การแข่งขันฟุตบอล “ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2019” รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อเช้ามืดวันที่ 19 เมษายน ฟาดแข้งพร้อมกัน 4 คู่
ไฮไลต์อยู่ที่เกมเตะระหว่าง นาโปลี ยอดทีมจากอิตาลี เปิดบ้านซาน เปาโล พบกับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งนัดแรกที่กรุงลอนดอน อาร์เซน่อล ชนะมาก่อน 2-0
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นาโปลี จัดทัพ 11 คนแรก ประกอบด้วย อเล็กซ์ เมเร็ต, เกอแว็ง มัลคุต, นิโคล่า มัคซิโมวิช, คาลิดู คูลิบาลี่, มาริโอ รุยซ์, โฆเซ่ กาเยฆ่อน, ฟาเบียน รุยซ์, อัลลาน, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ – อาร์คาดิอุส มิลิค, ลอเรนโซ่ อินซิเย่
ส่วนทีมเยือน อาร์เซน่อล จัด 11 คนแรก ได้แก่ ปีเตอร์ เช็ก, โซคราติส, โลร็องต์ กอสเชียลนี่, นาโช่ มอนเรอัล, ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, กรานิต ชาก้า, มัตเตโอ กูเอนดูซี่, เซอัด โคลาซินัก, อารอน แรมซี่ย์, เฮนริค มคิตาร์ยาน, อเล็กซ็องเดร ลากาแซตต์
ปรากฎว่า อาร์เซน่อล บุกไปเฉือนชนะได้อีก 1-0 จากประตูชัยของ อเล็กซ็องเดร ลากาแซตต์ นาทีที่ 36 ทำให้สกอร์รวม 2 นัด อาร์เซน่อลชนะ 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป
ส่วน เชลซี กลับมาเล่นในบ้านสแตมฟอร์ด บริดจ์ในกรุงลอนดอนรับมือ สลาเวีย ปราก ยอดทีมจากเช็ก
นัดแรก เชลซี บุกไปชนะมาก่อน 1-0 เกมนี้จึงได้เปรียบพอสมควร และปรากฎว่า เชลซี ชนะไปได้อีก 4-3 ประตู โดยนำก่อนขาดลอย 4-1 ในครึ่งแรก ทำให้สกอร์รวม 2 นัดเชลซี ชนะไป 5-3 ประตู ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปอีก 1 ทีม
ส่วนผลอีก 2 คู่
แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมนี) ชนะ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 2-0 สกอร์รวม 2 นัด เสมอกันที่ 4-4 ประตู และแฟร้งค์เฟิร์ต เข้ารอบตัดเชือกด้วยกฎประตูทีมเยือน
บาเลนเซีย (สเปน) ชนะ บียาร์เรอัล (สเปน) 2-0 สกอร์รวม 2 นัด บาเลนเซีย ชนะไป 5-1 เข้ารอบตัดเชือกเป็นทีมสุดท้าย
ที่มา:มติชนออนไลน์
