“ปาเกียว” วัย 40 กับปริศนารีแมตช์ “ฟลอยด์” พลังไม่ตก-ชกไหวจริงไหม

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

การขึ้นปีใหม่ไม่ได้หมายถึงวงรอบครั้งใหม่ในชีวิตเท่านั้น อีกนัยของมันยังหมายถึงตัวเลขอายุที่มากขึ้นอีกหนึ่งตัวเลข สำหรับนักกีฬาอาชีพบางชนิดกีฬา ตัวเลขนี้เหมือนนาฬิกานับถอยหลังไปถึงวันสิ้นสุดอาชีพ หากพูดถึงนักกีฬาเอเชียแล้ว แฟนกีฬาคงต้องนึกถึงชื่อแมนนี่ ปาเกียว ซึ่งเพิ่งแตะเลข 4 ไปหมาด ๆ

สำหรับอาชีพนักมวยแล้ว ตัวเลข 40 เป็นโค้งสุดท้ายของพวกเขาแล้ว มีนักชกไม่กี่รายที่ยังคงชกอาชีพในระดับท็อปได้ถึงวัยปลาย 40 เหมือนเบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ ซึ่งชกไฟต์หลังสุดเมื่อปี 2016 ด้วยวัยถึง 51 ปี ประสบการณ์ที่มากมายไม่อาจฝืนสังขารได้ เขาแพ้ไปใน 2 ไฟต์หลังสุดในอาชีพของตัวเอง ขณะที่แมนนี่ ปาเกียว กำปั้นแห่งยุคที่ควบงานนักการเมืองฟิลิปปินส์มายาวนาน ก็กำลังจะขึ้นชกในวัย 40 ปี

ไฟต์ล่าสุดของปาเกียว จะดวลกับเอเดรียน โบรเนอร์ นักชกอเมริกันซึ่งอายุน้อยกว่าปาเกียวถึง 11 ปี ในวันที่ 19 มกราคม 2018 (ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ) การชกมีขึ้นที่เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ สังเวียนอมตะในลาสเวกัส โดยแพ็กแมนจะป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่น 147 ปอนด์

ถ้าแคมป์ฝั่งปาเกียว ที่ได้ เฟรดดี้ โรช เทรนเนอร์คู่ใจกลับมาไม่ได้กล่าวเกินความเป็นจริงเกินไปนักที่ว่าปาเกียว ยังเป็นนักชกซ้อมหนักไม่แพ้หน้าไหนในวงการ และโบรเนอร์ จะท้อหลังผ่านไป 4 ยก เมื่อผ่านครึ่งทางก็จะหมดเรี่ยวแรงเหวี่ยงหมัด ปาเกียวก็มีแววเก็บชัยด้วยการน็อก หรือจะเป็นยุติการชก 2 ไฟต์ติดต่อกันได้อีกครั้ง

ผลงานไฟต์ก่อนหน้านี้ที่ปาเกียว ชนะ ลูคัส แมทธิสเซ่ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2018 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 11 ปีที่แพ็กแมนเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการที่กรรมการห้ามมวยบนเวทีต้องยกมือขึ้นทำงาน ดูเป็นผลงานที่สดใสสำหรับนักกีฬากลุ่มสายต่อสู้ในเลี้ยวเข้าโค้งสุดท้าย

แต่หากดูฟอร์มโดยรวมนับตั้งแต่ปาเกียว แพ้ให้ ฟลอยด์ เมย์ เวเธอร์ จูเนียร์ ในไฟต์หยุดโลกเมื่อปี 2015 ต้องบอกว่าปาเกียว ไม่ได้อยู่ในจุดพีกเหมือนเดิมแล้วแน่นอน

แม้แฟนมวยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นใกล้เคียงกับข้อสังเกตข้างต้น แต่เฟรดดี้ โรช เทรนเนอร์คนดังยังปากแข็ง เขาไม่เชื่อว่าแมนนี่ มีสัญญาณขาลงในแง่ศักยภาพทางร่างกายสืบเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น โรชให้สัมภาษณ์เรื่องสภาพร่างกายของปาเกียว ที่เขาประเมินจากการซ้อมแล้ว ปาเกียวยังหมัดหนัก อึด และลุยหนักยาวได้ ข้อมูลนี้กลับขัดแย้งเล็กน้อยกับสารจากปากของนักชกดังเองที่ยิ่งทำให้โรช ดูเหมือนทำได้ไม่แนบเนียนเท่าไหร่

