อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งไทยคนที่ 2 ใน F1 ถัดจากพระองค์เจ้าพีระ

Red Bull Racing's Thai driver Alexander Albon drives during the first practice session at the Autodromo Nazionale circuit in Monza on September 6, 2019 ahead of the Italian Formula One Grand Prix. (Photo by Miguel MEDINA / AFP)

ภาพข่าวที่นายกรัฐมนตรีพบกับนักแข่งรถเอฟวันชาวไทยอาจได้รับความสนใจในสาระอื่นเข้ามาผสมด้วย ใจความที่น่าสนอีกอย่างจากวาระนี้ ย่อมเป็นเรื่องการแจ้งเกิดของนักกีฬาความเร็วชาวไทยที่ไปโลดแล่นในรายการแข่งระดับโลกอีกรายอย่าง อเล็กซ์ อัลบอน

อเล็กซ์ อัลบอน วัย 23 ปี เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ รายนี้มีโอกาสแข่งให้ทีมเร้ดบูลล์เรสซิ่ง จากสถานการณ์ย้ายสลับขั้วทีม ซึ่งเป็นเรื่องปกติเหมือนกีฬาประเภทอื่น อเล็กซ์ ย้ายจากโตโร รอสโซ่ มาอยู่กับเร้ดบูลล์เรสซิ่ง (ทีมแม่ของโตโร รอสโซ่) แทนที่ ปิแอร์ แกสลี่ ซึ่งถูกเรียกกลับไปแข่งให้ โตโร รอสโซ่ อเล็กซ์ได้โอกาสกลับมาอยู่กับทีมเร้ดบูลล์อีกครั้งหลังจากถูกปล่อยตัวออกจากทีมไม่นานนัก หลังได้เซ็นสัญญากับทีมระดับโลก

(Photo by ANDREJ ISAKOVIC / AFP)

กว่าที่อเล็กซ์จะก้าวขึ้นมาขับเอฟวันตามฝัน ก็เป็นเหมือนเส้นเรื่องของนักกีฬารายอื่น อเล็กซ์มีพ่อที่เป็นนักแข่งรถชาวอังกฤษ เริ่มต้นจากการแข่งรถโกคาร์ตตั้งแต่อายุ 8 ขวบ กวาดแชมป์มาแล้วหลายรายการ การถูกคัดเลือกเข้าร่วมทีมเร้ดบูลล์จูเนียร์ เมื่อปี 2012 เป็นโอกาสอันดีที่ทั้งเขาจะได้ทำตามฝัน อีกด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสของประเทศไทยด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 90 ปีก่อน พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือพระองค์เจ้าพีระ เริ่มแข่งรถระยะสั้นก่อนที่จะกลายเป็นนักแข่งรถชาวไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก พระองค์เจ้าพีระ ทรงชนะเลิศในรายการใหญ่ถึง 4 ครั้ง แต่หลังจากนั้น รายการแข่งรถระดับโลกก็ไร้เงาของนักแข่งชาวไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงอีก กระทั่งเมื่อปี 2012 ซึ่งถือเป็นโอกาสดีและเป็นความหวังของคนไทย

อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ไม่สามารถปรับตัวได้ เขาเล่าว่าโอกาสที่ได้มานั้นมีเวลาให้ปรับตัวจากโกคาร์ตมาสู่การแข่งรถแบบล้อเปิดไม่มากนัก อีกทั้งยังไม่มีคนให้คำปรึกษาอย่างจริงจัง ไม่มีโมเดลเป็นต้นแบบให้ศึกษา สิ่งที่ทำคือการลองผิดลองถูก นั่นทำให้ผลงานในการแข่งฟอร์มูล่า เรโนลต์ 2.0 ไม่เป็นไปตามคาดหวัง ปี 2012 ในการแข่งยูโรคัพ ซีรีส์ เขาไม่สามารถเก็บแต้มได้เลย

ปีถัดมาเขาได้โอกาสร่วมทีมเคทีอาร์ (KTR) จบฤดูกาลโดยทำได้ 22 แต้ม รั้งอันดับ 16 ในตารางคะแนน ในปี 2014 ก็เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้น พัฒนาการของอเล็กซ์เริ่มดีขึ้นหลังจากจับทาง ปรับตัวได้แล้ว และได้แข่งฟอร์มูล่า 3 ร่วมกับทีมซิกเนเจอร์ ชิงแชมป์ยุโรป จบอันดับ 4 และขึ้นโพเดียมไป 5 ครั้งด้วย

