงปี 2573 โดยตัดจากเงินช่วยเหลือ

“วาระของแป้ง หมดปี 2571 คนใหม่ก็ยังต้องโดนหักต่อไปอีก จาก 1.25 ล้านเหรียญต่อปี โดนหัก 5 แสนเหรียญ ท่านคิดว่าเป็นธรรมกับแป้งไหมคะ”

ADVERTISMENT
นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

ขาย Data Analytics ให้บริษัทมาเลเซีย

มาดามแป้ง เผยอีกว่า สมาคมชุดที่แล้ว ได้ขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในต่างประเทศ ทั้งไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3 ซึ่งแป้งได้ไปซื้อคืนกลับมาด้วยเงินของสมาคมที่มีอย่างกระเบียดกระเสียร

นอกจากนี้ สมาคมชุดที่แล้วไม่ได้ขายเพียงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังได้ขายสิทธิที่นำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดให้แก่คนนอกไป นั่นคือ Data Analytics และ Gaming Rights (สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมดของฟุตบอลไทย) ให้แก่ บริษัท Perform จากมาเลเซีย จนถึงปี 2571

“Data Analytics และ Betting Live ทุกคนรู้ดีว่า 2 สิ่งนี้สามารถนำมูลค่าสูงสุดมาให้สมาคมฟุตบอลฯ ได้ ซึ่งถูกขายไปแล้ว แป้งไปขอซื้อคืน เขาไม่ขายค่ะ ใครจะโง่ขายกลับมาคะ”

ตามหาเงินเดือน 32 ล้านบาท

มาดามแป้ง เผยอีกว่า ตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แป้งไม่เคยรับเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว แต่อดีตนายกในยุคก่อนหน้า รับเงินเดือนในฐานะนายกสมาคมฯ ทั้งเงินเดือนจากสมาคมฯ และเงินเดือนจากบริษัท ไทยลีก จำกัด ทั้งสองที่รวม 1 ล้านบาท ไม่รวมโบนัส

จนกระทั่งปลายปี 2561 เกิดการร้องเรียนขึ้น ทำให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เข้าตรวจสอบการบริหารงานและการทำงานในสมาคมฯ โดยมีเรื่องสำคัญคือการรับเงินเดือนของนายกและสภากรรมการว่าเหมาะสมหรือไม่

ต่อมา อดีตนายกได้ออกมาชี้แจงว่า ได้รับเงินเดือนจริง แต่ได้บริจาคกลับให้สมาคมฯ เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม แป้งได้ให้ฝ่ายบัญชีและการเงินหาหลักฐานว่าได้รับเงินบริจาคจำนวน 32 ล้านบาท คืนจริงหรือไม่

ทั้งหมดนี้ เนื่องจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า หลังจาก กกท. ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความเรื่องดังกล่าว โดยกฤษฎีกาได้ส่งหนังสือตีความเรื่องดังกล่าวกลับมาและยืนยันว่า นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่สามารถรับเงินเดือนหรือค่าจ้างได้ เพราะไม่ใช่ลูกจ้างของสมาคมฯ การทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาเป็นการอาสาเข้ามาทำงาน

“คำถามคือ ถ้ามีการคืนเงินเดือนจำนวนดังกล่าว ซึ่งน่าจะมีมูลค่า 32 ล้านบาทแก่สมาคมจริง ปัจจุบันสมาคมกำลังหาหลักฐานว่าได้รับเงินจำนวนดังกล่าวคืนมาหรือยัง ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลว่ามีการคืนเงินมาแล้ว” มาดามแป้งกล่าว

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล
เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล

พิรุธค่าทนายความ 30 ล้านบาท

มาดามแป้ง เผยว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลชุดก่อนได้ฟ้องสยามสปอร์ตกลับเช่นกัน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้สยามสปอร์ตจ่ายเงินให้สมาคมฯ จำนวน 99 ล้านบาท ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้อง ก่อนที่สมาคมชุดที่แล้วจะขอยื่นฎีกา แต่ศาลไม่รับฎีกา

นายเลิศศักดิ์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินสมาคม เผยว่า ได้ตรวจสอบพบประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่ง นั่นคือ เงินจำนวน 30 ล้านบาท ที่จ่ายให้กับทนายความในการยื่นฎีกา ซึ่งเงิน 30 ล้านบาทมีความผิดปกติ เนื่องจากค่าใช้จ่ายค่าทนายความในชั้นต้นนั้น ทนายความเสนอราคาว่าให้สมาคมจ่ายค่าทนายความ 7.5 แสนบาท ส่วนชั้นอุทธรณ์ และฎีกา ชั้นละ 3 แสนบาท

ผลของการตัดสินศาลชั้นต้น ปรากฏว่าสมาคมได้มีการอุทธรณ์ สมาคมฯ ก็ต้องจ่ายค่าทนาย 3 แสนบาทในชั้นอุทธรณ์ แต่เมื่อถึงชั้นฎีกากลับมีการอนุมัติจ่ายค่าทนายผิดไปจากข้อตกลง จากเดิมที่ต้องจ่ายอีก 3 แสนบาท สมาคมกลับไปจ่ายค่าทนายความถึง 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังเป็นการอนุมัติจ่ายเงินก่อนจะสิ้นสุดวาระของการดำรงตำแหน่งในสมัยนั้น ซึ่งกรณีนี้มีความผิดปกติในการใช้เงิน 30 ล้านบาท อาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝงใดกับเงินก้อนนี้ อาจนำมาซึ่งการฉ้อโกง หรือการฟอกเงิน เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาต่อว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

“เงินก้อนนี้ที่มีการจ่ายค่าทนายความในชั้นฎีกาไป ปรากฏว่าเมือยื่นฎีกาไปแล้ว ศาลไม่รับพิจารณา ประเด็นคือว่าใช้เงินถึง 30 ล้านบาท แต่ไม่มีการดำเนินการอะไรต่อ คดีสิ้นสุดลงอัตโนมัติ เงิน 30 ล้านบาทที่ให้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลย…เงิน 30 ล้านบาทมีผลมาก ๆ ต่อการบริหารงานของสมาคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขัน หรือการดำเนินการของทีมชาติ” นายเลิศศักดิ์กล่าว