ของบฯดิจิทัลวอลเลต 1 แสนล้าน ดันเป้ารายได้ “ท่องเที่ยวไทย” 3.5 ล้านล้าน

Digital Budget

“เอกชนท่องเที่ยว” เชื่อรายได้ท่องเที่ยวปีนี้หลุดเป้า 3.5 ล้านล้านบาท เผย 5 เดือนครึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 16 ล้านคน เสนอรัฐใช้เงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 กับภาคการท่องเที่ยว 1 แสนล้านบาท เดินหน้าควบคู่มาตรการลดหย่อนภาษี บัสทัวร์ทั่วไทย รัฐทัวร์ทั่วไทย กระตุ้นไทยเที่ยวไทย ด้าน รมว.เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เน้นย้ำเชื่อมั่นภาพลักษณ์เมืองไทยสะดวก ปลอดภัย หนุนเป้ารายได้

นายกิตติ พรศิวะกิจ กรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และประธานอนุกรรมการ Smart Tourism สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาไทย ที่รวบรวมโดยฝ่ายดิจิทัล วิจัย และพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมระหว่าง 1 มกราคม 25 มิถุนายน 2567 รวม 16,099,683 คน และคาดการณ์ว่ารวมตลอดปีนี้น่าจะมีจำนวนรวมประมาณ 36-38 ล้านคน

มาเลย์-อินเดีย-สิงคโปร์ โตแรง

โดยในช่วงครึ่งเดือนแรก (1-15) เดือนมิถุนายนมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,338,772 คน หรือเฉลี่ย 89,251 คนต่อวัน ทำให้คาดว่าครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2567) นี้ ประเทศไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมที่ประมาณ 17.4-17.5 ล้านคน

ทั้งนี้ ตลาดที่มีการขยายตัวอย่างชัดเจน ประกอบด้วย มาเลเซีย โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวสะสมจำนวน 2,234,270 คน คาดว่ารวมทั้งปีน่าจะมีจำนวนที่ประมาณ 4.5 ล้านคน สร้างรายได้ราว 1.5 แสนล้านบาท อินเดีย ปัจจุบันมีจำนวนรวม 945,219 คน เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นตลาดอันดับ 3 ที่แข็งแกร่งรองจากจีนและมาเลเซีย สำหรับปีนี้คาดการณ์จะมีจำนวนเกิน 2 ล้านคน และทำให้มูลค่ารวมตลาดเอเชียใต้มีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท

ส่วนตลาดสิงคโปร์ ปัจจุบันมีจำนวนเฉลี่ยติดท็อป 5 ของตลาดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด หรือกว่า 5,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะกลุ่มตลาดไมซ์และเอฟไอทีที่ดีต่อเนื่อง ไต้หวัน ตัวเลขยังดีต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณ 3,000 คนต่อวัน ปัจจุบันเข้ามาแล้ว 480,000 คน และคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีจะมีจำนวนเกิน 1 ล้านคน เช่นเดียวกับเวียดนามที่กลับมาติดท็อป 10 มีจำนวนสะสม 445,000 คน และคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีจำนวนกว่า 1 ล้านคน

“ตะวันออกกลาง” ชดเชยยุโรป

ขณะที่ตลาดระยะไกล (Long Haul) พบว่า ตลาดตะวันออกกลางมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางรวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยประเมินว่าจะเป็นตลาดที่จะมาชดเชยตลาดยุโรป เยอรมัน และรัสเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของ FTI บริษัททัวร์ขนาดใหญ่อันดับ 1 ของยุโรปล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภูมิภาคไปด้วย

ADVERTISMENT

กราฟฟิก นักท่องเที่ยวใหม่

“สำหรับตลาดจีน ตอนนี้เรามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 3.16 ล้านคน ล่าสุดอัตราเฉลี่ยของการเดินทางเข้าประเทศไทยยังอยู่ในระดับ 15,000-18,000 คนต่อวัน ทำให้คาดว่าตลอดทั้งปีนี้น่าได้ประมาณ 7-8 ล้านคน”

ADVERTISMENT

ทั้งปีรายได้หลุดเป้า 3.5 ล้านล้าน

นายกิตติกล่าวด้วยว่า จากการคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวรวมตลอดปีนี้ที่ประมาณ 36-38 ล้านคน หากคำนวณจากมูลค่าการใช้จ่ายที่ 50,000 บาทต่อคนต่อทริป จะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.8-1.9 ล้านล้านบาท หรือหากดันเต็มที่ได้ 40 ล้านคนเท่าปี 2562 จะสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่า 2.0 ล้านล้านบาท

