ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 จะแข่งขันนัดชิงอันดับ 3 และชิงชนะเลิศในวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายนนี้ ที่สนามช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์
คู่ชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติกือราเซา ที่ชนะทีมชาติอินเดีย 3-1 ประตูในรอบแรก และทีมชาติเวียดนามที่ชนะทีมชาติไทย เจ้าภาพ 1-0 ประตู
วันนี้ (7 มิถุนายน) ทีมชาติกือราเซาและทีมชาติเวียดนามแถลงความพร้อมก่อนการแข่งขัน ณ โรงแรมครอสทู ไวบ์ จังหวัดบุรีรัมย์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
เร็มโก้ ไบเซนตินี่ กุนซือทีมชาติกือราเซา กล่าวว่า ทีมกือราเซาพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ
“ผมยอมรับว่าไม่ได้ศึกษาฟอร์มการเล่นของทีมในอาเซียนมาก่อน และนี่ก็เป็นครั้งแรกของเราในคิงส์คัพ นี่จึงเป็นเรื่องที่ใหม่ของเรา อย่างไรก็ตาม ผมได้ดูฟอร์มของพวกเขาตอนเจอกับไทย เวียดนามเป็นทีมที่ดี มีศักยภาพมาก เกมพรุ่งนี้จะเป็นเกมที่สนุก เวียดนามเป็นทีมที่มีพละกำลังที่ดี นักเตะแต่ละคนก็มีเทคนิคสูง ผมก็คาดหวังว่าผู้เล่นของเราจะมีศักยภาพที่สามารถต่อสู้กับนักเตะเวียดนามได้”
“ผมมองว่าเวียดนามเป็นทีมที่มีนักเตะที่ดีทั้งทีม ผมจึงไม่ได้จับตาเป็นพิเศษ ส่วนการเล่นในวันพรุ่งนี้ ผมรู้ดีว่าจะเล่นอย่างไร ผมรู้ดีว่าเราทำอะไรได้บ้างในสนาม เรารู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ พรุ่งนี้จะเป็นเกมที่ดีของทั้งเราและเวียดนามแน่นอน”
ส่วน เอลสัน ฮอย กองกลางทีมชาติกือราเซาจากสโมสรเอดีโอ เดน ฮาก ในเอเรดิวิซี่ลีกของเนเธอร์แลนด์ บอกว่า “เราจะทำเต็มที่ที่สุดเพื่อผลการแข่งขันที่ดี การได้แชมป์นั้นเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมที่สุด แต่นั่นก็เป็นเรื่องรองจากการทำผลงานได้ดีในนัดชิงชนะเลิศ”
นอกจากนั้นเขายังพูดถึงประเด็นที่มีแฟนบอลเวียดนามชื่นชอบผลงานของเขาว่า “ผมไม่ได้มองว่าการที่มีแฟนฟุตบอลเวียดนามชื่นชอบฝีเท้าของผมเป็นเรื่องที่สำคัญในตอนนี้ เพราะผมโฟกัสไปที่การแข่งขันในวันพรุ่งนี้มากกว่า”
ฝั่งทีมชาติเวียดนาม ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือของทีมกล่าวว่า “ผมรู้สึกดีมากที่ได้เข้าชิงชนะเลิศในการแข่งขันที่ไทย ผมยอมรับว่าเรามีโชคนิดหน่อยจากการชนะไทยในวินาทีสุดท้าย การได้เจอกับกือราเซา ผมก็ยอมรับว่าพวกเขาแข็งแกร่งมาก แต่เราจะทำให้ดีที่สุดในนัดชิงชนะเลิศวันพรุ่งนี้ เพื่อการคว้าแชมป์”
“เราเคยเล่นกับญี่ปุ่นมาแล้ว พวกเขาเองก็มีผู้เล่นที่เล่นในยุโรปมากมายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการลงเล่นกับกือราเซาในวันพรุ่งนี้คงไม่ต่างกันเท่าไร ผมเชื่อว่าวิธีการรับมือนั้นมีอยู่แล้ว เราเคยเล่นกับทีมระดับนี้มาแล้ว ผมเชื่อว่าเราเล่นกับพวกเขาได้ กือราเซาเป็นทีมที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งสูงที่สุดในรายการนี้ และมีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมมากมาย นี่คือข้อแตกต่างของพวกเขากับทีมอื่น ๆ ที่ร่วมแข่งในรายการนี้ แต่เวียดนามก็พร้อมจะเรียนรู้ และสร้างผลงานให้ดีที่สุดในวันพรุ่งนี้”
เมื่อพูดถึงการปรับเปลี่ยนในนัดชิงชนะเลิศ พาร์ค ฮัง ซอ กล่าวว่า “ผมรู้ดีว่าสื่อเวียดนามและแฟนบอลเวียดนามต้องการชัยชนะและคว้าถ้วยแชมป์กลับไป แต่ผมต้องการรักษาสภาพร่างกายนักเตะให้ดีที่สุดเช่นกัน เพราะการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องการให้เราทำผลงานในเกมกับกือราเซาวันพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด”
ส่วนเหงียน อันห์ ดุ๊ค กองหน้าทีมชาติเวียดนาม กล่าวว่า “ก่อนมาแข่งรายการนี้ ผมมีอาการเจ็บ ช่วงท้ายเกมที่แข่งกับไทยก็มีอาการบาดเจ็บมากขึ้นนิดหน่อย แต่ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาเล่นต่อ แล้วผมก็ทำประตูได้ในที่สุด”
“ส่วนตัวแล้ว ด้วยความเป็นกองหน้า ผมก็รู้สึกดีที่ทำประตูได้ และเมื่อเป็นการทำประตูทีมไทยในเกมที่แล้ว ผมก็ยิ่งดีใจขึ้นไปอีก นี่เป็นประตูแรกด้วยที่ผมทำใส่ไทยได้”
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศ ทีมชาติเวียดนาม พบ ทีมชาติกือราเซา ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
ทุกนัดจะถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ทั้งนี้ แฟนบอลสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทั้งหน้าเคาน์เตอร์ และระบบออนไลน์ผ่าน www.thaiticketmajor.com