“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย “เอเชี่ยนคัพ 2019” ได้สำเร็จ หลังจากยันเสมอ เจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 1-1 ในเกมรอบแรก กลุ่มเอ นัดสุดท้าย ที่ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม เมืองอัลไอน์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม
สถานการณ์ก่อนเตะทีมชาติไทยเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม มี 3 คะแนนเท่ากับอินเดีย แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง ส่วนยูเออีมี 4 คะแนนด้วยกัน โดยอินเดียก็ลงเตะกับบาห์เรนในช่วงเวลาเดียวกัน
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
เกมนี้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพ ยังคงยึดผู้เล่นชุดเดิมที่เฉือนเอาชนะบาห์เรนมาได้เป็นหลัก มีเปลี่ยนตำแหน่งเดียวคือพรรษา เหมวิบูลย์ ที่ติดโทษแบนเท่านั้น นำมาโดย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นผู้รักษาประตู, เซ็นเตอร์ 3 คน อดิศร พรหมรักษ์, สุพรรณ ทองสงค์, มิก้า ชูนวลศรี, แบ๊กขวา-ซ้าย ทริสตอง โด-ธีราทร บุญมาทัน, กองกลาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มี “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวรุก ส่วนคู่หน้า อดิศักดิ์ ไกรษร กับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กัปตันทีม
ฝั่งเจ้าภาพ ภายใต้การนำทีมของ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี กุนซือชาวอิตาเลียน จัดทีมนำมาโดย อาลี มับคุต กองหน้าดาวยิงตัวเก่งที่ทำไทยถึง 3 ประตูจากการเจอกัน 2 นัดในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย
พอเริ่มเกมมาได้แค่ 7 นาทีเท่านั้น มับคุต ก็แผลงฤทธิ์กับทีมชาติไทยอีกครั้ง จากจังหวะที่ อิสมาอิล ฮัลฮัมมาดี ยิงชนคาน กระเด้งเข้าทาง มับคุต โหม่งจ่อๆ ไม่พลาดให้ยูเออีออกนำไทย 1-0
จากนั้นเล่นไปได้ 30 นาที ไทยก็ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เนื่องจากมิก้า ไปโหม่งจนบาดเจ็บศีรษะแตก ทำให้เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ได้ลงมาเล่นแทน
จนกระทั่งนาทีที่ 41 ไทยก็มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ ได้บอลตรงกลางสนาม จ่ายให้ชนาธิป ชิ่งกับธีรศิลป์ เข้าไปในเขตโทษแต่บอลไปเข้าทางฐิติพันธ์ที่สอดขึ้นมายิง 2 จังหวะเข้าประตูไปให้ไทยตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังไทยเริ่มครองเกมได้มากขึ้น แต่จังหวะสุดท้ายทั้งสองฝ่ายกลับไม่มีจังหวะที่ได้ลุ้นกันมากนัก ก่อนจะจบเกมด้วยการเสมอกันไป 1-1 ขณะที่ผลอีกคู่หนึ่ง บาห์เรน ชนะ อินเดีย 1-0 ได้ประตูชัยจากจุดโทษของ จามาล ราชิด นาทีที่ 90
ส่งผลให้ในกลุ่มบี ยูเออี เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม มี 5 คะแนน ส่วนไทยเป็นอันดับที่ 2 มี 4 คะแนน บาห์เรนเป็นอันดับที่ 3 มี 4 คะแนน แต่เฮดทูเฮดเป็นรองไทย อินเดีย จบอันดับ 4 ตกรอบเป็นทีมแรก
ทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยเป็นการเข้ารอบน็อคเอาท์ครั้งแรกในรอบ 47 ปี ซึ่งจะไปพบรองแชมป์ของกลุ่มซี ระหว่าง เกาหลีใต้ หรือจีน ที่จะเจอกันเพื่อตัดสินแชมป์กลุ่มซี ในวันที่ 16 มกราคมนี้
ที่มา:มติชนออนไลน์