ขณะที่ตลาดไทยเที่ยวไทย (Domestic) พบว่าปัจจุบันมีการใช้จ่ายต่อคนต่อทริปต่ำลง เหลืออยู่ที่ประมาณ 4,500 บาท หากสามารถกระตุ้นการเดินทางได้ถึงจำนวน 200 ล้านคน-ครั้งตามเป้าหมาย จะสร้างรายได้ที่ราว 900,000 ล้านบาท

“รวมทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดไทยเที่ยวไทยจะพบว่ามีมูลค่ารวมที่ 2.9 ล้านล้านบาทเท่านั้น ยังไม่ถึงเป้า 3.5 ล้านล้านบาท อีกราว 6 แสนล้านบาท”

ขอดิจิทัลวอลเลตหนุนท่องเที่ยว

นายกิตติกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากรัฐบาลต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่ม GDP ด้วยรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเสริมโครงการต่าง ๆ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเพิ่มเติม เช่น ใช้เงินโครงการดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท โดยภาคเอกชนท่องเที่ยวขอใช้งบประมาณในโครงการดังกล่าวประมาณ 20% หรือ 100,000 ล้านบาท มาทำโครงการในลักษณะเดียวกับ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลสนับสนุนการใช้จ่าย 40%

“เรามั่นใจว่าถ้านำงบฯจากโครงการดิจิทัลวอลเลตมาใช้ประมาณ 100,000 ล้านบาท เราจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มได้ราว 250,000 ล้านบาท ถ้าไม่เอาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาใช้กับภาคท่องเที่ยว เป้ารายได้ 3.5 ล้านล้านบาทปีนี้ไม่ถึงแน่นอน” นายกิตติกล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการนโยบายเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ลดหย่อนภาษี โครงการบัสทัวร์ทั่วไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามภาค โครงการรัฐทัวร์ทั่วไทย ส่งเสริมข้าราชการ หน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น

แค่ “วีซ่าฟรี” เอาไม่อยู่

ประธานอนุกรรมการ Smart Tourism สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับนโยบายวีซ่าฟรี 60 วันสำหรับ 93 ประเทศ/พื้นที่นั้นเป็นมาตรการที่เป็นปัจจัยบวกสำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทยและได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอเนื่องจากยังมีปัจจัยลบอื่น ๆ ร่วมอีกจำนวนมาก

ดังนั้น หากมีโครงการสนับสนุนด้านซอฟต์โลน และกองทุนท่องเที่ยว ร่วมด้วยก็ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลับมาแข็งแรงขึ้น

Digital Budget

“หากตั้งเป้ารายได้รวม 3.5 ล้านล้านบาท ต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน และสร้างรายได้ที่ราว 2.24 ล้านล้านบาท เราต้องเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยให้ได้ที่ประมาณ 56,000 บาท นั่นหมายความว่าเราต้องเพิ่มสัดส่วนตลาดระยะไกลและตลาดที่ใช้จ่ายสูงให้มากขึ้น และต้องเพิ่มรายได้จากตลาดในประเทศให้ได้ถึง 1.26 ล้านล้าน”

“เสริมศักดิ์” เน้นความปลอดภัย

ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวรายได้ท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะเน้นการพัฒนาทั้งด้านการตลาด (Demand Side) และด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการ (Supply Side) โดยให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวก ป้องกันและรักษาความปลอดภัย ช่วยเหลือเยียวยา และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูล เพื่อสร้างความมั่นใจและความประทับใจต่อประเทศไทยระยะยาว

โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลดำเนินการในขณะนี้คือ การช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 สิงหาคม 2567

ทั้งนี้ กระทรวงยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการขอต่ออายุออกไปอีกระยะ เพื่อคงมาตรการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว ก่อนที่จะมีการเดินหน้าจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ถูกชะลอในช่วงโลว์ซีซั่นตามนโยบายของรัฐบาลในช่วงเวลานี้

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก เฝ้าระวัง และมีมาตรการสร้างความอบอุ่นใจอื่น ๆ เช่น สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 และแอปพลิเคชั่น Thailand Tourist Police ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้