เมื่อ ’หงส์’ ปฏิวัติการซื้อขาย จุดเปลี่ยนพาทีมบินสูง

ลิเวอร์พูล , เดอะค็อป , หงส์แดง , ฟุตบอล
หลังจากฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ* ผ่านไปแล้ว 6 เกม ทีมที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของสาวก “เดอะ ค็อป” ทุกคน เพราะเป็นทีมเดียวที่เก็บชัยชนะรวดทั้ง 6 เกม พร้อมกับทะยานขึ้นนำจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียว

อีกทั้งนี่ยังนับเป็นการออกสตาร์ทที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม จากการเก็บชัยชนะรวด 7 นัดทุกรายการ เพราะกลางสัปดาห์ก่อนก็เพิ่งล้มยักษ์ เอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์แม็ง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาได้

เอาจริงๆ นี่คือการเข้ามาคุมทีมอย่างเต็มตัวเป็นฤดูกาลที่ 3 ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังเข้ามาในช่วงกลางฤดูกาลเมื่อปี 2015/16 แต่ที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นว่าผลงานของทีมหงส์แดงนั้น ยังลุ่มๆ ดอนๆ ในลีกต้องลุ้นจนถึงช่วงท้ายกว่าจะได้โควต้าไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในแต่ละฤดูกาล

กุนซือเมืองเบียร์ อาจจะพาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วยได้ถึง 3 รายการ คือ ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก และปีล่าสุดคือเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่รายการเดียว

อย่งไรก็ตามหลายคนมองว่าความพ่ายแพ้ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศให้กับ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับทีมในปีนี้

ลิเวอร์พูล , เดอะค็อป , หงส์แดง , ฟุตบอล

จอห์น อัลดริดจ์ อดีตกองหน้าของทีม ให้ความเห็นว่า ความพ่ายแพ้ต่อรีล มาดริดนั้น ทำให้ทีมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในฤดูกาลนี้ พร้อมกับยกระดับทีมให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปที่ใครก็หวาดกลัวถ้าต้องปะทะฝีเท้าด้วย

แต่สิ่งที่น่าจะเป็นการเปลี่ยนโฉมของลิเวอร์พูลอย่างที่สุด น่าจะเป็นการดำเนินการในเรื่องของตลาดซื้อขายนักเตะ

Advertisment

อันดับแรกเลยหลายๆ ปีที่ผ่านมามีเรื่องตลกว่าลิเวอร์พูลจ่ายค่าตั๋วปีให้กับทีม “นักบุญแดนใต้” เซาธ์แฮมป์ตัน หรือสถาปนาให้นักบุญเป็นประหนึ่งทีมสำรอง จากการไล่ล่าคว้าตัวผู้เล่นเซาธ์แฮมป์ตัน หรือแม้กระทั่งอดีตนักเตะมาร่วมทีมเป็นจำนวนมาก

ไล่เรียงมาตั้งแต่ ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า, เดยัน ลอฟเรน, นาธาเนียล ไคลน์, ซาดิโอ มาเน่, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอเลน จนมาถึงรายล่าสุดอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ล้วนแล้วแต่เป็นผลผลิตของทีมนักบุญแทบทั้งสิ้น

Advertisment

จริงอยู่ที่นักเตะเหล่านี้ หลายคนก็ยังอยู่กับทีมอยู่ และบางคนก็ก้าวขึ้นมาเป็นคนสำคัญได้ แต่การที่เลือกซื้อผู้เล่นจากทีมที่ลุ้นอันดับ 8-10 ของตารางมันไม่ใช่สูตรสำเร็จของทีมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์

เห็นได้ชัดว่าช่วงหลายปีหลังลิเวอร์พูลเริ่มสนใจผู้เล่นจากทีมระดับล่างๆ น้อยลง เพราะอย่างที่บอกผู้เล่นเหล่านี้มาแล้วไม่ได้สามารถพาทีมขึ้นมาลุ้นแชมป์กับเขาได้ จากเดิมเราเห็นลิเวอร์พูลซื้อผู้เล่นในลักษณะที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มซื้อตัวผู้เล่นแบบเน้นๆ เสียที

