Amazing Songkran 2018 บูม 13 พื้นที่หลัก 5 เมืองรองทั่วไทย

เทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ : Amazing Songkran 2018” กิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์อันเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้คงอยู่ต่อไป

สำหรับปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังคงนำอัตลักษณ์ของวิถีไทยมาเสริมสร้างให้กิจกรรมสงกรานต์มีความโดดเด่น เพื่อส่งเสริมให้เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และสามารถสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจฐานราก

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า ในช่วงเทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์นี้ ททท. ได้ส่งเสริมการจัดงานในพื้นที่ต่าง ๆ กระจายไปทั่วประเทศ อีกทั้งยังรณรงค์ให้คนไทยได้เห็นความสำคัญและตระหนักถึงการได้ใช้เวลากับครอบครัว พร้อมทั้งสร้างกระแสการแต่งกายด้วยชุดไทยเข้าร่วมกิจกรรมทางประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

ในแนวคิด “กลับบ้าน แต่งไทยไปเล่นสงกรานต์” ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทยที่น่าภาคภูมิใจ โดยกำหนดจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ขึ้นในจังหวัดเมืองรอง 5 จังหวัด ทุกภูมิภาค ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร จันทบุรี นครศรีธรรมราช และสิงห์บุรี

“ไกรสร กองฉลาด” ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกว่า กาฬสินธุ์จัดงาน “สงกรานต์ดีโน่สินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก” บนแนวคิดสงกรานต์รักษ์สิ่งแวดล้อม “น้ำมีวันหมด ใช้ทุกหยด อย่างรู้ค่า-ซิด แทน สาด” ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน 2561 ณ ลานวัฒนธรรม วัดสว่างคงคา อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์

ภายในประกอบด้วยขบวนแห่และสรงน้ำหลวงพ่อองค์ดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จากวัดกลางพระอารามหลวง และร่วมเล่นน้ำกับไดโนเสาร์ พร้อมทั้งชมการเปิดตัวศิลปินลูกหลานชาวกาฬสินธุ์ “วงแพรวา จีจี้” ที่จะช่วยสร้างสีสันให้กับงานสงกรานต์ในปีนี้

“ธัชชัย ศรีสุวรรณ” ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร บอกว่า กำแพงเพชร จัดงาน “สงกรานต์มงคล ก่อพระทรายน้ำไหล ยิ่งใหญ่พวงมโหตร” ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ณ ถนนริมแม่น้ำปิงเชื่อมโยงถึงเกาะกลางแม่น้ำปิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

งานนี้นักท่องเที่ยวจะได้ลอดซุ้มน้ำมนต์ความยาวกว่า 100 เมตร ร่วมชมความงามของพวงมโหตรที่ใช้ตกแต่งสะพานข้ามสู่เกาะกลาง และร่วมก่อเจดีย์ทรายสืบสานประเพณีไทย

รวมทั้งนำเสนอกิจกรรม Plogging ซึ่งมาจากคำว่า Pick up ผสมกับ Jogging เพื่อให้นักท่องเที่ยววิ่งเก็บขยะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความมีส่วนร่วมในการคืนสภาพพื้นที่บริเวณการจัดงานให้กลับมาสะอาดและน่าท่องเที่ยวต่อไป

ขณะที่ “วิทูรัช ศรีนาม” ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จันทบุรีจัดงาน “มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท จันทบุรี” ระหว่างวันที่ 13 -17 เมษายน 2561 ณ บริเวณวัดตะปอนน้อย วัดตะปอนใหญ่ และวัดเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมชมพิธีโบราณการสวดและขบวนแห่เกวียนผ้าพระบาทที่สวยงาม เชิญร่วมกิจกรรมชักเย่อเกวียนผ้าพระบาทที่สนุกสนาน ร่วมก่อพระเจดีย์ทราย 2561 กอง ชื่นชมกับวิถีท้องถิ่นโดยการชิมอาหาร “ร้อยรส-พันอย่าง” และการแสดงแสง เสียง ตามรอยเสด็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่มีตำนานอันประทับใจ เพื่อร่วมสืบสานความงดงามในช่วงเทศกาลสงกรานต์

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช “ขจรเกียรติ รักพานิชมณี” รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้เตรียมจัดงาน “เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช” ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2561 ณ บริเวณถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงาม ตระการตาของแสง เสียง ในขบวนแห่นางดาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของพิธีโล้ชิงช้า ร่วมพิธีบวงสรวงและพิธีอัญเชิญพระอิศวร ตลอดทั้งร่วมชมความงดงามของการรำเสนง (รำ สะ เหนง) ซึ่งเป็นการฟ้อนรำที่หาโอกาสชมได้ยาก และมีเฉพาะที่นครศรีธรรมราชที่เดียวเท่านั้น พร้อมเสริมสิริมงคลในพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 6 แหล่ง

ด้าน “ประสงค์ คงเคารพธรรม” รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ก็ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมงาน “นุ่งโจง ห่มสไบ เล่นน้ำแบบไทย ๆ ณ สิงห์บุรี” ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน 2561 ณ วัดโพธิ์เก้าต้น อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี

โดยงานนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมขบวนหลวงพ่อโตโคตะมะและหลวงปู่ธรรมโชติ ร่วมพิธีตักน้ำและปลุกเสกน้ำทิพย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านระจันเคารพนับถือ โดยชาวบ้านจะแต่งกายแบบบ้านระจัน ใช้ภาษาพูด และกิจกรรมรูปแบบประเพณีแบบโบราณ เล่นน้ำสงกรานต์โดยใช้กะลา เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณี และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวกิจกรรมต่าง ๆ จะสอดแทรกเรื่องความศรัทธา ความสามัคคี ความรักชาติและเต็มไปด้วยความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังมีการแสดงแสง เสียง ชุด “น้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน สู่มหาสงกรานต์บ้านระจันอีกด้วย

ผู้ว่าการ ททท. ยังบอกด้วยว่า นอกจากพื้นที่เมืองรองทั้ง 5 เมืองแล้ว ททท.ได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมสงกรานต์วิถีไทยในกรุงเทพฯ และ 12 พื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ขอนแก่น นครพนม หนองคาย สุพรรณบุรี อยุธยา ชลบุรี สมุทรปราการ สงขลา (หาดใหญ่) และภูเก็ต ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการจัดงานที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจะสร้างการรับรู้ในแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนใหม่ และทำให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวมากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในจังหวัดเมืองรองให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ภายในปี 2561 ตามนโยบายและแผนของ ททท. รวมถึงสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่ม กระจายรายได้อย่างยั่งยืน และครบวงจร

พร้อมทั้งได้เชิญชวนให้ทุกคนร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีที่งดงามนี้ โดยการ “กลับบ้าน แต่งไทยไปเล่นสงกรานต์” ด้วยชุดไทยท้องถิ่นตามประเพณีและคติความเชื่อท้องถิ่น ควบคู่กับการตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว


พร้อมทั้งเชิญชวนให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามภูมิภาคและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ให้เกิดความรักและความประทับใจในอัธยาศัย น้ำใจ มิตรไมตรี ของชาวไทย เพื่อเป็นการตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ยังคง “Amazing” ในหัวใจของนักท่องเที่ยวทุกคนต่อไป