สื่อกีฬาแดนผู้ดีพากันนำเสนอบทวิเคราะห์อนาคตของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ เอริก เทน ฮาก ชาวดัตช์ ว่าจะมีโอกาสฟื้นคืนได้หรือไม่
หลังทีมแพ้ย่อยยับให้กับลิเวอร์พูล ในสองแมตช์ของฤดูกาลนี้ที่ “แดงไม่เดือด” ติดกัน รวมสกอร์ไปกลับ 9-0 ราล์ฟ รังนิก รักษาการผู้จัดการทีมชาวดอยตช์ (เยอรมัน) กล่าวชัดๆ ไปถึงเจ้าของและผู้บริหารสโมสร ว่า “ถ้าคุณวิเคราะห์สถานการณ์ มันมองได้ไม่ยากเลย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
เอียน เฮอร์เบิร์ต แห่ง เดลีเมล์ วิเคราะห์สถานการณ์ทีมปีศาจแดง เผยแพร่วันที่ 22 เม.ย.2565 ว่า หากผู้จัดการทีมคนใหม่ อย่าง เทน ฮาก ได้รับความช่วยเหลือจาก รังนิก ที่ควรได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฟุตบอล ทั้งสองมีโอกาสจะยกทีมให้พ้นจากความตาย และกลายเป็นดรีมทีมได้
เคยคุมทีมจมปลักกับความยิ่งใหญ่
ตอนที่เทน ฮาก เข้าไปรับหน้าที่คุมทีมอาแจ๊กซ์ ฤดูกาล 2017 สถานการณ์ที่คล้ายๆ กันคือการทำงานให้สโมสรที่ยิ่งใหญ่แต่แล้วก็โดนความยิ่งใหญ่นั้นบดบังจนหาทางไปไม่ถูกเสียเอง
ตอนนั้น เทน ฮาก ผ่าตัดทีมใหม่โดยไม่ใช้ระบบ 4-3-3 แบบที่ทีมยึดมั่นศรัทธามาตั้งแต่ยุคโยฮัน ครัฟฟ์ พร้อมกับทำงานเป็นหุ้นส่วนกับผู้อำนวยการฟุตบอลของทีม คือ มาร์ก โอเวอร์มาร์ส์ พลิกฟื้นให้ทีมคว้าแชมป์ลีกของดัตช์ และทะลุเข้ารอบตัดเชือก รายการแชมเปียนลีกส์ ได้
ดังนั้นเมื่อมาอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เทน ฮาก ก็ต้องการผู้อำนวยการฟุตบอลที่มีวิสัยทัศน์ว่า ยูไนเต็ดต้องการหลักปรัชญาและความมุ่งหมายสำหรับการดึงดูดนักเตะที่มีทักษะและมีแรงบันดาลใจพอที่จะถ่ายทอดสิ่งนี้ให้เห็น
แต่เขาจะต้องพบกับผู้บริหารมากมายของสโมสรที่ต้องปรับตัว ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วก็อาจไม่ยอม
แม้สโมสรมี จอห์น เมอร์ทัฟ ผู้อำนวยการฟุตบอล ซึ่งในไม่ช้าจะได้รับตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอล (ซึ่งจะเน้นเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา) และ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ที่เป็นผู้จัดการด้านเทคนิค
แต่ทีมงานเหล่านี้กลับมองไม่เห็นข้อเท็จจริงว่า แมนฯยู ไนเต็ดถูกล็อกอยู่ในอดีต มองไม่เห็นผู้เล่นที่ทีมลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ซิตี้ นิวคาสเซิล และทีมอื่นๆ มองเห็น
ปัญหาอยู่ที่คนไม่ยอมปรับตัว
ราล์ฟ รังนิก เองเคยสะท้อนปัญหาของยูไนเต็ด ว่ามาจากความคิดที่ว่า “เรารู้ทั้งหมดนั่นแหละ” ทั้งๆ ที่จริงแล้วไม่ได้รู้อะไรเลย
ทัศนคติของนักเตะที่มีต่อเขาและอาการไม่เต็มใจปรับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลง ทำให้รังนิกประหลาดใจมาก อีกทั้งคนที่รังนิกดึงมาร่วมงานด้วย ก็ไม่ได้รับการเคารพนับถือ ขณะที่เขายึดติดกับรายละเอียดที่ต้องอาศัยเวลาในการวิเคราะห์
กรณีเฟลตเชอร์ บางครั้งแสดงความเห็นว่า ยูไนเต็ดควรจะเล่นอย่างโน้นอย่างนี้ จึงทำให้ผิดใจกับรังนิก
ผู้จัดการชาวเยอรมันอาจรู้สึกว่าต้องมานั่งถามแล้วว่าตกลงได้คุมทีมแล้วหรือไม่ เพราะอย่างกรณีที่เขาอยากได้ เดนิส ซาคาเรีย มิดฟิลด์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์มาร่วมทีม ฝ่ายผู้บริหารของปีศาจแดงกลับไม่พิจารณา จนสุดท้ายนักเตะรายนี้ย้ายจากโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบักไปอยู่ยูเวนตุส
ความเชื่อด้านบวกของรังนิก ว่าอาจจะเปลี่ยนทีมยูไนเต็ดได้ในชั่วข้ามคืน จากการเล่นเคาน์เตอร์-แอตแท็ก ไปเป็นการบุกกดดันให้สูง กลับไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดงควรแต่งตั้งให้รังนิกทำงานกับเทน ฮาก ในตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล ผู้จัดการทั่วไป หรือตำแหน่งอื่น
จริงๆ รังนิกจะดึงนักเตะยุโรปที่เล่นดีกว่านักเตะชุดปัจจุบันก็ได้ แต่เขาต้องการฝังข้อความให้ชัดว่า ยูไนเต็ดไม่อยู่ในจุดที่ใกล้ความเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างที่อยากจะเป็นเลย นี่คือจุดที่เขาจะเป็นมันสมองให้ เทน ฮากได้ และเทน ฮากต้องการอย่างยิ่งเพื่อเผชิญความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดโลกฟุตบอล
สำหรับ โจเอล เกลเซอร์ เจ้าของสโมสร ชอบแต่ว่ามีนักเตะดาวดวงใหม่เข้ามาเสริมทีม ดูหวือหวา แล้วก็ตั้งกฎการเซ็นสัญญาไปเรื่อยๆ
ดังนั้นความพยายามที่สะสมมาของเทน ฮาก และรังนิก จะประสบความสำเร็จได้ หากชักจูงให้สโมสรเลิกถลำไปกับวิธีไร้ความหวังแบบนั้น ไม่เช่นนั้นยูไนเต็ดก็ต้องจมอยู่กับทศวรรษแห่งสถานการณ์ที่เลวร้ายต่อไป
โละนักเตะได้เกือบหมด-ชูหงส์ตัวอย่าง
ด้าน สกายนิวส์ รายงานว่า หากพิจารณาคำให้สัมภาษณ์ของรังนิกที่สื่อไปถึงผู้บริหารสโมสร หลังเกมพ่ายลิเวอร์พูลอย่างหมดรูป ว่า “ถ้าคุณวิเคราะห์สถานการณ์ มันมองได้ไม่ยากเลย” สโมสรมาถึงจุดที่ต้องสร้างทีมขึ้นใหม่ “นั่นคือต้องเปลี่ยนนักเตะ 6, 7, 8, หรืออาจจะ 10 คน”
เทน ฮากจะเป็นผู้จัดการทีมถาวรคนที่ 5 ที่ยูไนเต็ดแต่งตั้งนับจากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เกษียณจากตำแหน่งนี้ในปี 2013 งานแรกน่าจะเป็นการเปลี่ยนนักเตะแบบยกเครื่อง
ช่วงที่ผู้จัดการทีม 5 คนเปลี่ยนเข้ามาคุมแมนยู ทำให้นักเตะที่ดึงเข้ามาเซ็นสัญญาร่วมทีม 21 คน มีลักษณะสะเปะสะปะ ไม่มีสไตล์ นักเตะที่เข้ามาใหม่ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขก่อนว่า “ตกลงเราจะเล่นกันอย่างไร”
นั่นเป็นคำตอบว่า ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ดไม่ชนะถ้วยใดได้เลย นับจากคว้าแชมป์ยูโรปา ฤดูกาล 2017 ส่วนพรีเมียร์ลีกได้แชมป์ครั้งสุดท้ายในยุคเซอร์อเล็กซ์ ฤดูกาล 2012/13 ทั้งที่ช่วงสิบปีมานี้ ทุ่มเงินดึงนักเตะไปแล้ว 1,400 ล้านปอนด์ หรือเกิน 6 หมื่นล้านบาท
รังนิกให้สัมภาษณ์เปรียบเทียบกับทีมลิเวอร์พูล อย่างเห็นภาพว่า “ถ้าคุณดูโพรไฟล์นักเตะแต่ละตำแหน่ง มันชัดเจนมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงอยู่ในจุดนั้นได้”
รูนีย์แนะแฟนผีแดงต้องอดทนรอ
ด้านเวย์น รูนีย์ อดีตศูนย์หน้าของทีมในยุคเซอร์อเล็กซ์ กล่าวถึงการที่แมนฯยู ตั้งเทน ฮาก ว่า “นี่เป็นงานใหญ่มาก ผมคิดว่าดีนะที่เขาตั้งผู้จัดการทีม ให้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้เวลาผู้จัดการทีม ผมมั่นใจว่าพวกเขา (ผู้บริหารสโมสร) จะปล่อยให้เขาสร้างทีมนักเตะขึ้นมาใหม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเกิดขึ้น”
