เชียงราย เล็งผุดโครงการศูนย์กีฬาครบวงจรแห่งใหม่ ริมแม่น้ำกก เพื่อรองรับ “สปอร์ตซิตี้”

นางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย เผยว่า จากการที่จังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 “เจียงฮายเกมส์” ปรากฏว่ากระแสคนในจังหวัดตื่นตัวมาก ดังนั้นจากนี้ไปคงจะมองไปที่เป้าใหญ่ขึ้น เช่นการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ กีฬามหกรรมระดับนานาชาติ รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเมืองกีฬา “สปอร์ตซิตี้” ในอนาคต  อย่างไรก็ตามการตอนนี้เราอาจจะยังไม่พร้อมถึงขนาดนั้น  แต่ในอนาคตเรามีแผนที่จะสร้างศูนย์กีฬาแห่งใหม่ โดยใช้พื้นที่ริเวณริมแม่น้ำกก ซึ่งมีขนาดประมาณ 200 ไร่ เพื่อใช้สร้างสนามกีฬาแห่งใหม่แบบครบวงจร

“พื้นที่ภายในสนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ถึง 144  ไร่ แต่พอสนามต่างๆถูกจัดลงไปก็พบว่ายังไม่เพียงพอ บางสนามยังไม่ได้มาตรฐาน เดิมทีเรามองว่าสนามแห่งนี้พร้อมทุกด้าน แต่พอเราได้เป็นเจ้าภาพระดับประเทศพบว่ายังมีอีกหลางอย่างที่เราต้องเพิ่ม เช่นสถานที่จอดรถ ระบบขนส่ง และสนามที่ได้มาตรฐาน  เป็นต้น”

“นอกจากนี้ ในการเป็นเจ้าภาพ “เจียงฮายเกมส์” ครั้งนี้ มีนักกีฬา รวมถึงทีมผู้ฝึกสอน กว่า 16,000 คน รวมถึงผู้ติดตาม เดินทางมายังจังหวัดเชียงราย ซึ่งการมานั้นจะสร้างรายได้ให้กับคนในจังหวัดมากมาย เพราะจะต้องมีการจับจ่ายใช้สอย และท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งคำนวนไว้ประมาณหัวละ 2,000 บาท แต่ในส่วนของนักกีฬาอาจจะไม่ได้อยู่ยาวจนครบทุกคน บางคนอยู่ 3 วัน 5 วัน ถึงตรงนี้ผ่านครึ่งทางเงินสะพัดน่าจะไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทแล้ว  และทั้งทัวร์นาเมนต์เชื่อว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอน”  นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย กล่าวทิ้งท้าย

นายวิษณุ ไล่ชะพิษ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. เปิดเผยว่า หลังผ่านการเเข่งขันครึ่งทางของกีฬาเเห่งชาติมาเเล้วนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องของการตรวจสอบพบการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเเต่อย่างใด ซึ่งก็ต้องนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักกีฬาหันมาใส่ใจเเละให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ที่สำคัญทุกครั้งที่ทำการสุ่มตรวจ นักกีฬาให้ความร่วมมืออย่างดีไม่มีขัดขืน

 

 

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์