ปิดตำนาน “ยูเซน โบลต์” โลกกีฬาหลายมุมจะไม่เหมือนเดิม

Jamaica's Usain Bolt waves to the crowd after taking bronze in the final of the men's 100m athletics event at the 2017 IAAF World Championships at the London Stadium in London on August 5, 2017. / AFP PHOTO / Adrian DENNIS

โดย อาฮุย แผ่นดินใหญ่

ยูเซน โบลต์ ยอดนักวิ่งแห่งยุคจากจาเมกา อำลาลู่วิ่งหลังจบรายการกรีฑาชิงแชมป์โลกที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 2017 วงการกรีฑา ที่ไม่มีเงาของเจ้าแห่งการวิ่งระยะสั้นน่าจะเปลี่ยนโฉมไปพอสมควร ฉากหน้าของยูเซน โบลต์ บนลู่วิ่งที่ถูกรูดม่านลงยังทิ้งคำถามไว้อีกพอสมควร

โบลต์ อำลาวงการแบบไม่สวยงามนัก และอาจบอกได้ว่าวันที่เขาโบกมือลาสนามไป ยูเซน โบลต์ ไม่ใช่เจ้าของแท่นเบอร์ 1 ในการวิ่ง 100 เมตรอีกต่อไป เมื่อโบลต์เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ตามหลังคริสเตียน โคลแมน และจัสติน แกตลิน ในศึกกรีฑาโลก

เหรียญทองแดงปิดท้ายอาชีพนักวิ่งแห่งยุคอาจ ไม่ใช่การเดินลงที่สวยงามเท่าไหร่ แต่ถ้ามองย้อนไปถึงผลงานและความยอดเยี่ยมในฐานะนักวิ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา โบลต์คือนักวิ่งที่ยอดเยี่ยมแห่งยุคอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะมีพลาดท่าไม่ต่างจากกรีฑาชิงแชมป์โลกครั้งล่าสุดก็ตาม

ยูเซน โบลต์ คือเจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตรด้วยตัวเลขเวลา 9.58 วินาที เป็นชายที่วิ่งระยะสั้นเร็วที่สุดในโลก ที่สำคัญ โบลต์ทำลายสถิติตัวเองมา 2 ครั้งก่อนที่จะจารึกสถิติ 9.58 วินาทีเมื่อปี 2009 และยังคงเป็นสถิติโลกจนถึงทุกวันนี้ เมื่อลองเปรียบเทียบพัฒนาการตั้งแต่ช่วงรุ่งเรืองของโบลต์จนถึงวันนี้ ไม่มีชายใดในโลกที่ทำสถิติในการแข่งระดับเมเจอร์เข้าใกล้ตัวเลขสถิติโลก ครั้งแรกของ

ยูเซน โบลต์ ที่ทำไว้ 9.72 วินาทีเมื่อปี 2008 ที่ใกล้ที่สุดในรอบระยะเวลา 10 ปีหลังมีเพียงสถิติที่ดีที่สุดของอซาฟา พาวลล์ ที่ทำไว้ 9.77 วินาทีเมื่อปี 2005

พัฒนาการของยูเซน โบลต์ ไต่ระดับขึ้นสู่จุดสูงสุดและค่อย ๆ ดิ่งลงมาตามกาลเวลา ก่อนหน้าการแข่งที่ลอนดอน โบลต์วิ่งทำสถิติดีกว่า 10 วินาทีในปี 2017 ได้แค่ครั้งเดียว มีรายงานว่าเจ้าตัวต้องเข้าพบแพทย์เพื่อดูแลอาการบาดเจ็บที่หลังด้วย และผลงานในสนามครั้งนี้ โบลต์ตอบสนองต่อเสียงปืนสัญญาณออกตัวแทบจะเป็นลำดับท้ายของการแข่งขันในรอบชิงดำ โบลต์ในวัย 30 ปีเข้าเส้นชัยโดยทำเวลา 9.95 เชื่อว่าเป็นสถิติแย่ที่สุดเท่าที่โบลต์เคยวิ่งในรอบชิงชนะเลิศในรายการระดับเมเจอร์

