วุฒิพล ถาวรธวัช บริหารโรงแรม “บริบทใหม่” สุดท้าทาย

วุฒิพล ถาวรธวัช
วุฒิพล ถาวรธวัช
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

จากโครงสร้างนักท่องเที่ยวหลังโควิดที่เปลี่ยนไป กลุ่มเดินทางด้วยตัวเองมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แนวโน้มดังกล่าวกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเมื่อโครงสร้างนักท่องเที่ยวเปลี่ยน ซัพพลายก็ปรับเปลี่ยนตามไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรม เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมเข้าพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวขึ้นไป ทำให้การแข่งขันของธุรกิจโรงแรมในวันนี้เป็นเกมของกลุ่มทุนใหญ่ หรือ “บิ๊กแบรนด์ บิ๊กเพลเยอร์”

ยืนหยัดแข่งแบรนด์อินเตอร์

“วุฒิพล ถาวรธวัช” กรรมการผู้จัดการ “เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” หรือ Urban Hospitality Group : UHG หรือยูเอชจี ผู้ลงทุนและบริหารโรงแรมระดับ 4 ดาว ภายใต้แบรนด์ The Quarter ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงมุมมองการบริหารธุรกิจโรงแรมภายใต้บริบทใหม่ ดังนี้

“วุฒิพล” ยอมรับว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยววันนี้เปลี่ยนไป ต้นทุนการเดินทางสูงขึ้น ทำให้กลุ่มที่เดินทางมาเที่ยวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และนิยมเข้าพักโรงแรมในระดับ 4-5 ดาว และเป็นกลุ่มแบรนด์อินเตอร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโรงแรมที่เป็นแบรนด์โลคอลจะไม่สามารถแข่งขันได้

“วุฒิพล” บอกว่า แม้ว่าโรงแรมในกลุ่มของ UHG จะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว แต่ด้วยโลเกชั่นสถานที่ตั้งที่อยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าทั้งหมด ทำให้โรงแรมทุกแห่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน

ปี’65 โตเกินเป้า 20%

โดยพบว่าอัตราการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาดีและใกล้เคียงกับในช่วงก่อนโควิดแล้วตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 และสามารถขยับราคาขายได้สูงกว่าช่วงก่อนโควิดไปแล้ว ซึ่งในช่วงเริ่มต้นนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ

“ส่วนตัวผมมองว่าทุกอย่างจะกลับสู่ปกติได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ เพราะดีมานด์การเดินทางยังคงสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงด้านการท่องเที่ยวโลก”

โดยผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมสูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ถึงราว 20% ทั้งนี้ รายได้ที่สูงขึ้นนั้นนอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจากการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้น และยังมีโรงแรมคู่แข่งบางส่วนที่ยังไม่กลับมาให้บริการ

โหมเดอะควอเตอร์ เจ้าพระยาเมื่อถามถึงโครงการใหม่ “วุฒิพล” บอกว่า เมื่อปลายปี 2565 กลุ่มยูเอชจีได้เปิดให้บริการโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ 1. โครงการสุขุมวิท ฮิลล์ สุขุมวิท 58 เปิดบริการในส่วนของโรงแรม 100 ห้องไปแล้ว ส่วนพื้นที่รีเทลและอาคารสำนักงานมีแผนจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 2 และ 2.โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ เจ้าพระยา โรงแรมใหม่สไตล์รีสอร์ต 250 ห้องจะเปิดให้บริการทั้งหมดในเดือนมีนาคมนี้

“โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ เจ้าพระยาตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมอีกแห่งที่ลงทุนสูงมาก ห้องพักถูกออกแบบให้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีห้องประชุมสัมมนาทั้งขนาดใหญ่และเล็ก และมีพื้นที่เอาต์ดอร์กว่า 300 ตารางเมตร สำหรับจัดงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ ซึ่งเรากำลังโหมโปรโมตให้เป็น wedding destination อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ”

เดอะ ควอเตอร์ เจ้าพระยา

จ่อเปิด “ราชเทวี-รัชโยธิน”

สำหรับโรงแรมที่อยู่ในแผนเปิดให้บริการในปีนี้มีอีก 1 แห่ง คือ โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ราชเทวี จำนวน 100 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 300 ตารางวา ถนนเพชรบุรี (แยกราชเทวี) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 4

และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 1 แห่งคือ โครงการรัชโยธิน ฮิลล์ บนที่ดิน 3 ไร่ครึ่ง ถนนพหลโยธิน ใกล้บริเวณสี่แยกรัชโยธิน ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 24 ประกอบด้วย โรงแรมจำนวน 228 ห้อง พร้อมฟิตเนสคลับ สระน้ำ ลูฟท็อป คลับเฮาส์หรู และห้องประชุม รวมถึงอาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก รวมประมาณ 12,000 ตารางเมตร มรีแผนเปิดบริการในปี 2567

บริบทใหม่สุดท้าทาย

“วุฒิพล” บอกว่า สถานการณ์ในวันนี้นับเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับการบริหารโรงแรม และไม่มีอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จอีกต่อไป เพราะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงทุกวัน ทุกอย่างจึงต้องยืดหยุ่น (flexible) และปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และสอดรับกับความต้องการของลูกค้า

“วันนี้เราต้องรื้อตำราการบริหารใหม่หมด เช่น ยุคก่อนในช่วงพีกซีซั่น 25 ธ.ค.-5 ม.ค. เราตั้งราคาเรตเดียวกันแต่ยุคนี้ 30-31ธ.ค.ขายได้ราคาสูงกว่าปกติ แต่หลังจากนั้นจะปรับลดลง การทำเรตราคาตามซันนิ่งจึงไม่ใช่อีกต่อไป หรือการขายเครื่องดื่มในห้องพัก วันนี้ก็ไม่ใช่แล้วเช่นกัน เราจึงดึงลอว์สันมินิมาร์ทเข้ามาเปิดในพื้นที่โรงแรมแทน เป็นต้น”

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าด้วยจุดแข็งในด้านกลยุทธ์การบริหารที่ดี ปรับตัวเร็ว และมีอีโคโนมี ออฟ สเกล ทำให้กลุ่ม “ยูเอชจี” บริหารต้นทุนได้ดีและสามารถแข่งขันในตลาดได้