“ผมคิดว่าแฟนๆ ต้องอดทนจนกว่าจะเห็นความก้าวหน้า ส่วนนักเตะต้องเล่นให้สมกับเสื้อสโมสรที่ใส่ ด้วยความหวังว่าจะต่อสู้ให้ได้แชมป์ในอีกสามฤดูกาลข้างหน้าถ้าเป็นไปได้” รูนีย์กล่าว
ช่วงที่โอเล กุนนาร์ โซลชา เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ที่เริ่มมีการพูดถึง รีเซ็ต ตอนนั้นมีนักเตะที่เข้ามาอย่าง แดเนียล เจมส์ (£16ล้าน), อารอน วาน-บิสซากา (£49.5ล้าน), แฮร์รี แม็กไกวร์ (£78.3ล้าน), อเล็กซ์ เตเลส (£13.5ล้าน), ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ก (£35.10ล้าน), เอดิสัน คาวานี และ บรูโน แฟร์นันเดส (£49.5ล้าน)
ในจำนวนนี้มีรายสุดท้ายเท่านั้นที่จะไปต่อ จากการที่เพิ่งเซ็นสัญญาต่อไปถึงเดือนมิ.ย. 2026 ส่วนปอล ป็อกบา, เจสซี ลินการ์ด, เนมันยา มาติช และฮวน มาตา จะไปในฤดูร้อนนี้ ในขณะที่ฟาน เดอ เบ็ก น่าจะได้กลับมาร่วมทีมกับเทน ฮาก
อีกคนที่จะได้กลับมาแมนยู ไม่ใช่นักเตะ แต่เป็น สตีฟ แมคคลาเรน อดีตผู้ช่วยของเซอร์อเล็กซ์ เมื่อฤดูกาล 1999 และ 2001 เพราะเทน ฮาก เคยทำงานเป็นผู้ช่วยแมคคลาเรน กับทีมทเวนเต ของลีกดัตช์ เมื่อปี 2008
“เดอะ ไทมส์” รายงานอ้างแหล่งข่าวในสโมสรว่า เทน ฮาก จะได้งบเสริมทัพในซัมเมอร์นี้จำนวน 120 ล้านปอนด์ และหากขายผู้เล่นเดิมในทีมออกไปได้ ก็จะได้งบประมาณจะเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่า เทน ฮาก เล็งเซ็นสัญญากับนักเตะของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้นสังกัดปัจจุบันของเขาหลายราย ทั้ง แอนโธนี แนวรุกทีมชาติบราซิล, ลิซานโด มาร์ติเนซ กองหลังทีมชาติ อาร์เจนตินา รวมถึง มัตไธส์ เดอ ลิกต์ ปราการหลัง ยูเวนตุส ที่เคยค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ ด้วย
ต้องผ่าตัดเปิดหัวใจ ไม่ใช่แค่แตะๆ
ล่าสุด รังนิกกล่าวแนะนำ เทน ฮาก ว่าการเข้ามาผ่าตัดทีมปีศาจแดงครั้งนี้ ต้องทำแบบ ผ่าตัดเปิดหัวใจ ไม่ใช่แค่ไปแก้ไขสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
“เราต้องการพลังบวกสำหรับทีมใหม่และผู้จัดการทีมคนใหม่ ถ้าเขาเข้าใจ และบทเรียนที่ถูกต้องต่างๆ ได้รับการเรียนรู้ นี่จะเป็นหนึ่งในสิ่งดีๆ ของฤดูกาลที่เรากำลังฝ่าฟัน อย่างน้อยคุณรู้แล้วว่าต้องขันนอตจุดไหน อะไรบ้างที่ต้องเปลี่ยนแปลง” รังนิกกล่าวและว่า
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคุณภาพของผู้จัดการทีม เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสิ่งอื่นๆ ที่จะทำให้สโมสรเข้าที่เข้าทาง เรื่องที่ดีอย่างหนึ่งจากที่ไม่เยอะมาก คือเราเห็นภาพสถานการณ์ชัดมาก ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นเพื่อจะมองเห็นปัญหา
คราวนี้จึงอยู่ที่เพียงว่า คุณจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร ต้องไม่ใช่การแก้ไขแต่งองค์ทรงเครื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ อีกแล้ว นี่ต้องเป็นการผ่าตัดเปิดหัวใจ ถ้าทุกคนตระหนักว่าต้องทำและทำไปด้วยกัน มันไม่ต้องใช้เวลาหลายปี มันเกิดขึ้นได้ในปีเดียว สโมสรอื่นๆ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นไปได้ในหนึ่งฤดูกาลกับอีกครึ่งฤดูกาล” รักษาการผู้จัดการทีมปีศาจแดงกล่าว .