จุดเปลี่ยนของอเล็กซ์ มาอยู่ที่ผลงานเมื่อปี 2016 ภายหลังจากได้ร่วมทีมเออาร์ที กรังด์ปรีซ์ (ART) ลงแข่งรายการจีพีทรี ซีรีส์ (GP3) แล้วจบอันดับรองแชมป์ ตามหลัง ชาร์ลส เลอแคลร์ เพื่อนร่วมทีม ที่ปัจจุบันไปแข่งให้ทีมเฟอร์รารี่

อัลบอน เป็นตัวอย่างสำหรับความพยายามและความอดทนในการยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองยึดมั่น แม้จะต้องฝ่าอุปสรรคจนผลงานใน GP3 ทำให้ทีมเออาร์ทีขยับเข้ามาแข่งในฟอร์มูล่า 2 รายการแข่งรถระดับรองลงจากฟอร์มูล่า วัน

รายการนี้มีอุปสรรคทั้งเรื่องสภาพร่างกายจากอุบัติเหตุนอกสนาม ซึ่งกระทบต่อผลงาน อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ทำผลงานได้น่าพอใจ โดยจบอันดับ 10 ในฤดูกาลแรก อัลบอนต่อสู้ในฟอร์มูล่า 2 ต่อ ภายใต้สังกัดใหม่ แถมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ซึ่งเป็นผลงานที่น่าจะช่วยสะท้อนว่า เขาดีพอจะลงแข่งขันรถสูตรหนึ่งได้แล้ว

สำหรับแฟนกีฬารถแข่งน่าจะพอคุ้นเคยกับรายละเอียดและองค์ประกอบในการแข่งสำหรับนักกีฬาแต่ละรายได้ พวกเขาไม่เพียงแค่ต้องมีทักษะส่วนตัว แต่เท่านั้นไม่พอ ต้องมีองค์ประกอบอื่นหนุนเสริมอีกหลายอย่าง เครื่องยนต์เอย ทีมเอย ที่สำคัญคือเรื่องทุน อัลบอนไม่ได้มีสปอนเซอร์ที่ทุนหนามากพอ

ทีมอย่างโตโร รอสโซ่ ที่เคยเป็นอดีตต้นสังกัดตอนนั้นก็ยังลังเลกับการประเมินผลงานของคนเก่า (แต่ ณ วันนี้คงไม่แล้ว โตโรไม่เชื่อว่า อัลบอนจะกลับมาด้วย) อัลบอนจึงต้องตัดสินใจเอง ด้วยการไปลงแข่งฟอร์มูล่า อี (Formula E) รายการรถแข่งพลังงานไฟฟ้าในฤดูกาล 2018-2019 แต่ยังไม่ทันแข่งก็เกิดการสลับขั้วระหว่างนักขับขึ้น และได้กลับมาอยู่กับโตโร รอสโซ่ เป็นเวลาสั้น ๆ และกลายเป็นนักแข่งรถชาวไทยคนที่ 2 ซึ่งได้แข่งในฟอร์มูล่า วัน นับตั้งแต่พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงลงแข่งเมื่อฤดูกาล 1954

ผลงานกับฟอร์มูล่า วัน ภายใต้ทีมโตโร รอสโซ่ เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยม อัลบอนยังสามารถทำได้สำเร็จ ทีมแม่อย่างเร้ดบูลล์ถึงกับเลือกให้เขาขึ้นมาขับกับทีมแม่ แทนที่นักขับ

ซึ่งฟอร์มไม่ค่อยเข้าตา แถลงการณ์ของเร้ดบูลล์ระบุว่า พวกเขาจะใช้การแข่งที่เหลือเพื่อประเมินผลงานของอเล็กซ์ และจะนำมาใช้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครมาจับคู่กับ แม็กซ์ เวอร์สแตปเพน ในปี 2020 คงต้องบอกว่า ไม่ว่าเส้นทางฟอร์มูล่า วัน ของนักขับไทยอีกรายจะออกมาแบบไหน แต่ด้วยโอกาสและฝีมือที่เขาได้ก้าวมาถึงจุดนี้ ก็ถือว่าเป็นการเปิดบันทึกบทใหม่สำหรับแวดวงนักแข่งรถชาวไทย เร้ดบูลล์ ทีมที่เคยปั้นเขามาก็อ้าแขน เปิดโอกาสให้อีกครั้ง ถึงเวลาที่อัลบอนจะพิสูจน์ตัวเอง กับบทใหม่ของนักแข่งรถไทยในเวทีระดับโลกอีกครั้งแล้ว