ชาลเก้ 04 ตกชั้นในรอบ 30 ปี เกิดอะไรกับทีมเก่าแก่ในเยอรมนี

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ฟุตบอลยุคนี้คาดเดาได้ยาก และมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้เห็นมากกว่าเดิม หลายปีก่อน เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างปรากฏการณ์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ทั้งที่ไม่กี่ปีก่อนหน้านั้นเพิ่งรอดหนีตกชั้นมาได้ ในทางกลับกันโอกาสที่จะได้เห็นทีมใหญ่และมีชื่อเสียงแถวหน้าของยุโรปพลาดท่าตกชั้นย่อมเป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งปีนี้ ชาลเก้ 04 อีกหนึ่งทีมเก่าแก่ในเยอรมนีก็ทำให้แฟนบอลทั่วโลกช็อกกับการตกชั้นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

ชาลเก้ 04 ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาอาจไม่ได้สัมผัสความสำเร็จเหมือนเคย แต่แฟนบอลทั่วโลกทราบกันดีว่า ชาลเก้ 04 มีประวัติศาสตร์ยาวนานไม่แพ้ทีมแถวหน้าของยุโรป และเคยโลดโผนติดลมบนในเวทียุโรปอยู่หลายปี

อย่างไรก็ตาม ในรอบ 3 ปีหลังมานี้ กราฟผลงานของชาลเก้ 04 อยู่ในสภาพดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจนมาถึงจุดตกต่ำเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำคะแนนหนีโซนตกชั้นได้ สภาพหลังผ่าน 30 นัด พวกเขาชนะแค่ 2 เกม มีเพียง 13 คะแนน รั้งอันดับท้ายสุดของตาราง โดยที่ทั้งฤดูกาลชนะเพียงแค่ 2 เกมแฟนบอลที่ไม่ได้ติดตามลีกบุนเดสลีกาอย่างเหนียวแน่น เมื่อเห็นชะตากรรมของพวกเขาเป็นข่าวใหญ่ย่อมคิดว่าเป็นเรื่องเกินคาด

ฝันร้ายที่สโมสรฟุตบอลส่วนใหญ่ในยุโรปหวาดกลัวกันมากที่สุดหนีไม่พ้นสภาพตกชั้น ไม่เพียงแต่สูญเสียทางการเงิน และสูญเสียโอกาสไขว่คว้าความสำเร็จในระดับท็อป การตกชั้นมีความเสี่ยงแฝงอีกมากมาย อย่างไรก็ตามหลายทีมฟื้นตัวกลับมาได้

สำหรับทีมระดับกลางจนถึงเล็กที่ตกชั้นไปก็ไม่สามารถแก้ไขวิกฤตได้และจมดิ่งสู่ลีกระดับล่างอีก สำหรับชาลเก้แล้วแค่ยังไม่ได้เริ่มฤดูกาลใหม่ แฟนบอลก็ก่อม็อบ รวมตัวกันหน้าสนาม มีรายงานว่า สตาฟในทีมถูกทำร้าย ผู้เล่นในทีมถูกคุกคาม

ไม่กี่ปีก่อน ในฤดูกาล 2017-2018 ชาลเก้ 04 ยังเป็นทีมแกร่งอันดับต้น ๆ ของลีกเยอรมนี พวกเขาจบอันดับ 2 ของตาราง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ทีมระดับชาลเก้ก็มักวนเวียนอยู่ระหว่างตำแหน่งหัวตารางกับกลางตารางอยู่แล้ว แต่หลายปีหลังมานี้ พวกเขาต้องรับมือปัญหาทางการเงิน ด้วยหนี้สินไม่ต่ำกว่า 200 ล้านยูโร ยิ่งเมื่อเผชิญวิกฤตโรคระบาดในทั่วโลกยิ่งซ้ำเติมปัญหาเดิมเข้าไปอีก

ย้อนไปเมื่อปี 2016 ชาลเก้ 04 ประกาศแต่งตั้ง คริสเตียน ไฮเดล เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของสโมสร ไฮเดลมีเครดิตจากการปลุกปั้น เยอร์เก้น คล็อปป์ และ โธมัส ทูเคิล สองอดีตกุนซือไมน์ซ 05 ซึ่งแจ้งเกิดจนได้ดิบได้ดีในภายหลัง ภายใต้โครงการของไฮเดล ชาลเก้ 04 ไม่ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งเป้า พวกเขาจบอันดับ 10 ของตาราง

เมื่อแก้ปัญหามาใช้ โดเมนิโก้ โทเดสโก้ คุมทีมในฤดูกาล 2017-2018 ชาลเก้ 04 ถึงผลงานกระเตื้องขึ้นบ้าง จบอันดับ 2 ในลีก แต่เมื่อตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มยับเยินในฤดูกาล 2018-2019 ก็โดนปลดออก ฤดูกาล 2018-2019 นี้เองที่ชาลเก้ 04 เริ่มแสดงสัญญาณเป๋แบบต่อเนื่อง และในรอบ 15 เดือนหลังสุดก็ใช้กุนซือไปถึง 5 ราย แต่ก็ไม่รอดตกชั้นในฤดูกาล 2020-2021

ในบทวิเคราะห์จากสื่อหลายแห่งล้วนมองว่าผลงานในสนามเป็นผลกระทบแบบลูกโซ่ สืบเนื่องมาจากปัญหาเรื่องการบริหารงานหลังฉากของฝ่ายการกีฬาของสโมสรชาลเก้ 04 ขายนักเตะฝีเท้าดีหลายรายได้เงินทุนมาพัฒนาทีมหลายร้อยล้านยูโรในรอบทศวรรษหลัง

ปัญหาสำคัญคือ พวกเขาล้มเหลวในการนำเงินที่ได้ไปซื้อนักเตะที่ฝีเท้าดีกว่าหรือเทียบเท่ากลุ่มเดิมแล้วนำมาพัฒนาต่อยอดอีก ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ปัญหาทางการเงินส่งผลต่อการลงทุนด้วย

เมื่อคุณภาพนักเตะที่ได้มาไม่สามารถอุดช่องว่างที่หายไปได้ การลงทุนเพื่อพัฒนาทีมในระยะสั้นก็แก้ปัญหาไม่ตรงจุด สโมสรทุ่มเงินยกระดับศูนย์ฝึกของทีม ผลงานในสนามของพวกเขาก็เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ในปี 2019 สถานะทางการเงินของสโมสรมีหนี้หลักร้อยล้านยูโร

ที่จริงแล้ว ชาลเก้ 04 ดูจะมีความหวังเมื่อเดวิด วากเนอร์ เข้ามารับงานเมื่อกลางปี 2019 และเคยพาทีมขึ้นหัวตารางได้ แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด เพดานต่าง ๆ เริ่มบีบคั้นชาลเก้ 04 ผลงานเริ่มตก หนี้สินส่งผลกระทบทำให้ทีมไม่มีทุนไปพัฒนากอบกู้ผลงานในสนามกลับคืนมา ได้แต่ยืมตัวผู้เล่นเข้ามาหวังยกระดับทีม

แม้แต่กุนซือดาวโรจน์อย่างวากเนอร์ก็ล้มเหลว กุนซือรายต่อมาล้วนจมอยู่กับสถิติอันย่ำแย่ กุนซือรายล่าสุดเพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนมีนาคมก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว ชาลเก้จมอยู่ท้ายตาราง รอนับถอยหลังสู่วันประกาศตกชั้นอย่างเป็นทางการ

และวันนั้นก็มาถึงจริง ๆ สภาพของทีมใหญ่อันเก่าแก่และเคยรุ่งเรืองระดับทวีป ดูมืดมนท่ามกลางโลกที่แตกร้าวจากสถานการณ์โรคระบาด ปัญหาทางการเงิน ความไม่แน่นอนในโครงสร้างการบริหาร ชาลเก้ 04 ยังคงต้องดิ้นรนกันอย่างยากลำบากต่อไปในฤดูกาลที่จะถึงนี้ แฟนบอลได้แต่ลุ้นเอาใจช่วยว่าชาลเก้ 04 จะสร้างปาฏิหาริย์กลับคืนลีกสูงสุดในเร็ว ๆ นี้