บทเรียนจากซูเปอร์โบว์ล ความกล้าของ แคนซัสซิตี้ชีฟส์ และมาโฮมส์

Photo by Jamie Squire/Getty Images

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ในบรรดาทีมกีฬาระดับอาชีพที่แฟน ๆ รอคอยความสำเร็จหวนกลับคืนมา มองไปทั่วโลกคงมีนับไม่ถ้วน และน่าจะมีสโมสรจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่รอคอยกันมาไม่ต่ำกว่า 3 ทศวรรษ เรียกได้ว่ารอคอยกันมาเกือบครึ่งหนึ่งของอายุขัยมนุษย์กันเลยทีเดียว เป็นที่คุ้นเคยกันมากที่สุดก็คงเป็นลิเวอร์พูล ส่วนอเมริกันเกม แฟนกีฬาต่างได้เฮกับความสำเร็จของแคนซัสซิตี้ ชีฟส์ ซึ่งห่างหายจากแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ยาวนานถึง 50 ปี

Photo by Angela Weiss / AFP

“หัวหน้าเผ่า” แคนซัสซิตี้ (ที่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าใจผิดว่า เป็นทีมรัฐแคนซัส แต่ความจริงแล้วเป็นทีมในรัฐมิสซูรี) ห่างหายจากแชมป์ซูเปอร์โบว์ลนานครึ่งศตวรรษ นี่เท่ากับเป็นเวลาครึ่งชีวิตคนเลยทีเดียว ยาวนานกว่าที่เดอะค็อปรอคอยแชมป์พรีเมียร์ลีกนับ 3 ทศวรรษ และกำลังจะได้สัมผัสถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง สำหรับทีมหัวหน้าเผ่า พวกเขาได้แชมป์ครั้งก่อนหน้านี้จะต้องย้อนไปถึงปี 1969 ในสมัยที่เอ็นเอฟแอลยังไม่รวมลีกกัน ยังเป็นเอเอฟแอล ลีก อยู่ด้วยซ้ำแชมป์แรกในรอบ 50 ปี ไม่เพียงเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของทีมแคนซัสซิตี้ แต่ยังเป็นอีกหนึ่งเกมในประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบว์ล ในฐานะเกมที่พลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แคนซัสซิตี้ที่เป็นฝ่ายตามหลังมาตลอด 3 ควอเตอร์ และเริ่มควอเตอร์สุดท้ายด้วยสกอร์ 10-20

Photo by Kevin C. Cox/Getty Images

แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กวัย 24 ปีที่เล่นไม่ออกตลอดทั้งเกม และเสีย 2 อินเตอร์เซ็ปต์ติดต่อกัน กลับขว้างไกลทำระยะ 44 หลา เข้าไปอยู่ในระยะ 15 หลา และขว้างให้ ทราวิช เคลซี รับในเอนด์โซน ทำแต้มไล่ตามมาที่ 17-20 ในช่วงโค้งสุดท้ายของควอเตอร์ที่ 4 และตามมาด้วยชอตที่มาโฮมส์ ขว้างเข้าไปข้ามเส้นแบบเฉียดฉิว ทีมหัวหน้าเผ่าพลิกแซงนำ 24-20 และเหลือเวลาแค่ 3 นาที จากนั้นก็ปิดเกมด้วยสกอร์ 31-20 ควอเตอร์ที่ 4 ในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 54 เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์อีกครั้งในอเมริกันเกม ที่เกิดสถานการณ์พลิกผันอย่างนี้ และยังเป็นข้อเน้นย้ำดีเอ็นเอของแคนซัสซิตี้ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องทีมแห่งการคัมแบ็ก และได้รับคำชื่นชมว่าเป็นทีมที่ทำผลงานได้ดี (แม้จะไม่เคยถูกมองว่าดีพอจะเป็นทีมลุ้นแชมป์) ชัยชนะในซูเปอร์โบว์ลเป็นการคัมแบ็กหนที่ 3 สำหรับการตามหลัง 10 แต้ม หรือมากกว่านั้นในช่วงโพสต์ซีซั่น ทีมหัวหน้าเผ่า คือ ผู้ครองสถิติคัมแบ็กมากที่สุดนี้ในบรรดาการตัดสินใจของแคนซัสซิตี้ รอบหลายปีที่ผ่านมา