การซื้อแบบเน้นปริมาณ ถ้าจะเอาให้เห็นได้ชัด ก็ต้องย้อนไปในฤดูกาล 2014 หลังจากที่สูญเสีย หลุยส์ ซัวเรซ ไปให้กับบาร์เซโลน่า แลกเป็นเงิน 65 ล้านปอนด์ กลับมาสู่ทีม ก่อนที่เบรนแดน รอดเจอร์ส จะนำไปแปรรูปเป็น ลอฟเรน, ลัลลาน่า, แลมเบิร์ต รวมไปถึง เอ็มเร่ ชาน, ดิว็อค โอริกี, ลาซาร์ มาร์โควิช และ**มาริโอ บาโลเตลลี่** ซึ่งเอ่ยชื่อมาก็รู้กันดีว่าสำเร็จหรือล้มเหลว

ลิเวอร์พูล , เดอะค็อป , หงส์แดง , ฟุตบอล

ลิเวอร์พูลหันมาเน้นซื้อผู้เล่นแบบคุณภาพมากขึ้น จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่ที่เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามา ในแต่ละซัมเมอร์นั้นหงส์แดงเซ็นผู้เล่นเข้ามาเพียง 4-5 รายเท่านั้น (ไม่นับดาวรุ่ง) และผู้เล่นที่เข้ามาเองก็คือตัวหลักของทีมทั้งนั้น

และอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นเลยคือ ลิเวอร์พูล เมื่อก่อนมักจะพลาดจากเป้าหมายหลักๆ ที่มองเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น วิลเลี่ยน หรือโม ซาลาห์ (ตอนย้ายไปเชลซี) แต่ ณ ตอนนี้ ลิเวอร์พูล แกร่งพอที่จะรอเป้าหมายหลักที่ตัวเองอยากได้ โดยไม่เอนเอียงไปหาเป้าหมายรองๆ

ถ้าในกรณีนี้จะมียกเว้นเพียงคนเดียวก็คือ ซาลาห์ ที่ตอนแรกคล็อปป์ อยากได้ตัว จูเลียน บรันดท์ ของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แต่สุดท้ายแล้วไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ด ผู้อำนวยการกีฬา ผู้อยู่เบื้องหลังดีลการซื้อขายทั้งหมดเป็นผู้โน้มน้าวให้คล็อปป์ หันมาเลือกซาลาห์แทน แล้วก็กลายเป็นปังซะอย่างนั้น

แต่ถ้ามามองดีลของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ลิเวอร์พูลยึดมั่นกับเป้าหมายรายนี้มาก และแสดงให้เห็นชัดว่าถ้าไม่ได้ ก็ไม่คิดจะดึงใครเข้ามาแทน หรือเข้ามาแก้ขัดก่อน และสุดท้ายฟาน ไดค์ ก็ดูจะเป็นการรอคอยที่คุ้มค่า เพราะช่วยให้แนวรับของหงส์แดงแกร่งขึ้นมาก

หรือการรอคอยนาบี เกอิต้า แบบข้ามปี ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและมีเป้าหมายที่ชัดเจน รวมไปถึงการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึง อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้ามาแก้ไขปัญหาผู้รักษาประตู ก็สร้างความตื่นตกใจให้กับวงการฟุตบอลไม่น้อยเลยทีเดียว

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าปีนี้ลิเวอร์พูลมีขุมกำลังที่มีระดับมากขึ้น ผู้เล่นทดแทนกัน พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง ส่วนจะได้หรือไม่ คงต้องไปว่ากันตอนท้ายฤดูกาลอีกที

ที่มา : มติชนออนไลน์