“ยูเค-เยอรมัน-สเปน” ฮอต รั้งทำเลทองลงทุนโรงแรม

“ซีอาร์อี” ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เผยผลสำรวจพบ “สหราชอาณาจักร-เยอรมนี-สเปน” รั้งทำเลยอดนิยม 3 อันดับแรกด้านลงทุนโรงแรม ขณะที่ “สหราชอาณาจักร” เป็นประเทศที่นักลงทุนไทยนิยมสูงสุด

รายงานข่าวจากซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เปิดเผยว่า จากผลสำรวจแนวโน้มนักลงทุนโรงแรมในยุโรป ประจำปี 2561 ของซีบีอาร์อี ซึ่งเป็นการสอบถามนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จำนวน336 คน ที่ให้ความสนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรม พบว่า 94% มีแนวโน้มที่จะลงทุนโรงแรมในยุโรป ด้วยเม็ดเงินลงทุนในระดับที่ใกล้เคียงหรือมากขึ้นในปี 2561

โดยประเทศสหราชอาณาจักร เยอรมนี และสเปน ยังคงเป็นประเทศที่นักลงทุนนิยมลงทุนด้านโรงแรมเป็น 3 อันดับแรกในยุโรป

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า นักลงทุนโรงแรมส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้เป็นกองทุนที่ลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (private equity) ผู้จัดการสินทรัพย์ และนักลงทุนเอกชน มากกว่าที่จะเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญและบริษัทประกันภัยที่นิยมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนอย่างอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งผู้เช่าทำสัญญาในระยะยาวกว่าและพบว่า 48% ของนักลงทุนดังกล่าวมีแผนที่จะลงทุนโดยตรง

ขณะที่การร่วมหุ้นและกิจการร่วมค้า (joint venture) ยังคงเป็นรูปแบบการลงทุนยอดนิยมสำหรับการลงทุนแบบพอร์ตโฟลิโอ

นอกจากนี้ 65% ของเม็ดเงินลงทุนมาจากยุโรปนั้น ซีบีอาร์อีคาดว่าเงินทุนจากฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย จะค่อย ๆ เริ่มกลายเป็นเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่ที่มาจากเอเชีย-แปซิฟิก หลังจากการลงทุนของจีนชะลอตัวลงอันเป็นผลมาจากมาตรการการจำกัดเงินลงทุนในต่างประเทศ

และเมื่อกล่าวถึงโรงแรมในฐานะสินทรัพย์การลงทุน ความโปร่งใสที่มีมากขึ้นและความรู้เกี่ยวกับตลาดนี้ที่ขยายออกไปในวงกว้างมากขึ้น เป็นองค์ประกอบที่ทำให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดนี้มากขึ้น โรงแรมไม่ได้ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่เฉพาะทางและเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เชี่ยวชาญเท่านั้นอีกต่อไป

ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถือครองสินทรัพย์ประเภทโรงแรมอยู่ระหว่าง 5-10 ปี ในขณะที่นักลงทุนบางรายเลือกที่จะถือครองในระยะสั้นกว่านั้นและเมื่อซีบีอาร์อีสำรวจถึงเหตุผลที่ลงทุนในโรงแรมพบว่า 38% กล่าวว่า มีความคาดหวังว่าโรงแรมจะมีมูลค่าที่สูงขึ้น ขณะที่อีก 16% กล่าวว่า ต้องการกระจายการลงทุนในด้านอัตราผลตอบแทน หรือ yields ของโรงแรมในตลาดยุโรปส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่มีมาก แต่ก็เป็นสัญญาณของเงินเฟ้อด้านราคาสินทรัพย์เช่นกัน

นอกจากนี้ยังระบุว่า ประเทศยอดนิยมสำหรับการลงทุนโรงแรมในปี 2561 สูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และสเปน โดย 69% ของนักลงทุนเลือก 3 ประเทศนี้ โดยสหราชอาณาจักรยังคงเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอกชนและนักลงทุนรายย่อยมากที่สุด

ด้านนายอรรถกวี ชูแสง หัวหน้าแผนกธุรกิจโรงแรม ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวคาดการณ์ว่า นักลงทุนไทยจะยังคงให้ความสนใจการลงทุนโรงแรมในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจักร