ถอดรหัส “อตาลันต้า” ทีมรุ่งโรจน์แห่งอิตาลีในยุคโควิด

ทีมฟุตบอล อตาลันต้า ในอิตาลี
Photo by Handout / GETTY/UEFA / AFP
 อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ความทรงจำส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ในหมู่ชาวอิตาเลียนถูกผูกโยงเข้ากับเกมฟุตบอลถ้วยยุโรประหว่างอตาลันต้ากับบาเลนเซีย จากสเปน ที่แข่งกันในเมืองมิลาน เกมนี้ถูกแพทย์เรียกว่า “ระเบิดชีวภาพ” และเชื่อกันว่า คือจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดทั่วประเทศ แต่ในทางการกีฬา สโมสรจากเมืองแบร์กาโม คืออีกหนึ่งปรากฏการณ์ของลูกหนังยุโรปในรอบ 2 ฤดูกาลมานี้ และกล่าวได้ว่า ผลงานเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก คือจุดพีกที่สุดในรอบทศวรรษของสโมสรแห่งนี้

แบร์กาโม เป็นเมืองท้องถิ่นขนาดเล็กและเป็นฐานที่ตั้งของสโมสรท้องถิ่นอย่างอตาลันต้า ทีมนี้ไม่ต่างจากสโมสรระดับท้องถิ่นซึ่งโลดแล่นในลีกระดับประเทศ พวกเขาดิ้นรนต่อสู้เพื่อยกระดับตัวเองไปสู่ตำแหน่งที่ดีกว่า พวกเขาสมหวังและผิดหวัง อตาลันต้า ตกชั้น 3 ครั้งในรอบ 2 ทศวรรษหลังและเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาจากเซเรีย บี กระทั่งปี 2016 จาน ปิเอโร กาสเปรินี เข้ามาคุมทีม

อันที่จริงแล้ว กาสเปรินี กุนซือชาวอิตาเลียนวัย 62 ปีไม่ได้ถึงกับเป็นมือระดับพระกาฬในแวดวงลูกหนังอิตาลี สถิติรับงานคุมทีมระดับอินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2011 และถูกปลดอย่างรวดเร็วหลังผ่านไปแค่ 5 เกมน่าจะเป็นภาพจำติดหัวแฟนบอลไปแล้ว อย่างไรก็ตาม กาสเปรินี กลับมาเฉิดฉายกับสโมสรระดับท้องถิ่นนับตั้งแต่เข้ามาทำงานกับอตาลันต้า เมื่อปี 2016

Photo by Sergei SUPINSKY / AFP

ฤดูกาลแรกที่ทำงานกับอตาลันต้า ดูเหมือนสโมสรนี้คือทีมที่ถูกชะตากับเขามากทีเดียว ฤดูกาลนั้นทีมจบอันดับที่ 4 ในตาราง จากนั้นยังพาทีมผ่านเข้ารอบไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในฤดูกาล 2018-19 ฤดูกาลเดียวกันก็เข้าชิงโคปปา อิตาเลีย แม้ว่าจะพลาดชูแชมป์ ผลงานเหล่านี้พอจะทำให้สโมสรท้องถิ่นจากเมืองเล็กในแคว้นลอมบาร์เดีย กลายเป็นทีมซึ่งถูกจับตาในยุโรป

ฤดูกาล 2019-20 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และแมตช์ประวัติศาสตร์ที่พวกเขาเอาชนะบาเลนเซีย จากสเปน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลักไมล์สำคัญครั้งนี้อาจถูกเบียดบังจากข้อเท็จจริงที่ว่า หลังจากเกมนั้นเพียงวันเดียว อิตาลีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใกล้กับมิลาน เมืองที่ห่างจากแบร์กาโม ราว 15 ไมล์ วันต่อมามีข่าวยืนยันผู้ติดเชื้อในพื้นที่ห่างจากแบร์กาโมไม่กี่นาที และปลายเดือนกุมภาพันธ์ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแบร์กาโม ก็ขยายวงจนต้องปิดเมือง

น่าเสียดายมากที่อตาลันต้า ไม่ได้รับคำชื่นชมและความสนใจในแง่เชิงธุรกิจเทียบเท่ากับในสถานการณ์ปกติหากเทียบกับผลงานขนาดนี้ ฤดูกาล 2019-20 ไม่เพียงแค่ผลงานในสนามซึ่งพวกเขาเกือบเอาชนะปารีส แซงต์แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีจากลีกเอิง ฝรั่งเศส ในฟุตบอลถ้วยยุโรปรายการใหญ่ กระทั่งมาเสียท่าท้ายเกม มีสถิติที่น่าสนใจอีกมากมายเกี่ยวกับทีมชุดนี้ ถึงยูเวนตุสจะคว้าแชมป์เซเรีย อา อีกตามเคย ทีมที่ยิงประตูได้เยอะที่สุดในลีกกลับเป็นอตาลันต้า

พวกเขายิงได้ 98 ประตู ในลีกยุโรป 5 ลีกท็อป อตาลันต้า รั้งอันดับ 4 ในตารางยิงประตูได้มากที่สุด พวกเขายิงได้มากกว่าบาร์เซโลนา จากสเปนที่ทำสกอร์ในลีก 86 ประตู

กูรูลูกหนังและนักวิจารณ์กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า อตาลันต้า เป็นอีกหนึ่งทีมซึ่งมีแท็กติกการเล่นซับซ้อนอีกทีมในยุโรป คำว่า “ซับซ้อน” ไม่ได้หมายความว่าเขาเล่นกันแบบยากเย็น แต่ถ้าอธิบายโดยย่อและเข้าใจง่าย ทีมของกาสเปรินี (ภายใต้ทรัพยากรจำกัด) มีรูปแบบการเล่นเป็นโครงสร้างที่ชัดเจน เล่นไม่น่าเบื่อ ในขณะเดียวกัน โครงสร้างที่ชัดเจนก็สามารถปรับ ยืดหยุ่น และด้นสดได้หลากหลาย จุดเด่นเหล่านี้คือสิ่งที่กูรูมองว่า ทำให้อตาลันต้า ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

อีกหนึ่งแก่นที่ทำให้อตาลันต้า สามารถพิสูจน์ตัวเองและจบฤดูกาลโดยติด 4 อันดับแรกของตาราง 3 ครั้งในรอบ 4 ฤดูกาลหลังสุดคือ การตั้งแก่นความเชื่อหลักในทีมด้วยการมองว่า พวกเขาต้องการทำทุกสิ่งให้สุดลิมิตเหนือคู่แข่ง ยิงให้ขาดลอย ทำงานให้หนักกว่าคู่แข่ง และด้วยระบบเชิงปฏิบัติที่เหมาะสม แนวคิดนี้พิสูจน์ว่ามันช่วยยกระดับทีมที่มีส่วนประกอบเป็นผู้เล่นระดับกลางให้กลายเป็นทีมที่เล่นกันได้เกินความคาดหมาย

อตาลันต้า เป็นอีกหนึ่งคลื่นลูกใหม่ที่มาโต้กระแสสโมสรในยุคนายทุนซึ่งมักใช้งบประมาณมหาศาลสร้างทีมเพื่อไปสู่ความสำเร็จ แต่หลังจากมหาเศรษฐีเริ่มจับจองสโมสรใหญ่ ๆ กันไปแล้ว ทีมระดับกลางลงไปก็เริ่มต้องหาโมเดลที่จะใช้สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมามีพื้นที่ให้ยืนในวงจรลูกหนัง อตาลันต้า คือตัวอย่างที่ย้ำข้อพิสูจน์เช่นเดียวกับหลายสโมสรระดับกลางที่เริ่มตีคู่ขึ้นมากับสโมสรใหญ่ได้ อตาลันต้า สร้างตัวขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง สร้างสนามเหย้าของตัวเองโดยซื้อจากฝ่ายทางการท้องถิ่นและปรับปรุงโครงสร้างอัฒจันทร์เอง

สโมสรจากเมืองแบร์กาโมแห่งนี้ ดูแล้วก่อร่างขึ้นมาจากบุคคลที่ล้มเหลวมาก่อนอย่างกาสเปรินี ที่มาพิสูจน์ตัวเองจนได้ ก่อร่างขึ้นจากนักเตะฝีเท้าระดับกลางจนถึงแข้งชั้นดี เมื่อผสมกันเข้ากับโมเดลและแท็กติกที่เหมาะเจาะ ทีมฟุตบอลที่ธรรมดาทั่วไปก็มีศักยภาพเพียงพอ แม้แต่อุปสรรคใหญ่อย่างโควิด-19 ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการก้าวทะยานของพวกเขาได้