ช่วงท้ายของอาชีพโบลต์ เป็นช่วงเวลาเดียวในอาชีพนักกีฬาของเขาซึ่งดูเหมือนว่าไม่สามารถรักษาความ สม่ำเสมอได้ โบลต์ยอมรับว่า เมื่ออายุมากขึ้น การซ้อมเพื่อทำลายสถิติไม่สนุกเหมือนที่เคยรู้สึก ก่อนหน้านี้ยอดลมกรดจาเมกาขึ้นชื่อเรื่องผลงานสม่ำเสมอ รายการถนัดของเจ้าตัวอย่าง 100 เมตร, 200 เมตร และผลัด 4×100 เมตร โบลต์กวาดเรียบ 3 เหรียญทองจากทั้ง 3 รายการข้างต้นในโอลิมปิก 3 ครั้ง (2008 ที่ปักกิ่ง, 2012 ที่ลอนดอน และ 2016 ที่ริโอฯ)

ขณะที่กรีฑา โลก 4 ครั้งที่เข้าร่วม โบลต์ได้เหรียญทองทั้งหมดจาก 3 รายการถนัด มีเพียงปี 2011 ที่เจ้าตัวออกตัวพลาดจนโดนจับออกจากการแข่งขัน นอกเหนือจากนั้นคือความผิดพลาดครั้งล่าสุดที่ลอนดอน ปี 2017 นี้เอง

AFP PHOTO / Andrej ISAKOVIC

ผลงานที่สม่ำเสมอนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับศักยภาพของมนุษย์ที่สามารถก้าว ข้ามขีดจำกัดของตัวเอง นอกจากต้องอาศัยพรสวรรค์จากสภาพทางกายภาพด้วยส่วนสูงถึง 195 เซนติเมตร และสรีระที่ทำให้ช่วงระยะก้าวขายาวกว่าระยะเฉลี่ยของนักวิ่งทั่วไป แต่ยังต้องอาศัยการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงเช่นกัน ขณะเดียวกันนักกีฬาวิ่งระยะสั้นคนดังรายอื่นส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาผลงานได้ หรือมีปัญหานอกสนาม อย่างจัสติน แกตลิน ก็เป็นที่จดจำในหมู่แฟนเรื่องถูกข้อหาจากที่ใช้สารกระตุ้นจนถูกแบนหลายปี เมื่อเขากลับมาแข่งก็กลายเป็นถูกภาพลักษณ์ใสสะอาดของโบลต์ กลบรัศมีเรียบร้อย

การวิ่งประเภทบุคคลส่งท้ายของโบลต์ อาจไม่ใช่ฉากจบแบบสวยงาม แต่ช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา โบลต์สร้างสีสันและปลุกแวดวงกรีฑาให้คึกคักด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คล้า ยกับมูฮัมหมัด อาลี หรือเปเล่ พวกเขามาด้วยความมั่นใจ แต่ยังมีแฝงความน่ารัก เปี่ยมด้วยอารมณ์ขันแบบปุถุชน ไม่มีนักกีฬาคนไหนที่วิ่งในลู่แล้วสามารถหันหน้าไปทิศทางอื่นแล้วยิ้มได้ เหมือนที่ตำนานลมกรดคนนี้ทำ คนกีฬาที่ทันยุคยูเซน โบลต์ ถือเป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยม

กรีฑายุคหลังจากนี้อาจมีคนที่สามารถเหนือกว่าโบลต์ แต่คงมีไม่กี่คนที่มีศักยภาพเป็นดาวเด่นระดับทัดเทียมกับโบลต์ อิทธิพลของเขาต่อวงการกีฬาตลอดทศวรรษไม่มีใครกลบความทรงจำนี้ได้ แต่ถ้าจะมองกลุ่มที่มีความเป็นไปได้สูง น่าจะมีชื่อเวด ฟาน นีเคิร์ก นักวิ่งแอฟริกาใต้ที่วิ่งระยะ 400 เมตรและยังลงแข่ง 200 เมตร ระยะเดียวกับโบลต์ด้วย

ยุคที่ไม่มีชื่อโบลต์ให้ติดตามลุ้นสถิติแล้วก็ยังไม่ถึงกับเงียบเหงา คลื่นลูกหลังมักนำเสนอปรากฏการณ์ใหม่เสมอ จะมีโบลต์หรือไม่มีก็ตาม วงการกีฬาจะยังดำเนินต่อไปเสมอ คงเป็นบรรยากาศการแข่งที่จะไม่มีวันเหมือนกับยุคที่มีชื่อ ยูเซน โบลต์ เป็นดาวเด่นที่สร้างปรากฏการณ์มากมาย