“จอห์น เฮนรี่” เจ้าของลิเวอร์พูลมือขึ้น หวังนำหงส์เถลิงแชมป์

ในทำเนียบนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในโลกกีฬายุคใหม่รอบทศวรรษที่ผ่านมา เริ่มมีชื่อบุคคลหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติมหลายราย และคนทั่วโลกต่างยอมรับว่าคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มีชื่อในทำเนียบนี้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ถ้าพูดถึงนักธุรกิจฝั่งสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความสนใจในยุโรปอาจมีไม่มากนัก แต่ช่วงนี้วงการก็จับตาจอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ ที่บริหารทีมกีฬาในมือหลายแห่ง รวมถึงลิเวอร์พูลด้วย

เป็นที่รู้กันว่า ลิเวอร์พูลยังไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดในอังกฤษ (นับตั้งแต่รีแบรนด์เมื่อปี 1992) การเปลี่ยนผู้บริหารเมื่อปี 2010 จากตระกูลยิลเลตต์ มาเป็นมือของจอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ ภายใต้ชื่อบริษัทที่บริหารงานอย่างเฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป อนาคตของลิเวอร์พูลก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามของทีมอยู่ดี แต่ที่น่าสนใจคือช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เฮนรี่ เริ่มพิสูจน์ให้แฟนเห็นมากขึ้นว่าทีมมีพัฒนาการและเข้าใกล้แชมป์มากอีกด้วย

ไม่เพียงแค่ผลงานของลิเวอร์พูล ที่แฟนบอลได้ลุ้นกันมากเป็นพิเศษในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่พอจะพิสูจน์ความสามารถของเฮนรี่ให้กับแฟนบอลในอังกฤษได้ยึดเหนี่ยวเป็นเครื่องการันตีก็คือ การพลิกโฉมบอสตัน เรด ซอกซ์ ทีมเบสบอลในเมเจอร์ ลีก เบสบอล สหรัฐ อดีตต้นสังกัดของเบบ รูธ ตำนานนักเบสบอลของชาวอเมริกันให้กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ ได้อีกครั้ง

บริษัทของจอห์น เฮนรี่ เริ่มเข้าเทกโอเวอร์ทีมกีฬาในสหรัฐตั้งแต่ต้นยุค 2000s ลงทุนในประเภทกีฬาความเร็ว อเมริกันเกมส์ และฟุตบอลในอังกฤษ เมื่อปี 2002 ก็เข้ามาบริหาร “เดอะ ซอกซ์” จากดีลมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 2 ปี หลังจากนั้นจอห์นพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ใช่นักธุรกิจสูบกำไรจากสโมสร

เขาเป็นคนพาบอสตัน เรด ซอกซ์ คว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ ครั้งแรกในรอบ 85 ปีของทีม

ช่วงเวลาเกือบ 16 ปีที่จอห์นเข้ามาทำทีมเบสบอลชื่อดังอีกทีมในหมู่อเมริกันชน บอสตัน เรด ซอกซ์ ได้แชมป์เวิลด์ ซีรีส์ ไปแล้ว 4 สมัย นับรวมกับแชมป์ปี 2018 ครั้งล่าสุดด้วยบรรยากาศการเฉลิมฉลองระหว่างสโมสรกับแฟนเบสบอลในท้องถิ่นอาจไม่ได้อยู่ในหน้าสื่อเอเชียหรือยุโรปมากนัก สำหรับจอห์น ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้เขายกให้ทีมชุดประสบความสำเร็จ

ฤดูกาลล่าสุดถึงกับเป็นทีม “บอสตัน เรด ซอกซ์” ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว

ข้อกล่าวอ้างของจอห์นอาจเป็นเรื่องที่ฟังแล้วยังคงมีเครื่องหมายคำถามสำหรับหลายคน แต่ถ้าลองไปเปิดสถิติเทียบเคียงเพื่อพิสูจน์แล้ว ข้อคำถามอาจคลี่คลายไปบ้าง เมื่อบอสตันมีสถิติชนะ 108 เกมในฤดูกาลปกติเป็นสถิติดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร หรือถ้ารวมกับเกมในช่วงหลังฤดูกาลปกติ พวกเขาชนะรวมทั้งหมด 119 เกม สถิติเป็นรองแค่นิวยอร์ก แยงกีส์ ในปี 1998 และซีแอตเทิล มารีนเนอร์ส ในปี 2001

