ทายาทกงสี “ใบหยก” ปั้นธุรกิจอาหารเข้าตลาดหุ้น

“ใบหยก กรุ๊ป” หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างอาณาจักรมหึมาในย่านประตูน้ำ มีตึกใบหยก 1-2 ในตึกมีโรงแรมใบหยกสวีท และใบหยกสกาย เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ

 

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษทายาทคนรุ่นใหม่ วัย 36 ปี “ปิยะเลิศ ใบหยก” รองประธานกลุ่มใบหยก และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง จำกัด ในทุกเรื่องราว

“ปิยะเลิศ” บอกชัดว่า ใน 3 ปีนี้ ทิศทาง “ใบหยก กรุ๊ป” ยังคงเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทายาทกงสี “ใบหยก” เพราะรุ่นคุณปู่ และคุณพ่อ (พันธุเลิศ ใบหยก) สร้างรากฐานไว้นานแล้ว แต่จะเน้นธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก

ปัจจุบันมีโรงแรมกว่า 10 แห่งกระจายทั่วกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวในต่างจังหวัด

ล่าสุดเพิ่งเปิดใหม่อีก 1 แห่ง คือ โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ ย่านยมราช และกำลังจะเปิดอีก 1 แห่ง โดยเช่าที่การรถไฟฯพัฒนา ชื่อ “จัสติค รัชดา” ใกล้ศาลอาญา และอีกแห่งจะแตกทำเลไปใกล้เจ้าพระยา ย่านสี่พระยา ซอยกัปตันบุช

เป็นครั้งแรกที่ใบหยกจะทำออฟฟิศบิลดิ้งกึ่งมิกซ์ยูส บนที่ดินเช่า 30 ปี ถนนศรีอยุธยา มีอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก ร้านอาหาร ชื่อ “โครงการไดมอนด์ พาร์ค”

“ธุรกิจอสังหาฯต้องรอจังหวะ เพราะทำเลคือหัวใจ กลุ่มใบหยกยังคงลงทุนเพิ่มต่อเนื่อง แต่จะไม่ทำใหญ่แล้ว รุ่นผมเห็นว่าโรงแรมขนาดกลางเล็ก 100-200 ห้อง น่าจะโอเค ต้องชมรุ่นคุณพ่อที่กล้าบุกเบิก ทำให้ใบหยกมีชื่อเสียง”

“ปิยะเลิศ” บอกว่า ธุรกิจโรงแรมของตระกูล “ใบหยก” เป็น “ธุรกิจกงสี” ที่มีลูกหลานแบ่งงานบริหาร ในฐานะเจเนอเรชั่น 3 ของตระกูล เขาจะเน้นการพัฒนาและต่อยอด สร้างมูลค่าจากธุรกิจเดิมและแตกไลน์สู่ธุรกิจใหม่ ๆ แต่ยังสานต่อธุรกิจโรงแรมต่อไป

ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เขาขยายการลงทุนมาทำธุรกิจอาหารจริงจัง ภายใต้ PDS Holding ที่ย่อมาจาก Panlert Daughter and Son

“พีดีเอสฯจะโฟกัสเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นหลัก มีทั้งซื้อแบรนด์จากญี่ปุ่นโดยตรง และแบรนด์ที่พัฒนาเอง เพราะผมผูกพันกับญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเรียน เป็นธุรกิจที่เกิดจาก passion”

ปัจจุบันมีแล้ว 6 แบรนด์ คือ 1.อิคโคฉะราเมน ร้านทงคัตสึราเมนหมูแผ่นอันดับ 1 จากฮากาดะ จังหวัดฟุกุโอกะ 2.พาโบล ซีสทาร์ต จากโอซากา ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของซีสทาร์ตในญี่ปุ่นมาแล้ว 3.โมโมทาโร่ ราเมน ร้านเก่าแก่ที่สุดในซอยธนิยะ ย่านที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ

4.อุซิดะยะ ราเมน ร้านราเมนจากโยโกฮาม่า 5.เซไค โนะ ยามะจัง ร้านไก่ทอดจากนาโกยา สัญลักษณ์เป็นตัวการ์ตูน Mr. Yamamoto และ 6.Gram cafe & pancaked เป็นร้านกาแฟแพนเค้ก

“ผมสร้างเอง 2 แบรนด์ คือ อุชิดะ ราเมน และโมโมทาโร่ ราเมน ซึ่งมีแผนจะพัฒนาให้โดดเด่นขึ้น โดยต่อยอดขายแฟรนไชส์ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ผมฝันว่า เราจะเป็นร้านอาหารของคนไทยรายแรกที่ซื้อแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นมาพัฒนาจนคนญี่ปุ่นติดใจ แล้วกลับมาซื้อแฟรนไชส์เราไปเปิดตลาดใหม่ที่ญี่ปุ่น ปีนี้คงได้เห็น”

ปีนี้ทายาทใบหยกยังมีแผนเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่อีก 2 แบรนด์ และจะเพิ่มสาขาร้านอาหารในเครือข่ายมากกว่า 30 แห่ง

“ธุรกิจร้านอาหารไปได้ดี คนไทยชอบกิน อาหารญี่ปุ่นก็แรงไม่ตก เป็นอารมณ์ต่อเนื่องด้วยจากเรื่องท่องเที่ยว”

เมื่อตลาดเปิดและโอกาสให้ “ปิยะเลิศ”จึงตั้งใจจะนำ “พีดีเอส โฮลดิ้ง” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือก่อนที่เขาจะอายุ 40 ปี โดยมีแบรนด์ “พาโบล ซีสทาร์ต” และ “อุซิดะยะ ราเมน” เป็นเรือธง ที่สำคัญ ตลาดเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เมียนมา ก็ให้ความสนใจแบรนด์ของเขาเช่นกัน

“เป้าหมายผมอีกอย่างคือ ต้องสร้างแบรนด์ให้เกิด ให้เป็นที่ยอมรับ และพัฒนาให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทาย” ปิยะเลิศย้ำ

“ส่วนคุณพ่อคงทำธุรกิจที่ดินและอสังหาฯ ส่วนตัวผมคงไม่ แล้วในยุคผมคงไม่มีทางจะร่ำรวยจากธุรกิจที่ดินแน่นอน เพราะที่ดินแพงมาก ๆ ตารางวาละ 2-3 ล้าน บางทำเลมีเงินมากแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้”

นี่คือ เหตุผลที่ “ปิยะเลิศ” หันมาปลุกปั้นธุรกิจอาหารที่ตัวเองรัก และคิดว่า “ตัวเองจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่สอบผ่าน”


เพราะไม่ว่าจะธุรกิจอะไร ถ้าตั้งใจทำให้ดีที่สุดก็จะสำเร็จ