ไทยลีกประชุมเครียด คาดกลับมาแข่งเดือนกันยา มีมติลดเงินเดือนนักเตะ 50% เท่ากันทั้งลีก

วันนี้ (14 เมษายน 2563) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด จัดการประชุมร่วมกับตัวแทนจากสโมสรฟุตบอลไทยลีก 1 และไทยลีก 2 เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกหลังเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19

หลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า ประเด็นหลักในการประชุมวันนี้ ได้แก่ เรื่องที่ 1 เรื่องการกำหนดวันจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องมีโจทย์ที่ต้องหารือร่วมกันว่าจำเป็นหรือไม่ที่ฟุตบอลลีกฤดูกาล 2020 จะต้องจัดการจัดการแข่งขันให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบจากจำนวนแมตช์การแข่งขันที่ถี่มาก เฉลี่ย 3 วันต่อแมตช์ ภายใต้เงื่อนไขคือกลับมาแข่งขันภายในเดือนสิงหาคม

ประเด็นนี้ที่ประชุมมีมติเห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์ว่า ถ้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่เลวร้ายไปกว่านี้หรือมีทิศทางที่ดีขึ้น ฟุตบอลไทยลีกน่าจะกลับมาจัดการแข่งขันได้ในเดือนกันยายน 2563 และไปจบสิ้นในเดือนพฤษภาคม 2564 ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการอื่น ๆ จะยังคงจัดการแข่งขันตามเดิม

ส่วนช่วงเวลาเปิด-ปิดตลาดซื้อขายนักเตะจะมีการปรับช่วงเวลาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการกลับมาเริ่มแข่งขันในเดือนกันยายน ส่วนจะนับคะแนนรวมที่มีการแข่งขันทั้ง 4 แมตช์ที่ผ่านมาแล้วหรือไม่ สโมสรในไทยลีก 1 จะทำหนังสือแจ้งแนวทางที่แต่ละทีมต้องการมาให้สมาคมฯ ภายในวันที่ 22 เมษายนนี้ เพื่อพิจารณาต่อไป

เรื่องที่ 2 คือ แนวทางการปฏิบัติที่ฟีฟ่าแจ้งต่อสโมสรสมาชิกเพื่อป้องกันการเกิดข้อพิพาเรื่องสัญญากับนักกีฬา ฟีฟ่าแนะนำให้สโมสรกลับไปเจรจาเรื่องค่าตอบแทนเพื่อให้สโมสรอยู่รอดในช่วงวิกฤต และสามารถรักษาสภาพคล่องทางการเงิน จนถึงเวลากลับมาแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง

ประเด็นนี้ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ทุกสโมสรจะกลับไปเจรจาลดค่าตอบแทนบุคลากร ทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ในอัตรา 50% หรือ ครึ่งหนึ่ง เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งลีก

ทั้งนี้ ในส่วนของสมาคมฯ จะดำเนินการทำหนังสือแจ้งมติที่ประชุมให้ฟีฟ่ารับทราบ รวมทั้งแจงเหตุผลที่ต้องลดค่าตอบแทนด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุให้สโมสรทุกสโมสรมีความจำเป็นที่จะต้องเจรจาลดค่าใช้จ่ายค่าตอบแทน บุคลากรทางกีฬาลงครึ่งหนึ่ง หากในอนาคตเกิดกรณีข้อพิพาทระหว่างสโมสรกับบุคลากรกีฬา นั่นหมายความว่า สโมสรได้พยายามที่จะเจรจาให้สอดคล้องกับนโยบายของฟีฟ่าแล้ว

เรื่องที่ 3 คือ จากผลกระทบจากโควิด-19 เป็นที่มาของการปรับปรุงโครงสร้างการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกใหม่ ให้เหมือนกับในลีกประเทศยุโรป คือ การแข่งขันในฤดูกาล 2021 จะเปิดฤดูกาลในช่วงเดือนกันยายน และปิดฤดูกาลในช่วงเดือน พฤษภาคม ถือว่าไทยลีกได้ใช้วิกฤตโควิด-19 ปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขันใหม่ ทำให้การแข่งขันฟุตบอลลีกของไทยไม่ไปทับกับฤดูฝน รวมถึงการเปิดตลาดซื้อขายนักเตะจะตรงกับลีกชั้นนำของโลกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาการแข่งขันในช่วงฤดูฝนนั้นส่งผลกระทบต่อการแข่งขันมาโดยตลอด ทั้งสภาพสนาม อาการบาดเจ็บของนักกีฬาที่แข่งกันในฤดูฝนอันเกิดจากสภาพสนามไม่ดี ภูมิอากาศเป็นอุปสรรคต่อแฟนบอลที่จะเข้าไปชมการแข่งขันในสนาม เป็นเหตุให้จำนวนผู้เข้าชมน้อยลง

“ในส่วนของเงินสนับสนุนจากทรูวิชั่นส์ที่จะต้องจ่ายเดือนกรกฎาคม ตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เนื่องจากยังไม่ได้กลับมาแข่งขัน วันนี้เราได้มีการพูดคุยกัน ทางด้านท่านรัฐมนตรีฯ ก็ได้ส่งนายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้ามารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของทีมสโมสรในไทยลีก เกี่ยวกับเรื่องสภาพทางการเงิน ท่านก็รับฟังปัญหาและท่านเองจะไปดำเนินการหาช่องทางเยียวยา โดยการร้องขอเงินสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือแนวทางการนำเงินจากกองทุนกีฬาอาชีพ เพื่อแก้ปัญหาและเยียวยาให้กับสโมสร เพราะท่านทราบดีว่า ทุกสโมสรมีปัญหาเรื่องการเงิน” นายกสมาคมฟุตบอลฯกล่าว

ส่วนเรื่องผู้สนับสนุนนั้น พล.ต.อ.สมยศ บอกว่า ทั้งสมาคมฯและสโมสรคงได้รับผลกระทบกันทั้งหมด ซึ่งคงต้องมีการเจรจากัน เพื่อให้วงการฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปได้