ความท้าทาย “เอซี มิลาน” เมื่อต้นทุนค้ำคอ กุนซือกดดันทุกคน

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ฟุตบอลยุคทุนนิยมเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย แต่ในเวลาเดียวกันก็โหดร้ายสำหรับบุคลากรในวงการลูกหนัง ลีกสูงสุดของอังกฤษผ่านไปไม่ถึงครึ่งทาง มีกุนซือที่ถูกปลดแล้ว

5 ราย ขณะที่ลีกอื่นก็ไม่ใช่ย่อย ปลดกุนซือกันเป็นว่าเล่น และกุนซือทีมใหญ่ที่มีชื่อเป็นรายล่าสุดคือ วินเซนโซ่ มอนเตลล่า ซึ่งถูก “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน แห่งศึกเซเรีย อา อิตาลี ปลดออกจากตำแหน่ง

มอนเตลล่า เป็นกุนซือรายที่ 6 ในเซเรีย อา อิตาลี ซึ่งถูกปลดในฤดูกาล 2017-2018 มอนเตลล่าเพิ่งเข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2016 ด้วยสัญญา 2 ปี แม้พาทีมเอซี มิลาน ที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูทีมจากวิกฤตหลังวนลูปช่วงตกต่ำทั้งผลงานในและนอกสนาม

ทีมเพิ่งกลับมาสัมผัสถ้วยแชมป์ครั้งแรกในรอบ 6 ปี ด้วยแชมป์ซูเปอร์โคปา พาเอซี มิลานจบอันดับ 6 ได้ตั๋วไปเล่นถ้วยยูโรป้า ลีก ถือเป็นครั้งแรกที่ปีศาจแดงดำได้เล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปนับตั้งแต่ปี 2014 แต่หลังเริ่มฤดูกาลที่ 2 มอนเตลล่าไม่สามารถพาทีมทำผลงานได้คุ้มค่ากับต้นทุนที่ทีมลงทุนมหาศาล

ประเด็นสำคัญคือ การเปลี่ยนผ่านทีมเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลี่ หย่งหง มหาเศรษฐีจีนที่ร่ำรวยจากการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอีกหลายแขนงเข้ามาเทกโอเวอร์เอซี มิลาน ด้วยเม็ดเงินมหาศาลกว่า 740 ล้านยูโร

ในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิด ทัพ “รอซโซเนรี่” ทุ่มงบฯมากกว่า 200 ล้านยูโร ซื้อนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีม 10 ราย ในรายชื่อนักเตะใหม่มีแข้งเวิลด์คลาสอย่าง ลีโอนาร์โด โบนุชชี่ กองหลังอิตาเลียนตัวแกร่งของ ยูเวนตุส และลูคัส บิเกลีย มิดฟิลด์อาร์เจนไตน์จากลาซิโอ

แต่หลังเกมลีกผ่านไป 14 นัด เอซี มิลาน ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ถึง 6 เกม รั้งอันดับ 7 ในตาราง โดย 9 นัดหลังสุด ปีศาจแดงดำแห่งยุโรปชนะแค่ 2 นัดเท่านั้น มอนเตลล่าจึงเป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงรายล่าสุดที่ถูกสังเวยหลังผลงานไม่เข้าตา

สิ่งที่ทำให้มอนเตลล่าหลุดจากตำแหน่งไม่ใช่แค่ผลงานในสนามเท่านั้น แต่เป็นเม็ดเงินที่กดดันบุคลากรและยังเป็นตัวชี้วัดผลงานปัจจัยสำคัญ “ตัวเลขและอันดับในตารางไม่เคยหลอกใคร” คือคำอธิบายที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

เมื่อมอนเตลล่าได้รับต้นทุนที่มีมูลค่าแตะหลัก 200 ล้านยูโร แต่ผลงานที่ออกมาด้วยสถิติแพ้ 6 นัดจาก 14 นัดแรกในลีกฤดูกาล 2017-2018 อดีตหัวหอกโรม่าจึงไม่รอดพ้นจากการลงดาบจากสโมสรทั้งที่ยังไม่ผ่านครึ่งฤดูกาลด้วยซ้ำ

ถ้าประเมินจากมุมมองด้านฟุตบอลทั่วไป ผลงานของมอนเตลล่าตั้งแต่กลางปีก่อนถึงช่วงต้นฤดูกาลล่าสุดไม่ถึงขั้นขี้เหร่เลย แต่ทันทีที่ทีมใช้เงินลงทุนเพื่อหวังผลฟื้นฟูทีมมหาอำนาจลูกหนังเจ้าของแชมป์ยุโรป 7 สมัยให้กลับมารุ่งเรืองดังเดิมโดยเร็ว เกณฑ์การประเมินจึงเปลี่ยนไป

เอซี มิลาน ต้องการติด 4 อันดับแรกของตารางเพื่อไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รายการชิงถ้วยสโมสรยุโรปรายการใหญ่ ซึ่งจะช่วยด้านการเงินของทีมให้มีสภาพคล่องมากขึ้น และจะส่งผลให้การเงินของทีมเข้ากับเกณฑ์แฟร์เพลย์

ทางการเงินที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า กำหนดเป็นระเบียบ บังคับให้สโมสรที่จะร่วมแข่งรายการที่ยูฟ่าจัด ต้องมีตัวเลขค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด

สถานการณ์ชนะ 2 นัดใน 9 นัดหลังสุด และฟอร์มที่ย่ำแย่ รูปทรงเกมของทีมที่มีนักเตะดังคับคั่งไม่สามารถต่อกันไหลลื่น สำหรับทีมอื่นเมื่อหลายปีก่อนอาจยังพอมีเวลารอจุดเปลี่ยนหรือจุดเร่งเครื่องมากกว่านี้ แต่ในเมื่อทีมที่มาพร้อมกับแบรนด์มีชื่อ เม็ดเงินลงทุนมหาศาล และความคาดหวังของคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสร กุนซือทุกวันนี้จึงมีระดับการประเมินผลงานที่เข้มข้นขึ้น กระชั้นขึ้น ที่สำคัญคือไม่มีไว้หน้าผลงานดีแม้ว่าจะเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนก็ตาม

การตัดสินใจเลือก เจนนาโร กัตตูโซ่ อดีตมิดฟิลด์พันธุ์เดือดซึ่งเริ่มหันมาทำงานกุนซือมาสักพักยังเป็นทางเลือกที่ถูกตั้งคำถามอยู่ ถึงกัตตูโซ่ วัย 39 ปีจะเป็นขวัญใจแฟนบอลปีศาจแดงดำมาตลอด เขาคุ้นเคยกับบรรยากาศและสภาพนักเตะเป็นอย่างดี แถมขึ้นชื่อเรื่องความมุ่งมั่นตั้งแต่สมัยเติบโตกับสโมสรเอซี มิลาน แต่ประสบการณ์การคุมทีมในลีกระดับท็อปยังแทบไม่มี งานโค้ชล่าสุดหลังคุมสโมสร 4 แห่งก็เพิ่งมาคุมทีมเอซี มิลาน ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปีไม่กี่เดือน

ความท้าทายครั้งนี้แทบจะถือเป็นเดิมพันครั้งใหญ่อีกครั้งของเอซี มิลาน ก่อนหน้านี้มิลานตกเป็นข่าวสนใจอันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออิตาเลียนที่ประสบความสำเร็จกับยูเวนตุส ทีมชาติอิตาลีและเชลซี ถ้ากัตตูโซ่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองในลีกและบอลถ้วยยุโรปอย่างรวดเร็วเพียงพอ โอกาสที่เก้าอี้กระเด็นก็มีมากเช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้น คอนเต้อาจกลับมาเป็นทางเลือกหลักของปีศาจแดงดำอีกครั้ง