“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์มโหฬาร เปิดบ้านถล่มเอาชนะ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า 4-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จด้วยสกอร์รวม 4-3 ในเกมที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อคืนวันที่ 7 พฤษภาคม
เกมนัดแรก บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล มาได้ถึง 3-0 ทำให้หงส์แดงต้องเอาชนะมากกว่า 3 ประตูขึ้นไป จึงจะมีลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไปได้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
เริ่มเกมมาได้แค่ 7 นาทีเท่านั้น ลิเวอร์พูล ก็ได้ประตูออกนำก่อนจากจังหวะที่ฆอร์ดี้ อัลบา โหม่งคืนหลังพลาดโดนซาดิโอ มาเน่ ฉกไปได้ ก่อนจ่ายให้จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุดไปยิงติดเซฟมาร์ค อังเดร-แตร์ สเตเก้น มาเข้าทางดิว็อค โอริกี ซ้ำเข้าไป ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 แต่สกอร์รวมยังตามหลัง 1-3
จากนั้นลิเวอร์พูลยังเป็นฝ่ายที่ครองเกมหวังจะทำประตู แต่ทางบาร์เซโลน่าก็พยายามสวนกลับมาได้จังหวะหวาดเสียวหลายต่อหลายครั้ง ทว่าจบครึ่งแรกยังไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้สกอร์ในนัดนี้ลิเวอร์พูลนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังหงส์แดงปรับทัพทันที ด้วยการส่งจอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ลงมาแทนแอนดี้ โรเบิร์ตสัน แล้วให้เจมส์ มิลเนอร์ ไปยืนแบ๊กซ้ายแทน
แล้วลิเวอร์พูลก็มาได้ 2 ประตูติดๆ กันจากจอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ในนาทีที่ 54 กับ 56 ทำให้สกอร์ตอนนี้ขึ้นมาเป็น 3-0 และสกอร์รวมเป็น 3-3 ลิเวอร์พูลตีเสมอได้สำเร็จ
จากนั้นเกมยังเป็นของฝั่งลิเวอร์พูล ก่อนที่นาทีที่ 79 ลิเวอร์พูลมาได้ลูกเตะมุม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ใช้ไหวพริบเล่นเร็วขณะที่กองหลังบาร์เซโลน่ายังไม่ตั้งตัว เปิดเข้าไปให้โอริกี วอลเลย์ตูมเดียวเสยคานเข้าประตูไป ให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำในสกอร์รวมเป็นครั้งแรก 4-3
จากนั้นลิเวอร์พูลหันมาเล่นเกมรับเต็มตัว ส่งทั้งโจ โกเมซ และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงมาแทนโอริกี และเชอร์ดาน ชากิรี่ ก่อนจะรักษาสกอร์เอาไว้ได้ จบเกมลิเวอร์พูลเอาชนะบาร์เซโลน่า 4-0 พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะด้วยสกอร์รวม 4-3 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกันสำเร็จ