สิงคโปร์ ชี้ท่องเที่ยวคึกคัก คาดปี’65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4-6 ล้านคน

การท่องเที่ยวสิงคโปร์ เผยการผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศ-ความต้องการท่องเที่ยวของนักเดินทางที่สะสมมานานหนุนการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม 4-6 ล้านคนในปีนี้

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 นายคีธ ตัน ประธานบริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) เปิดเผยว่า หลังเปิดประเทศภายใต้นโยบายฉีดวัคซีน (Vaccinated Travel Framework) ตามประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระแสการเดินทางทั่วโลกเพิ่มขึ้น ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนสิงคโปร์ถึง 1.5 ล้านคน มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ถึง 12 เท่า

และมีรายได้จากการท่องเที่ยว (Tourism Receipts – TR) ประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวก็ยังไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโรคระบาด

ซึ่งการท่องเที่ยวสิงคโปร์ยังคงเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวของสิงคโปร์จะกลับมาคึกคักเหมือนช่วงก่อนโควิดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับปีนี้คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (International Visitor Arrivals – IVA) จะมาเยือนสิงคโปร์รวมประมาณ 4-6 ล้านคน

“จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น บ่งบอกถึงความต้องการการท่องเที่ยวที่สะสมมานาน และย้ำให้เห็นว่าสิงคโปร์ยังคงเป็นจุดหมายที่ดึงดูดใจ และเป็นเป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

ทั้งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและการเดินทางเพื่อธุรกิจ และเชื่อมั่นว่าจากตารางกิจกรรม งานเทศกาลต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี รวมถึงข้อเสนอพิเศษมากมาย จะช่วยดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาสิงคโปร์มากขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้และปีต่อ ๆ ไป” นายคีธกล่าว

และว่า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (IVA) ที่เดินทางเข้ามาสิงคโปร์ในครึ่งแรกของปี 2565 สูงสุด 5 อันดับแรกคือ อินโดนีเซีย (282,000 คน), อินเดีย (219,000 คน), มาเลเซีย (139,000 คน), ออสเตรเลีย (125,000 คน) และฟิลิปปินส์ (81,000 คน) คิดเป็นร้อยละ 56 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามา

โดยนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย (เพิ่มขึ้นกว่า 2,000%) อินโดนีเซีย (เพิ่มขึ้นกว่า 1,996%) และอินเดีย (เพิ่มขึ้นกว่า 1,344%) ถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนมากที่สุด

นอกจากนี้ ระยะเวลาที่นักท่องเที่ยวพักอยู่ในสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว คือเฉลี่ยการเข้าพัก 7.1 วัน เทียบกับ 3.4 วัน เมื่อปี 2562 และรายได้จากการท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปี 2565 ก็สูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเพิ่มขึ้น 213% จากปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ รายได้ส่วนใหญ่มีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยรายได้จากการค้าปลีกเพิ่มขึ้น 373% และรายได้จากห้องพักและโรงแรมเพิ่มขึ้น 344% ซึ่งทำสถิติเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีก่อน

นายคีธกล่าวด้วยว่า การท่องเที่ยวสิงคโปร์เชื่อมั่นว่าตลาดการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าตารางกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจตลอดทั้งปี เช่น การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันในสิงคโปร์ประจำปี 2565 (Formula 1 Singapore Airlines Singapore Grand Prix 2022) และงานประชุม Bloomberg New Economy Forum จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น

รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น อย่าง อุทยานนรกสวรรค์ ณ ฮอว์ปาร์ วิลลา (Hell’s Museum at Haw Par Villa) พิพิธภัณฑ์ไอศกรีมสิงคโปร์ (Museum of Ice Cream Singapore) สกายเฮลิกซ์ เซ็นโตซ่า (SkyHelix Sentosa) และนิทรรศการตะลุยดาวแพนโดราในโลกของภาพยนตร์อวตาร ณ การ์เดนส์ บาย เดอะ เบย์ (Avatar : The Experience at Gardens by the Bay) จะกระตุ้นความสนใจให้นักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน

“การท่องเที่ยวสิงคโปร์ยังคงเป็นหน่วยงานหลักที่พัฒนาและส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวด้วยข้อเสนอพิเศษใหม่ ๆ และแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะช่วยสร้างความน่าสนใจ และโปรโมตให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจากทั่วโลกต่างสนใจมาเยือน รวมถึงการเพิ่มศักยภาพทางด้านอื่น ๆ อย่างการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Wellness & Sustainability” นายคีธกล่าว และว่า

นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมนี้ประเทศสิงคโปร์ก็จะเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยาน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สิงคโปร์ (Tour de France Singapore Criterium) ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลกอีกหนึ่งงาน ซึ่งมีความสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศสิงคโปร์ในการเป็นจุดหมายด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดี รวมถึงการแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติ (Sail Grand Prix) ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งแรกของเอเชียที่ประเทศสิงคโปร์ในปี 2566