คนที่เชื่อมั่นในตัวมาโฮมส์ มากที่สุดในทีมตั้งแต่เริ่มแรก มาจาก เบร็ตต์ วีช ผู้จัดการทั่วไปของทีม ซึ่งแนะนำผู้เล่นที่แทบไม่มีใครรู้จักรายนี้ ในสถานะ “ผู้เล่นยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา” ให้กับแอนดี้ รีด โค้ชใหญ่มากประสบการณ์ของแคนซัสซิตี้ วีชเอาเทปบันทึกภาพฟอร์มของมาโฮมส์ ในระดับมหาวิทยาลัยมาวางบนโต๊ะรีดอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งรีดเปิดดูจึงพบว่า มาโฮมส์ คือ “ผู้เล่นยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา”

รีดเล่าว่า สิ่งที่เขาดูในวิดีโอก็คือ มาโฮมส์ขว้างแบบที่เขาขว้างในซูเปอร์โบว์ล หรือขว้างแบบที่เรียกว่าไม่ได้ใช้สายตามอง หรือใช้มือไม่ถนัดขว้างหากจำเป็น แต่แน่นอนว่าวิดีโอจากการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นเพียงฐานเบื้องต้นในการพิจารณา และทีมยังไม่มั่นใจในศักยภาพของมาโฮมส์ ว่าจะมีประสิทธิภาพแบบในตัวอย่างในระดับเกมเอ็นเอฟแอลในระยะยาวหรือไม่

Photo by Michael Zagaris/San Francisco 49ers/Getty Images

ก่อนหน้าที่มาโฮมส์จะเป็นดาวดังในระดับเอ็นเอฟแอล เขาเคยเล่นเบสบอลมาก่อนด้วยซ้ำ และได้รับเลือกจากทีมดีทรอยต์ ไทเกอร์ส แต่การเซ็นสัญญาไม่เกิดขึ้น ที่มาของการเล่นในเอ็นเอฟแอลก็มาจากระดับมหาวิทยาลัยจากเทกซัสเทค ก่อนที่ชีฟส์จะดราฟต์เขามาในอันดับที่ 10 เมื่อปี 2017 และอยู่ในบทบาทอะไหล่ของอเล็กซ์ สมิธ แต่ช่วงเวลา 3 ปีในเอ็นเอฟแอล เขาสามารถพลิกสถานะจากเดิมที่เป็นควอเตอร์แบ็กวัย 22 มาสู่ควอเตอร์แบ็กแถวหน้าของเอ็นเอฟแอล

มาโฮมส์พิสูจน์สถานะนี้ในเกมซูเปอร์โบว์ล แมตช์ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาตั้งแต่เล่นอาชีพมา เพลย์สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนในช่วงควอเตอร์ที่ 4 ถูกเปิดเผยว่า เป็นเขาที่เรียกแผนนั้นออกมา โค้ชควอเตอร์แบ็กของทีมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสถานีเอ็นบีซีว่า มาโฮมส์เป็นคนเรียกแผนนี้ และแอนดี้ก็ให้ไฟเขียว และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โมเมนตัมของเกมเหวี่ยงมาเข้าทางของชีฟส์

Photo by Angela Weiss / AFP

ในเวลานี้ มาโฮมส์อายุแค่ 24 ปี และเป็นควอเตอร์แบ็กอายุน้อยที่สุด ซึ่งได้รับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าของซูเปอร์โบว์ล และมีอนาคตสดใส สไตล์การเล่นที่ไม่อยู่ในกรอบของเขา

ความเชื่อมั่นและฝีมือที่โดดเด่นทำให้กูรูมองว่า สัญญาฉบับต่อไปของเขาน่าจะทำให้มาโฮมส์ มีมูลค่ามหาศาล แตะหลัก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความสำเร็จของชีฟส์ในรอบ 50 ปี มีเรื่องราวที่คล้ายกับความสำเร็จของทีมกีฬาอาชีพอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกับการกลับมาสัมผัสความสำเร็จหลังห่างหายไปยาวนาน

พวกเขาต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากกรอบทั่วไปบ้าง และกล้าตัดสินใจ สักวันหนึ่งการตัดสินใจที่อยู่ภายใต้พื้นฐานข้อมูลที่เหมาะสม ย่อมตอบแทนความกล้านั้นอย่างแน่นอน