ปาเกียวยอมรับว่า ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ เขารู้สึกว่าต้องใช้เวลาพักฟื้นมากกว่าแค่ข้ามคืนเพื่อให้ร่างกายกลับมาอยู่ในสภาพ “สมบูรณ์” แต่ก็ยังตั้งเป้าจะน็อกโบรเนอร์ให้ได้

ทำไมการน็อก สภาพร่างกาย และผลการแข่งที่จะออกมาในไฟต์นี้เป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงกันมาก สื่อทุกสำนักสนใจเพราะองค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโอกาสที่ทุกคนรอคอยไฟต์รีแมตช์ระหว่างปาเกียว กับฟลอยด์ เมย์ เวเธอร์ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยเฉพาะเมื่อปาเกียวมาร่วมเซ็นสัญญากับโปรโมเตอร์เครือเดียวกับฟลอยด์แล้วด้วยในเวลานี้

หลังไฟต์หยุดโลกเมื่อปี 2015 จบลงด้วยชัยชนะของฟลอยด์ ทั้งคู่มีข่าวหัวข้อไฟต์ภาค 2 เฉี่ยวไปมาทั้งคืบหน้าและไม่คืบหน้ามาตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ขณะที่ฟลอยด์ไม่ได้ชกกับนักมวยสากลอาชีพโดยเฉพาะตั้งแต่ชนะอังเดร เบอร์โต เมื่อปี 2015 ที่เหลือคือดวลเหมือนไฟต์โชว์กับคอนเนอร์ แม็กเกรเกอร์ นักชกยูเอฟซี เมื่อปี 2017 และล่าสุดเพิ่งขึ้นชกเหมือน “ชกโชว์ตัว” กับนักชก kickboxing ชาวญี่ปุ่นในอีเวนต์ก่อนวันปีใหม่

ถ้าพูดตามตรงแล้ว เส้นทางหลังจากปี 2015 เป็นต้นมา ไม่เคยเลยที่ไฟต์ของปาเกียว และฟลอยด์ จะเป็นไฟต์ที่มีความหมายในแง่การกีฬาทั้งสำหรับแฟนมวย และคนในวงการ ต่างคนต่างเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง ปาเกียว ที่ยังควบงานการเมืองกับนักมวยอาชีพก็เป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนฟลอยด์ เรียกได้ว่าเอาแน่นอนไม่ได้ เขามักให้สัมภาษณ์ย้ำเรื่องแขวนนวมเสมอ แต่อีกไม่กี่เดือนก็มาก็อาจมีแถลงไฟต์พิเศษได้ตลอดเวลา

สำหรับปาเกียว สิ่งที่น่าสนใจในเส้นทางหลังวัยแตะเลข 4 คงไม่ใช่แค่เรื่องผลการชกกับโบรเนอร์ ยังมีเส้นทางการเมืองที่เป็นเหมือนบทชีวิตอีกหนึ่งซีกของนักชกฟิลิปปินส์ ว่ากันว่าปาเกียว เดินมาจนถึงวันนี้ ได้ก็มีโอกาสขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีได้เหมือนกัน กระแสการเมืองและเสียงเรียกร้องของมวลชนยังคงวนเวียนอยู่

อย่างไรก็ตาม ปาเกียวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า เขายังไม่มีแผนเรื่องเกี่ยวกับการก้าวขึ้นตำแหน่งทางการบริหารขั้นสูงสุดในประเทศในตอนนี้ เมื่อดูสถานการณ์แวดล้อมเหมือนว่าปาเกียว ยังมีใจเหลือสำหรับการสะสางเรื่องคาใจกับฟลอยด์ ในสังเวียนอยู่มากกว่า ขณะที่ฟลอยด์ ยังเต้นรอบเชือกวนไปมาหาจังหวะแบบเอาแน่ชัดไม่ได้

เชื่อว่าผลของไฟต์นี้ก็ย่อมเป็นตัวต่อที่จะประกอบไฟต์รีแมตช์ให้เป็นรูปร่างมากขึ้น และแฟนทั่วโลกยังมั่นใจว่า ในวัย 40 ปีของปาเกียว และฟลอยด์ ยังพอมีโอกาสได้เห็นไฟต์รีแมตช์ได้ เหมือนไฟต์ที่ฟลอยด์ตกลงไปชก (ที่เหมือนงานโชว์มากกว่าไฟต์แข่งจริงจัง) ในญี่ปุ่นและน็อกเจ้าถิ่นแค่ยกแรกได้