ผู้เล่นในทีมชุดนี้ก็ไม่ใช่ดาวเด่นแบบที่พวกเขาเคยมี แต่ส่วนผสมของทีมระหว่างดาวรุ่งกับผู้เล่นที่เคยถูกมองข้ามแต่กลับกลายมาเป็นคนที่รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำเวิลด์ ซีรีส์ 2018 เมื่อไม่มีดาวเด่น ทีมกลับกลายเป็นชุดที่สมดุลที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ความสำเร็จ 4 ครั้งที่ผ่านมา มีความหมายสำหรับเมืองบอสตันที่ผ่านเหตุการณ์วางระเบิดมากพอกับความหมายในวงการเบสบอล ส่วนผสมและแนวทางทำงานที่สมดุลแบบเฮนรี่ ไม่หลบเลี่ยงสื่อ แต่ก็ไม่เก็บตัวหรือโอ้อวดจนเกินไป เพิ่มค่าตั๋วแต่ก็มาพร้อมกับคุณภาพในด้านอื่นตอบแทนแฟน ๆ หรือความสำเร็จในปี 2007 แบบที่ตอกย้ำว่าพวกเขาก็ทำได้ด้วยผู้เล่นในท้องถิ่นดั้งเดิม องค์ประกอบเหล่านี้อาจชวนให้นึกถึงความสำเร็จของเลสเตอร์ ซิตี้

สำหรับการบริหารทีมฟุตบอลในอังกฤษ ปีที่แล้วลิเวอร์พูลเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ถึงจะจบลงด้วยความผิดหวัง

ปีนี้ลิเวอร์พูลเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม ยังไม่แพ้ใครในลีกเกาะติดหัวตารางตีคู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า และยังไปได้สวยกับเจอร์เก้น คลอปป์ ที่เฮนรี่เชื่อว่ามีศักยภาพพาทีมประสบความสำเร็จฤดูกาลเดียวกับที่เรด ซอกซ์ ได้แชมป์ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งถ้าดูตามสถานการณ์ปัจจุบันอาจต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้อยู่

นอกเหนือจากแชมป์ลีกคัพเมื่อปี 2012 แชมป์ลีก, เอฟเอคัพ หรือแชมป์ยุโรป พวกเขาทำได้แค่เกือบเท่านั้นในยุคของจอห์น เฮนรี่ ที่สำคัญความทรงจำที่เคียฟ เมื่อปีที่แล้วก็เป็นเรื่องเจ็บปวดเฮนรี่ยอมรับแบบนั้น มาปีนี้คลอปป์พอจะแก้ไขปัญหาในเกมรับได้แน่นหนาขึ้น ผู้เล่นในทีมที่มีแววก็ขยับตัวพัฒนาศักยภาพขึ้นอีก ขณะที่ตัวที่ฟอร์มเก่งก็ยังทำผลงานใกล้เคียงกับมาตรฐานของตัวเองอยู่

สำหรับแฟนบอลที่เชื่อเรื่องโชคลางคงเคยนึกถึงสาเหตุที่อธิบายไม่ได้ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลอกหักต่อเนื่องหลายทศวรรษ ในลีกเมื่อปี 2014 หรือในฟุตบอลถ้วยที่ตกม้าตายแบบประหลาดมาตลอด แต่ถ้าจะมองแบบนั้นลองดูที่อัตราส่วนความเป็นไปได้ของโอกาสที่เลสเตอร์เคยถูกมองว่าจะคว้าแชมป์ลีกได้ ตัวเลขอยู่ที่ 5,000-1 ซึ่งถ้ามองในทางคณิตศาสตร์หรือประเมินตามเนื้อผ้า มันย่อมแทบหมายถึง “เป็นไปไม่ได้” ด้วยซ้ำ แต่จะว่าไปฤดูกาลนั้นเอง จิ้งจอกสยามทำได้…

คงไม่แปลกที่จอห์น เฮนรี่ จะเชื่ออีกครั้งจนเกือบถูกมองว่า “โว” หรือเปล่าที่เชื่อว่าปีนี้เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป จะทำแฮตทริกได้ทั้งเบสบอล เวิลด์ ซีรีส์ ไปจนถึงแชมป์ของลิเวอร์พูล ทั้งลีกและสโมสรยุโรป ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนบอลหงส์แดง คอบอลจำนวนไม่น้อยน่าจะมีปันใจเชียร์ให้ลิเวอร์พูลชุดนี้ไปถึงฝันเหมือนทีมอื่นของเฮนรี่ หลังเห็นแนวทาง ศักยภาพ และพัฒนาการที่น่าชื่นชมของทีม